สะอาดใจ : แบรนด์ที่เปลี่ยนไม้กวาดให้เป็นงานออกแบบที่สวย รักษ์โลก และใส่ใจผู้ใช้ทุกคน

ไม้กวาดสีน้ำตาลคือข้าวของในชีวิตประจำวันที่เราเห็นจนชิน แต่ไม่นานมานี้ เราได้พบกับ ‘สะอาดใจ (sa-ardjai)’ แบรนด์ที่หยิบสิ่งสามัญอย่างไม้กวาดมาปรับรูปลักษณ์จนกลายเป็นงานดีไซน์สวยสะอาดตา เรียกว่าวางไว้เคียงคู่กับข้าวของสวยๆ ชิ้นอื่นในบ้านได้สบาย ความน่าสนใจของสะอาดใจทำให้เราออกสืบเสาะหาตัวคนทำ จนพบว่านี่คือไม้กวาดที่ออกแบบโดย ตูน-นนทัช ขันธรูป สถาปนิกหนุ่มผู้ทำแบรนด์ไม้กวาดควบคู่กับบริษัทออกแบบชื่อ SPACY

เรานัดตูนออกมาพูดคุย ณ Peace-Oriental Teahouse ร้านน้ำชาย่านเอกมัยที่เป็นอีกหนึ่งผลงานออกแบบของเขาซึ่งสวยเรียบง่ายไม่แพ้ไม้กวาด แล้วเมื่อบทสนทนาเริ่มต้น เราก็พบว่าสะอาดใจไม่ใช่แค่ไม้กวาดด้ามสวย แต่คืองานออกแบบอย่างใส่ใจโดยสถาปนิกผู้เชื่อในพลังงานออกแบบที่ดีและพลังความสะอาดที่ส่งผลต่อใจมนุษย์

งานออกแบบที่ไร้กาลเวลา

ตูนเริ่มต้นเล่าว่า เขาเป็นคนที่ได้รับการหล่อหลอมจากวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ตอนเด็กๆ เขาเรียนโรงเรียนฝรั่งเศสในเมืองไทย พออายุ 14 ปี ก็ย้ายไปอยู่ฝรั่งเศสอีก 3 ปีเพื่อเรียนต่อในระดับมัธยมปลาย แล้วก็ตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่ University of Michigan ทางด้านสถาปัตยกรรม ที่นั่นทำให้ตูนค้นพบว่าอาชีพเดียวที่เขาอยากทำคือ นักออกแบบ

แน่นอนว่าสถาปนิกหนุ่มได้พบแนวคิดเรื่องการออกแบบมากมาย แต่ถ้าถามถึงแนวทางการออกแบบที่ชื่นชอบ คำตอบของเขาคือ งานออกแบบที่ไร้กาลเวลา

“ผมไม่ได้อยากสร้างงานที่เป็นแฟชั่นอย่างเดียว ผมอยากให้สิ่งที่ออกแบบมันอยู่ได้นานกว่านั้น ผมชอบงานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา แม้ว่าจะผ่านไป 50 – 60 ปี งานออกแบบนั้นก็ยังดูสดใหม่เสมอ ผมจึงชอบงานออกแบบแนว Modern และ Mid-century Modern งานสองแนวนี้จะอยู่ได้นาน ไม่ใช่แข็งแรงจนทื่อ แต่หมายถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังดูดีอยู่ ร้านชาหรืองานออกแบบอื่นๆ ของผมก็ใช้แนวคิดนี้” สถาปนิกหนุ่มอธิบาย

 

ไม้กวาดที่เริ่มต้นจากศาสนา

นอกจากงานออกแบบ ตูนบอกว่าสิ่งที่เขาสนใจคือเรื่องของพุทธศาสนาและการพัฒนาจิต ซึ่งส่งผลให้งานออกแบบของเขามักเรียบง่ายมีเอกลักษณ์เสมอ เมื่อสถาปนิกหนุ่มกลับเมืองไทยเพื่อมาสร้างบ้านให้พ่อแม่หลังเรียนจบและทำงานต่างแดนอยู่พักหนึ่ง ความสนใจนี้ก็ยังคงอยู่ หลังสร้างบ้านเสร็จ เขาจึงตัดสินใจบวชที่วัดญาณเวศกวัน สำนักของสมเด็จพระพุฒโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) เป็นเวลา 3 เดือน นอกจากได้ฝึกตน วัตรปฏิบัติของสงฆ์ที่ต้องกวาดลานวัดทำให้เขาสนใจเรื่องความสะอาด

“แต่เดิมตอนเช้าก็ต้องกวาดวัดอยู่แล้ว แต่ประมาณสักบ่ายสามโมงพระท่านก็จะออกมากวาดลานวัดอีกครั้งหนึ่งจากกุฏิไปถึงศาลาใหญ่ การกวาดมันไม่ได้มีประโยชน์แค่ในวัดอย่างเดียว ถ้าวัดสะอาด ญาติโยมที่เข้ามาก็รู้สึกสดชื่น เหมือนกับที่ถ้าบ้านเราสะอาด แขกที่เข้ามาก็จะรู้สึกดีเหมือนกับเรายินดีต้อนรับ”

ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างการครองผ้าเหลือง สถาปนิกหนุ่มยังได้เรียนทำไม้กวาดจากคุณลุงประสานซึ่งได้พบกันในวัด และเริ่มมองสิ่งประดิษฐ์ธรรมดาชิ้นนี้ด้วยสายตานักออกแบบ

“ไม้กวาดที่คุณลุงทำในตอนนั้นใช้วัสดุที่เป็นเชิงอุตสาหกรรม เช่น ท่อ PVC และเชือกเอ็น” ตูนย้อนเล่า “สิ่งที่เขาทำเอาไว้มันทำประโยชน์ให้ใครหลายๆ คนได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ไม้กวาดแบบนี้ทำยากมาก คุณลุงบอกว่ากว่าจะได้ไม้กวาด 1 ด้าม การหาเงินล้านอาจจะง่ายกว่า แต่ผมไม่ค่อยเชื่ออย่างนั้นเพราะผมเป็นนักออกแบบ ผมคิดว่าถ้าเห็นภาพของผลิตภัณฑ์แล้วมันก็เหมือนกับการต่อโมเดล เป็นการหาของ หาชิ้นส่วน มาเติมในสัดส่วนที่เหมาะและใช้วัสดุที่เหมาะสม เราเพียงแค่ต้องใช้เวลาทดลองและพัฒนาให้มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคน”

จากไม้กวาดสู่งานออกแบบ

3 เดือนผ่านไป สถาปนิกหนุ่มก้าวออกจากวัดด้วยใจสะอาด และไอเดียการทำ ‘สะอาดใจ’ แบรนด์ไม้กวาดแฮนด์เมดที่เป็นงานออกแบบดีๆ ซึ่งช่วยให้บ้าน ช่วยให้ใจผู้คนสะอาดขึ้น และจะเป็นธุรกิจครอบครัวได้ เพราะพ่อแม่ของเขาก็อยากทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

“ผมอยากทำไม้กวาดให้ดีขึ้นเพราะเชื่อว่าความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิต การทำงานหรือใช้ชีวิตได้ดี เราต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ มันจะช่วยให้จิตใจสบายขึ้น สงบขึ้น และทำงานได้ดีขึ้น ถ้าผมพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ ก็อาจทำให้คนสนใจเรื่องการทำความสะอาดหรือสนใจสิ่งแวดล้อมของตัวเองมากขึ้น”

หลังจากค้นคว้า ทดลองออกแบบ ในที่สุดไม้กวาดสะอาดใจก็ถือกำเนิด เป็นไม้กวาดสวยสะอาดตาที่บรรจงทำด้วยมือทุกด้าม ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมเพราะใช้วัสดุธรรมชาติให้มากที่สุด มีหัวใจหลักคือดอกหญ้า เป็นมิตรกับผู้คนเพราะออกแบบมาให้เหมาะสมกับรูปลักษณ์ของผู้ใช้ ลดท่าก้มและการบิดมือมากเกินความจำเป็นเพื่อลดอาการเมื่อยล้าจากการทำความสะอาดบ้าน นอกจากนี้ ไม้กวาดสะอาดใจยังแข็งแรงทนนาน ใช้ดีๆ อยู่ได้นานเป็นปี ที่สำคัญคือราคาจับต้องได้ เพราะสถาปนิกหนุ่มอยากให้ไม้กวาดของเขาเข้าถึงผู้คน

“ผมพยายามใช้วัสดุที่ต้นทุนไม่สูงเกินไป เพราะอยากทำให้มันเป็นทั้งงานศิลปะที่ดีได้และก็คนทั่วไปใช้ได้ ผมไม่อยากให้มันเป็นงานศิลปะที่แพงเกินกว่าฟังก์ชันของมัน เพราะสุดท้ายแล้วมันก็คือไม้กวาด”

ทุกวันนี้นอกจากไม้กวาดทั่วไป เราจึงยังมีอีกทางเลือกคือแบรนด์สะอาดใจที่ตอนนี้อายุครบ 1 ขวบแล้ว เป็นงานออกแบบสวยและดีซึ่งเป็นมิตรต่อโลก ตัวเรา และต่อใจเรา วางขายอยู่ในสถานที่ธรรมดา เช่น Isetan, โรบินสัน, O.D.S, Index Living Mall, และศูนย์วัสดุแต่งบ้านอย่างบุญถาวร ในราคาหลักร้อยบาทเท่านั้น

“ผมมองว่าการออกแบบเป็นเรื่องของความใส่ใจ เราไม่ต้องใส่ใจทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ แต่ถ้ามีบางสิ่งที่ใส่ใจกับมันได้ก็น่าจะดีเหมือนกัน” ตูนเอ่ยทิ้งท้าย

และเชื่อเถอะ-ไม้กวาดของเขาก็บอกกับเราอย่างนั้น

Facebook l Sa-ard Jai Household essentials
www.sa-ardjai.com
www.spacy.co.th

ภาพ ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

AUTHOR