เราต่างเคยเป็นเด็กมาก่อน และแน่นอน เราต้องเคยมีความฝันวัยเด็กเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น เราอาจฝันอยากเป็นครู เป็นนักบินอวกาศ หรือมีความฝันที่สุดแสนจะแฟนตาซี สิ่งสวยงามเหล่านี้คือแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กคนหนึ่งมีชีวิตวัยเด็กที่สดใส
วันที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ การได้เดินตามความฝันตอนเด็กของตัวเองอาจไม่สลักสำคัญเท่ากับการที่เรายังมีลมหายใจได้ทำสิ่งที่รักที่จะทำอยู่ตรงหน้า อย่างน้อยที่สุดเรารู้สึกขอบคุณที่ตัวเองได้เติบโตและใช้ชีวิตมาจนถึงนาทีนี้
แต่ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิด เรารู้สึกเสียดายและเสียใจมากที่พวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิต หรือทำตามความฝันในวัยเด็กของพวกเขาอย่างเต็มที่ เด็กไทยกว่า 1.3 ล้านคนมาโรงเรียนด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของผู้ปกครอง แต่มีเด็กๆ เพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อกอย่างเป็นกิจวัตร นั่นแปลว่าทุกวันนี้เรากำลังเคยชินกับการที่เด็กๆ กว่าล้านคนเจอกับความเสี่ยงบนท้องถนนโดยไร้เครื่องป้องกันที่สำคัญที่สุดอย่างหมวกกันน็อก
เรามีแคมเปญมากมายที่รณรงค์ให้คุณพ่อคุณแม่สวมหมวกกันน็อกให้กับลูกรักของพวกเขา หรือแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายที่บังคับให้ทุกคนสวมหมวกกันน็อกอยู่ก็จริง แต่สถิติโลกกลับบอกว่าในทุกๆ วัน ประเทศไทยของเรามีเด็กราวๆ 7 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน และยังมีเด็กๆ กว่า 200 คนที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการจากเรื่องไม่คาดคิดที่มีสาเหตุจากความประมาทเลินเล่อของคนเป็นผู้ใหญ่
เพื่อให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้จริง รถจักรยานยนต์ Honda เลยปิ๊งไอเดีย ‘Dream Protector’ หมวกกันน็อกสำหรับเด็กๆ สุดสร้างสรรค์ที่อยากให้พวกเขาได้ร่วมสนุกและมีส่วนร่วมในการ DIY ลวดลาย วาดเขียนถึงสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝัน และรักที่จะทำลงบนหมวกกันน็อกได้อย่างใจนึก
“เราเดินผ่านร้านขายมอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่ง แอบสังเกตว่าทุกครั้งที่เขาซื้อ-ขายมอเตอร์ไซค์กัน ร้านจะแถมหมวกกันน็อกมาให้เสมอ เหมือนเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว แต่พอเดินถัดไปอีกหน่อยเราก็เจอเข้ากับโรงเรียนประถม เห็นพ่อแม่ที่ขับมอเตอร์ไซค์มารับส่งลูก เชื่อไหมว่าไม่มีใครสวมหมวกกันน็อกเลย” ทีมครีเอทีฟแคมเปญบอกเราถึงจุดเริ่มต้นของไอเดียที่อยากให้ ‘ทุกคน’ เห็นความสำคัญของการใส่หมวกกันน็อก
ใน Dream Protector หนึ่งเซ็ตประกอบไปด้วยหมวกกันน็อกเต็มใบแบบเปิดคางที่สวมสบายและปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กๆ ปากกาไวท์บอร์ดหลากสีที่พร้อมเติมชีวิตชีวาให้หมวกกันน็อก แปรงลบขนาดพอดีมือที่ช่วยให้เด็กๆ สนุกกับการวาดเขียนอย่างไม่จำกัด และสติ๊กเกอร์ลายอาชีพต่างๆ ที่จะช่วยไกด์และเสริมสร้างอาชีพในจินตนาการของพวกเขา
“พอเป็นหมวกกันน็อกให้ลูก เหมือนคนมีลูกจริงๆ ยังไงก็คงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพราะงั้นสิ่งที่พวกเราดีไซน์ออกมามันต้องโอเคกับเด็กจริงๆ อย่างสีที่ใช้ก็ต้องเป็นสีที่ปลอดภัย เผื่อเด็กๆ บางคนซนจนเผลออมสีขึ้นมา ในเมื่อเราเป็นแบรนด์ที่อยากให้สิ่งดีๆ กับสังคม เราก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย”
นอกจากเด็กๆ จะได้สนุกแล้ว พ่อแม่เองก็จะได้เห็นจินตนาการและความฝันของลูกบนหมวกกันน็อก เสมือนเป็นอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุที่สะท้อนเรื่องราวความฝันของเด็กๆ คนเป็นพ่อแม่ก็คงจะยิ่งอยากปกป้องลูกๆ ของพวกเขาให้มีชีวิตที่ปลอดภัย สร้างความตระหนักว่าหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของคนเป็นพ่อแม่คือการปกป้องชีวิตและความฝันของลูกๆ ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเล็กน้อยอย่างการสวมหมวกกันน็อกที่พวกเขาเคยมองข้ามก็ตาม และแน่นอน เด็กๆ เองจะต้องเกิดความ ‘อยากใส่’ หมวกกันน็อกใบที่ตัวเองเป็นคนสร้างสรรค์มันขึ้นมาแน่ๆ แทนที่เราจะย้ำคนเป็นพ่อแม่ให้สวมหมวกกันน็อกให้ลูก Honda กลับตั้งใจอยากให้เด็กเป็นคนเลือกใส่หมวกกันน็อกเองโดยที่ไม่ต้องรอให้ผู้ใหญ่บอก เป็นการพลิกวิธีการสื่อสารและรณรงค์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
“จริงๆ เราได้แรงบันดาลใจจากหัวหน้าของพวกเรา เขายอมเลิกสูบบุหรี่ในบ้านเพราะว่ามีลูก ผู้ใหญ่บางคนเป็นไม้แก่ดัดยาก แต่พอมีลูกปุ๊บเขายอมเปลี่ยนตัวเองอย่างง่ายๆ เลย เรารู้สึกว่าเด็กนี่แหละที่จะสามารถ influence คนเป็นพ่อแม่ เลยคิดว่าความน่าสนใจของพฤติกรรมนี้น่าจะเอามาใช้กับการรณรงค์สวมหมวกกันน็อกทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้”
ในช่วงเวลาเริ่มต้น พวกเขาตั้งใจทำหมวกกันน็อกแจกเด็กๆ เพียง 100 ใบเท่านั้น ทีมครีเอทีฟกระซิบบอกเราว่าทางบริษัท Honda เห็นศักยภาพบางอย่างของไอเดียนี้เลยตัดสินใจขยายขนาดของแคมเปญให้ใหญ่ขึ้นด้วยการผลิตและแจกจ่าย Dream Protector ให้กับเด็กนักเรียนใน 5,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และมีจัดงานประกวดวาดภาพบนหมวกกันน็อกชิงถ้วยพระราชทานด้วย
“เราคิดกันว่าแค่มีเด็กๆ สัก 10 เปอร์เซ็นต์ใส่มันจริงๆ เราดีใจแล้วนะ อย่างน้อยก็ได้ช่วยให้เด็กๆ 500 คนมีชีวิตที่ปลอดภัยมากขึ้น ถ้ามันส่งผลไปถึงคนเป็นพ่อแม่ด้วยคงจะดีไม่น้อยเลยครับ” ทีมครีเอทีฟเล่าปนรอยยิ้ม
การได้อยู่เคียงข้างและเฝ้ามองเด็กๆ เติบโตอย่างสวยงามก็น่าจะเป็นความฝันที่สูงที่สุดของคนเป็นพ่อแม่เช่นกัน Dream Protector เองก็อยากเป็นตัวแทนที่อยากบอกให้คุณพ่อคุณแม่เห็นความสำคัญของการสวมใส่หมวกกันน็อกขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
จริงอยู่ที่หมวกกันน็อกอาจเป็นเพียงแค่อุปกรณ์ๆ หนึ่งที่ช่วยป้องกันผู้สวมใส่และลดความเสียหายจากอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ แต่ถ้า ‘เราทุกคน’ มีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน ขับขี่อย่างมีสติ และทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ก็น่าจะช่วยลดเรื่องที่ไม่คาดคิดที่กำลังจะเกิดได้เยอะขึ้นเลยทีเดียว
ความฝันของเด็กๆ อาจเป็นจริงไม่ได้ หากพวกเขาไม่มีโอกาสได้เติบโต
