ถ้าคุณคือหนึ่งในแฟนคลับ มาดูกันว่าคุณคือแฟนคลับเลเวลไหน
เลเวลเริ่มต้น: ซัพพอร์ตผลงาน ติดตามทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น IG, X (Twitter), รายการวาไรตี้ หรือช่องทางออฟฟิเชียลต่างๆ แถมยังคอยอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ เรียกได้ว่าถ้าใครถามอะไร ตอบได้หมด
เลเวลกลาง: เริ่มมีของสะสมกระจายอยู่ทั่วห้อง ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาตัวแทนของศิลปินที่พกไปด้วยทุกที่ โปสเตอร์ อัลบั้ม ของสะสมกระจุกกระจิก จนมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของแฟนด้อม ทั้งโดเนตป้ายวันเกิดในสถานีรถไฟฟ้าหรือรถตุ๊กตุ๊ก จนถึงฟู้ดซัพพอร์ต
เลเวลสูง: ไม่ว่าจะศิลปินจะมีงานที่ไหน ถ้าหาเวลาว่างได้แล้วไม่มีทางที่จะไม่ไปให้กำลังใจ ทั้งอีเวนต์ แฟนมีต หรือคอนเสิร์ตแถวหน้าไม่เคยพลาดสักครั้ง
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ มายด์-รวิสรา ราเหม เจ้าของตำแหน่งสุดยอดแฟนด้อมพันธุ์แท้ ATLAS เคยทำมาแล้ว และพิสูจน์ความเป็นแฟนพันธุ์แท้ในรายการควิซเกมโชว์ในตำนานอย่าง ‘แฟนด้อมพันธุ์แท้’ ที่ดัดแปลงมาจากรายการแฟนพันธุ์แท้กับคำถามที่ท้าทายความเป็นแฟนคลับของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม 3 วิ แข่งตอบคำถามรอบกดสัญญาณไฟ จนถึงคำถามรอบสุดท้ายที่ต้องงัดเอาความรู้ลึก รู้จริง ออกมาใช้ทั้งหมด จนมายด์ยกให้เป็นเรื่องที่เธอไม่คิดว่าจะทำได้ตั้งแต่เป็นแฟนคลับมา
แน่นอนว่าแฟนคลับแต่ละคนก็มีวิธีสนับสนุนศิลปินหรือคนที่ชื่นชอบแตกต่างกันไป และเลเวลข้างต้นก็เป็นเพียงการแบ่งคร่าวๆ คงเป็นเรื่องยากหากจะชั่ง ตวง วัด ว่าใครรักศิลปินมากกว่าใคร แต่เป้าหมายเดียวกันของแฟนคลับทุกคนนั้นคือการแสดงพลังสนับสนุนไปให้ถึงศิลปิน คนที่พวกเขารักในแบบที่ทำได้
ในวันที่ T-POP บ้านเราเริ่มคึกคักมากขึ้น ค่ายเล็กค่ายใหญ่ต่างพากันเดบิวต์ศิลปินบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ปเกือบทุกๆ ไตรมาส นั่นยิ่งทำให้กลุ่มแฟนคลับของไทยเริ่มเติบโตไปด้วย แม้วัฒนธรรมแฟนด้อมกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปพบเห็นได้ง่ายๆ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแฟนคลับจึงยอมทุ่มเทขนาดนี้
เราชวนทุกคนมาเจาะลึกเบื้องหลังการเป็นแฟนคลับกันให้มากขึ้น มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง จนถึงเหตุผลว่าทำไมเราจึงรักคนที่ไม่เคยรู้จักกันได้ขนาดนี้ จากปากของผู้ชนะแฟนด้อมพันธุ์แท้ ที่รู้ตัวว่ามีศิลปินเป็นแรงบันดาลใจตั้งแต่จำความได้
1
การที่เราได้ไปเจอเขาตามอีเวนต์ต่างๆ แค่ได้เห็นเขาโบกมือให้แฟนคลับ มันก็ทำให้รู้สึกมีความสุข อาจจะช่วยบรรเทาทุกข์จากที่เราเคยเครียดเรื่องอื่นๆ ลงได้เยอะ
“เราฟังเพลงไทยมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่ประถมก็ฟัง Potato ฟังมาตลอด แล้วก็เริ่มต้นตามศิลปินคนอื่นๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตามเยอะเท่าไหร่ ช่วงแรกเราเริ่มตาม The Star ตอนนั้นยังอยู่ต่างจังหวัดอยู่ ก็ติดตามแค่โหวต ซัพพอร์ตผลงานต่างๆ แล้วก็ฟังเพลง โหลดเพลง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตามเลย เริ่มตามมากขึ้นตอน แปลรักฉันด้วยใจเธอ เริ่มชอบบิวกิ้น-พีพี แล้วก็ตามผลงานน้องๆ ทั้งผลงานเพลง และการแสดง แล้วมาอีกทีก็คือตาม ATLAS คือตามหนักมาก ไปเกือบทุกงาน
“ที่เริ่มมาติดตาม ATLAS เพราะช่วงนั้นเริ่มเครียดกับการสอบใบประกอบวิชาชีพพยาบาล แล้วเพื่อนเปิดคลิปวิดีโอ ATLAS ให้ดูก็เริ่มดูจริงจัง จากที่ก่อนหน้าเรารู้จักแค่ว่าคือวง ATLAS มีสมาชิกเป็นใครบ้าง ติดตามผลงานเพลงมาบ้างแล้ว แต่หลังจากนั้นเราก็เริ่มมาติ่ง มาซัพพอร์ตจริงจัง และได้รู้จักเขาผ่านคลิปต่างๆ ที่ได้ปล่อยลงยูทูปของเขาเอง พอได้รู้จักตัวตนของทั้ง 7 คน ก็ยิ่งอยากซัพพอร์ตเขา
“การได้ตามวงนี้มันช่วยเราในแง่ซัพพอร์ตจิตใจ เราอาจจะเครียดเรื่องอื่นๆ แต่การที่เราได้ไปดู การแสดงของวง หรือการที่เราได้ไปเจอเขาตามอีเวนต์ต่างๆ แค่ได้เห็นเขาโบกมือให้กับแฟนคลับ มันทำให้รู้สึกมีความสุข ได้บรรเทาทุกข์จากที่เราเคยเครียดเรื่องอื่นๆ ลงได้เยอะ
ถึงจะยุ่งแค่ไหนก็หาเวลาไปเจอศิลปินได้เสมอ
“ส่วนตัวเราทำอยู่จะเป็นวอร์ดพิเศษ จะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ทำอยู่ที่เริ่มทำงานพร้อมๆ กัน เราจะหาเวลาไปได้ โดยเรียกมันว่า ‘การแลกเวร’ สมมุติเพื่อนว่างวันนี้แต่เราไม่ว่าง แล้วเราต้องไปตามศิลปินภายในวันนี้ เราก็ต้องขอแลกกันกับเพื่อน เธอไปขึ้นวันนี้แทนนะ เดี๋ยวฉันไปขึ้นวันนี้แทนให้ แต่ถ้าวันนี้ไม่ว่างไปเลยก็จะขอแลกไปขึ้นเวรดึกแทน คือไปติ่งให้เสร็จก่อน แล้วค่อยกลับมาขึ้น 5 ทุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ เพราะเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเขาก็ติ่ง Proxie เหมือนกัน ก็แลกกันไปตามวง”
2
ตอนแรกก็ลังเล (ที่จะสมัครรายการแฟนด้อมพันธุ์แท้) กลัวว่าความชอบของเราจะทำให้เครียด พอกลับมาคิดอีกที เราลองเอาความชอบไปทำให้เขารู้ดีไหมว่ามีคนที่รักเขามากขนาดนี้
เหตุการณ์ที่คิดว่าตัวเองไม่น่าจะทำได้ตั้งแต่เป็นแฟนคลับมาคืออะไร?
“คิดว่าเรื่องไปแข่งแฟนด้อมพันธ์แท้ของ ATLAS นี่แหละ ตอนแรกก็ลังเล เพราะเราไม่ได้อยู่กับน้องมาตั้งแต่เดบิวต์ แต่ก็ไม่ได้ตามขนาดนั้น พอเราได้มารู้จักได้มาซัพพอร์ตเขา เราก็รู้สึกว่ารักเขา เพื่อนก็คะยั้นคะยอให้มาสมัคร สุดท้ายก็ตัดสินใจไปสมัคร แต่ก็เอาความรักที่มีให้เขามาเล่นเกม ทำเท่าที่ทำได้ สุดท้ายมันก็เลยเกิดเหตุการณ์ไม่น่าเชื่อขึ้น คือได้เป็นแฟนพันธ์ุแท้ ATLAS ก็รู้สึกว่าคอมพลีตในชีวิตอยู่เหมือนกัน”
“ตอนแรกเขาจะให้ส่งใบสมัครเป็นกูเกิลฟอร์มก่อน ถ้าสมมุติมันพอที่จะเข้ารอบได้ เขาจะเรียกไปสัมภาษณ์อีกรอบ ให้เหลือ 5 คน ตอนนั้นจริงๆ แอบมีถอดใจบ้างเพราะงานยุ่งมาก แล้วหาเวลาไปสัมภาษณ์ไม่ได้เลย แต่ทีมงานเขาก็อนุเคราะห์สัมภาษณ์ออนไลน์ได้ ตอนแรกเราลังเล กลัวว่าความชอบของเราจะทำให้เครียดไหม พอกลับมาคิดอีกที เราก็รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขามาหลายอย่างแล้ว เราลองเอาความชอบเราไปทำให้เขารู้ดีไหมว่ามีคนที่รักเขามากขนาดนี้”
“สุดท้ายเราอาจจะไม่ได้ทำการบ้านหนักขนาดนั้น เราแค่ไปหาความรู้เพิ่มในส่วนที่เราอาจจะตกหล่นไป ระหว่างนั้นมันไม่ได้เป็นเรื่องเครียดว่าต้องได้เท่านั้น เราก็ดูคลิปเรื่อยๆ คลิปหนึ่งเราก็ไม่ได้ดูแค่ครั้งเดียว เราดูหลายๆ ครั้ง มันเลยจำได้ มันเป็นความสุขที่เราจำได้มากกว่า มันเป็นความชอบของเรา มันเลยไม่เครียด”
“การแข่งขันในรายการตอนแรกไม่ค่อยมีสติเลย เพราะอยากเห็นหน้าเมนออกมา มันก็มีทั้งตื่นเต้นกลัวคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็เลยพยายามนิ่งให้ได้มากที่สุด นับ 1-10 ในใจ พอไปอยู่หน้างานมันก็มีช็อตที่สมองว่างเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราเคยชิน มันอยู่ในหัวเราแล้วมันก็เลยจำได้ มันไม่เหมือนกับท่องจำไปสอบ สอบออกมาแล้วก็ลืม ถ้ามีความชอบมันเลยไม่รู้สึกเครียดเท่าไหร่”
3
“เป้าหมายสูงสุดของแฟนคลับคือการเห็นศิลปินตัวเองไปได้ไกลตามที่ใจเขาต้องการ”
“เรารู้สึกว่าแฟนคลับทุกคนเท่ากันหมดเลย ทุกคนซัพพอร์ตศิลปินในส่วนที่เขาทำได้ แล้วการซัพพอร์ตตรงนั้นก็ทำให้ศิลปินเราเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป ใครคนใดคนหนึ่งทำมันก็ไม่ได้ เท่าที่เห็น ATLAS เขาให้ความสำคัญของการมีอยู่ของ ALIS (ชื่อแฟนคลับของวง ATLAS) ทุกคนที่เป็นแฟนคลับเขา เลยรู้สึกประทับใจ”
“เป้าหมายสูงสุดของแฟนคลับคือการเห็นศิลปินตัวเองไปได้ไกลตามที่ใจเขาต้องการ แล้วแต่เขาเลยว่าอยากไปได้ไกลแค่ไหน หรืออยากทำอะไร ให้เขาเป็นตัวของตัวเอง แค่นั้นคือแฟนคลับทุกคนแฮปปี้มากๆ”
“ปกติเราจะติดตามเขาทุกช่องทางเท่าที่ทำได้ เวลามีโหวตก็จะโหวตในแอปฯ T-POP Stage ให้เขา เวลาเขาออกเพลงใหม่ หรือเขามีกิจกรรมอะไรก็จะเข้าไปมีส่วนร่วม เล่นเกม ปั่นแท็กให้ติดเทรนด์เข้าไปสตรีมเพลง ดูยูทูบ แล้วก็ไปตามงานต่างๆ เท่าที่จะไปได้ ไปส่งเสียงเป็นกำลังใจให้เขาเห็นว่ามีแฟนคลับรักเขาเยอะแค่ไหน หรืออาจจะมีโดเนตโปรเจกต์วันเกิดบ้างตามโอกาส”
ทุกวันนี้การติดตามศิลปินไม่ได้มีเพียงแค่การติดตามผลงานเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการแสดงออกใหม่ๆ เพื่อส่งพลังซัพพอร์ตไปให้ศิลปินรับรู้ด้วยวิธีการใหม่ๆ ด้วย
“การโดเนตขึ้นป้ายหรือการโหวต มันเป็นการทำให้คนอื่นๆ มองเห็นศิลปินเราเพิ่มมากขึ้น ทำให้ศิลปินเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อันนี้ก็ถือเป็นการซัพพอร์ตที่คิดว่ามีประสิทธิภาพมากพอสมควร เพราะพอเราขึ้นป้ายแล้วคนอื่นได้เห็นความสามารถ หรือตัวตนของเขา ก็อาจทำให้คนสงสัยว่าคนนี้คือใครนะ แล้วได้มารู้จักหรือมองเห็นความสามารถ ก็อาจจะช่วยซัพพอร์ตผลงานเพิ่มขึ้นอีกแรง
“ช่องทางติดตามส่วนใหญ่ ถ้าเป็นวง ATLAS เราเขียนอะไรถึงเขาแล้วติดแท็ก เขาก็จะเห็นตลอด อาจจะเข้าจะมีส่วนร่วมในการรีทวิตบ้างหรือมาไลก์ บางครั้งถ้าแท็กไอจีไป เขาก็จะมาดูตลอด หรือเวลาไปเจอตามงานต่างๆ เขาจะอายคอนแท็กต์ (Eye Contact) ตลอดเลย แล้วเขาก็จะเล่นกับแฟนคลับด้วย เวลาเราอยากอวยพรเขา อยากพิมพ์อะไรส่วนตัวถึงเขา จะมั่นใจแน่ๆ ว่าเขาจะรับรู้
“ช่วงแรกจะเป็นการตามซัพพอร์ตผลงาน เมื่อก่อนจะเข้าถึงทางโซเชียลได้ยากกว่า แต่ตอนนี้เขาก็มีโซเชียลหลายๆ แพลตฟอร์ม ได้มาพูดคุยกับแฟนคลับบ้าง มันก็รู้สึกเข้าถึงศิลปินได้ง่ายกว่า แต่มันก็ยังมีระยะห่างระหว่างศิลปินและแฟนคลับอยู่ที่พอเหมาะพอควร”
4
มันแล้วแต่ชีวิตของแต่ละคนว่าจะไปหาความสุขของตัวเองในรูปแบบไหน อย่างเราก็เลือกไปหาความสุขจากการไปตามศิลปิน ขณะที่บางคนอาจจะไปเที่ยว เรารู้สึกมันไม่ใช่การเสียเวลา เพราะมันเป็นการไปหาความสุข
“สำหรับบางคนที่เขามองการตามศิลปินไม่ค่อยดี จริงๆ มันแล้วแต่คน เราห้ามความคิดคนไม่ได้ คนที่ตามศิลปินมันก็เป็นงานอดิเรกชนิดนึง บางคนว่างก็อาจจะไปออกกำลังกาย หรือไปเรียนดนตรี ไปทำนู่นทำนี่ มันก็แล้วแต่ชีวิตของแต่ละคนว่าจะไปหาความสุขของตัวเองในรูปแบบไหน อย่างเราก็เลือกไปหาความสุขจากการไปตามศิลปิน ขณะที่บางคนอาจจะเลือกไปเที่ยว อย่างแม่เราก็ไปออกกำลังกาย อันนั้นก็เป็นการหาความสุขให้ตัวเองของแม่ เราเลยรู้สึกมันไม่ใช่การเสียเวลา เพราะมันเป็นการไปหาความสุข
“เราไม่แน่ใจว่าเมื่อก่อนคนมองแฟนคลับในมุมไหน แต่ตอนนี้มันคือเรื่องปกติเลยค่ะ คนเขาเข้าใจแล้วว่าการตามศิลปินเป็นการหาความสุขให้ตัวเอง ทุกคนจะมีบุคคลที่เราชื่นชอบอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ที่เราตามเขา เราตามด้วยศักยภาพ ความสามารถของเขา คนรอบตัวที่เท่าที่เราเจอทุกคนซัพพอร์ตเราหมดเลยไม่ว่าจะทำอะไร อย่างครอบครัวของมายด์เขาก็เข้าใจและซัพพอร์ต เวลาทำงานมาเครียดๆ วันนี้ไปดูคอนฯ อีกแล้ว ทุกคนจะเข้าใจ”
“ทุกครั้งที่ไปตามงานของศิลปินเราจะไปเจอแก๊งเพื่อนมากกว่า คนที่เราเจอบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นเพื่อนกัน เหมือนเราไปโรงเรียนเราก็จะมีแก๊งเพื่อนสนิทของเรา เวลาไปเจอกันตามงานต่างๆ เราเจอคนนี้บ่อยเราจะสนิทกับคนนี้มาก ทุกๆ คนจะเคยเห็นหน้าค่าตากันหมด เราอาจจะมีเพื่อนสนิทที่แบบจบงานก็จะไปกินข้าวด้วยกัน ระหว่างรอไปงานเราจะไปกินข้าวด้วยกัน มันมีส่วนสำคัญคือมันไม่เหงาเวลาไปติ่ง เราได้เจอคนที่มีความชอบเหมือนกัน ซัพพอร์ตแบบเดียวกัน แล้วรู้สึกว่าคุยกันง่ายเพราะเรามีความชอบแบบเดียวกัน”
มีอะไรที่ทำให้เราเลิกชอบ ATLAS ได้บ้าง?
“ไม่มีเลย ตอนนี้เรารู้จักตัวตนของเขาทั้ง 7 คนมาประมาณหนึ่ง เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ทัศนคติดี เป็นคนที่ไม่น่าจะทำให้เราเลิกชอบได้ เป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องซัพพอร์ตเขาไปเรื่อยๆ”