พัทยาในวันนั้นช่างต่างจากทุกวันที่ฉันรู้จัก ความฝันวัยเด็กมันถาโถมเข้ามา ทั้งหมดเริ่มจากเสียงปลายสาย “ไปเล่นกับโลมากันไหม”
บางคนมีฝันวัยเด็กเป็นแรงบันดาลใจในชีวิต บางคนทิ้งฝันวัยเด็กไว้เพียงภาพจำเลือนราง ฉันเป็นหนึ่งในคนจำพวกหลัง ใช้ชีวิตห่างจากความฝันไปทีละน้อย
ฉันเจอโลมาตัวเป็นๆ ครั้งแรกตอนอายุเก้าขวบที่ OASIS SEA WORLD จันทบุรี ต้นกำเนิดของที่นี่น่ารักมาก คือคุณลุงแดงมักพบโลมาติดอวนของชาวประมง จึงรู้สึกสงสารและทดลองเลี้ยงแล้วพัฒนาเป็นการฝึกโลมาโชว์ ฝันของฉันเริ่มจากที่นั่นเช่นกัน ฝันว่าสักครั้งอยากว่ายน้ำเล่นกับโลมา
ทำไมต้องเป็นโลมา? ตอนแรกรู้แค่ว่าโลมาน่ารักโชว์เก่งดูเป็นมิตร ซึ่งความฉลาดของมันมาจากขนาดสมองของมันที่เมื่อเทียบกับขนาดลำตัวแล้วมีสัดส่วนใหญ่เป็นลำดับสองรองจากมนุษย์เลยทีเดียว อีกทั้งโลมายังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีกลมเกลียว (harmony) และการปกป้อง (protection)
หลายครั้งที่มีการพูดถึงโลมาปกป้องมนุษย์ เช่น ในเว็บไซต์ theguardian.com เดือนพฤศจิกายน ปี 2004 มีข่าวโลมาช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังเล่นน้ำจากฉลามขาวยักษ์ โลมาหลายตัวพยายามต้อนคนทั้งสี่ให้เกาะกลุ่มกันแล้วว่ายล้อมเป็นวงอยู่นานถึง 40 นาทีกระทั่งฉลามจากไปแล้วทั้งหมดได้กลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย นี่ทำให้สัญลักษณ์ความเป็นฮีโร่ของโลมายิ่งชัดเจน
สิบกว่าปีผ่านไป ฉันได้เจอโลมาอีกครั้งที่ PATTAYA DOLPHIN WORLD มีเจ้าโลมาสีชมพูและโลมาหัวบาตร ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบได้ในประเทศไทย ด้วยวัยของฉันมากขึ้นและร่างกายก็โตตาม ฉันเริ่มมองว่าการเล่นกับโลมาเป็นเรื่องของเด็ก โลมาตัวเล็กเกินไปสำหรับผู้ใหญ่ แค่มองดูรอยยิ้มของเด็กๆ ที่เข้าไปห้อมล้อมโลมา อมยิ้มตามอยู่ตรงนี้ก็ปลื้มใจแล้ว
จนกระทั่งเช้าวันนั้น เหมือนถูกดึงจากภวังค์ด้วยเสียงปลายสาย “ไปเล่นกับโลมากันไหม” ใจนี่อยากกระโดดจากงานตรงหน้าไปเลยทันที แต่ในความคิดเยอะทั้งเรื่องขนาดตัวโลมา สถานที่ ราคา นี่นั่น ฉันกลับตอบสิ่งที่ฝันไปว่า “ขอคิดดูก่อน”
หลังจากหาข้อมูลสักพัก ฉันก็ตัดสินใจไป DOLPHINARIUM PATTAYA สถานที่เป็นโดมขนาดใหญ่ มีบ่อสีฟ้า ห่วงหลากสี และลูกบอลห้อยมาจากด้านบนเหมือนที่เคยเห็น แต่สิ่งที่ทำให้ตาเราเป็นประกายคือตัวเจ้าโลมา ทำไมคราวนี้ดูตัวไม่เล็ก พวกมันพากันไปออหน้าเวที ครูฝึกใจดีป้อนปลาให้กิน ดูท่าทางร่าเริงพากันอ้อนขอกินปลากันใหญ่ มีตัวหนึ่งกระโดดขึ้นเวทีเลยนะ นั่งมองไปก็ขำ
พอถึงเวลาโชว์ เสียงเพลงก็ดังขึ้น พวกมันว่ายแยกย้ายไปประจำจุดอย่างรู้งาน โชว์ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน เด็กๆ ต่างชอบใจ ยิ้มหัวเราะ เหมือนฉันในตอนเด็ก โลกของเด็กดูช่างสดใส
ฉากจบ เจ้าโลมาดันตัวของครูฝึกสาวยืนขึ้นจากน้ำราวกับเจ้าหญิงแห่งท้องทะเล ฉันละสายตาจากเด็กๆ กลับมาอยู่ในโลกของตัวเองอีกครั้ง ฉากนี้ทำให้ฉันยิ้ม โลกของฉันดูสดใสขึ้นมาแล้วสิ!
ด้วยความสงสัยในขนาดตัวของโลมาตั้งแต่แรก พอโชว์จบ ฉันจึงตัดสินใจเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ นักแสดงตัวน้อยสักหน่อย เอ๊ะ…พวกเธอตัวไม่น้อยแฮะ ตัวใหญ่กว่าฉันอีก
ราวกับเสียงกระซิบ “ไปเล่นกับโลมาสิ ความฝันเธอไม่ใช่เหรอ”
ความรู้สึกที่ได้จับมือ (ครีบ) กับโลมา ปล่อยให้ตัวเราถูกพาไปด้วยแรงของโลมา หลับตาลง ภาพความฝันในวัยเด็กเริ่มเข้ามา ความรู้สึกมันสงบมากอย่างบอกไม่ถูก
โลกของเด็กหรือผู้ใหญ่ก็โลกใบเดียวกัน ความสดใสมันอยู่ที่มุมมองต่างหาก
“มีความฝันอื่นที่ฉันทอดทิ้งไปอีกไหมนะ”
งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา เหมือนมีเด็ก 2 คน วิ่งเข้ามาหาเรา จุ๊บแก้ม แล้วพูดว่า “บ๊ายบาย พี่สาว” มันกำลังบอกเราอย่างนั้นอยู่หรือป่าว ที่แน่ๆ เรากำลังยิ้ม ยิ้มออกมาจากใจเลยล่ะ