‘ดิว ไปด้วยกันนะ’ หนังแห่งการเริ่มต้นใหม่ เพราะไม่ควรมีใครถูกทิ้งไว้กับอดีต

Highlights

  • ดิว ไปด้วยกันนะ คือผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ มะเดี่ยว–ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เล่าเรื่องราวของภพและดิว เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลายสองคน ที่รักกันในยุคที่สังคมมองว่าการรักเพศเดียวกันคือเรื่องผิดแผก
  • นอกจากบรรยากาศของชุมชนปางน้อยที่น่าตกหลุมรัก ทีมนักแสดงที่เล่นเก่งจนต้องยกนิ้วให้ และไดอะล็อกอันน่าจดจำ ดิว ไปด้วยกันนะ ยังเป็นหนังไทยที่โดดเด่นด้วยการหยิบประเด็นที่เห็นได้น้อยนักมาเล่า หนังตั้งคำถามถึงมุมมองต่อรักแท้และการต่อสู้เพื่ออิสระที่จะรักใครสักคน รวมไปถึงตอนจบสุดเหวอที่ก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่นักดูหนัง

‘อดีตจะทำร้ายปัจจุบันได้ ถ้าคุณยอมให้มันทำ’

เคยอ่านเจอประโยคนี้จากที่ไหนสักแห่ง ครั้งหนึ่งฉันเคยเชื่อมันอย่างสุดหัวใจ จนกระทั่งเจอเหตุการณ์ที่แปรผันความเชื่อนั้นให้กลายเป็นขั้วตรงข้าม

บางอดีตก็กลับมาทำร้ายเราได้ ไม่ว่าเราจะยอมให้มันทำหรือไม่ก็ตาม

ภพ ตัวละครเอกของ ดิว ไปด้วยกันนะ ตกอยู่ในห้วงความรู้สึกเดียวกัน คล้ายกับฉัน–เขากำลังดิ้นรน สับสน รู้สึกเหมือนวิ่งวนอยู่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่เจอ โชคร้ายหน่อยตรงที่เขาไม่เคยหลุดออกมาจากห้วงความรู้สึกนั้นได้เลย

ภพในวัยเยาว์เคยมีชีวิตเหมือนเด็กผู้ชายมัธยมปลายทั่วไป ไม่มีเรื่องไหนสำคัญไปกว่าบ้านและโรงเรียน จนกระทั่งการมาถึงของดิว เด็กใหม่ผู้มากับรอยยิ้มสดใสเหมือนแสงอาทิตย์ ทั้งคู่แชร์ถนนเส้นทางไปโรงเรียนด้วยกัน ก่อนจะเลยเถิดไปสู่การแชร์เบาะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ชุดพละ ห้องเรียนพิเศษ และห้องหัวใจ

แต่ใน พ.ศ. 2539 นั้น การที่เด็กหนุ่มสองคนเดินจูงมือกันถือเป็นเรื่องผิด ความลุ่มหลงต่อคนเพศเดียวกันถูกจัดว่าเป็นโรคร้าย ภพเห็นสิ่งที่สังคมตีตราและกระทำกับกลุ่มคนรักร่วมเพศอย่างไร้ความยุติธรรม และตัดสินใจว่าไม่อยากโดนแบบนั้น

นำมาสู่ทางแยกในชีวิตที่ไม่มีถูก-ผิด เขาแค่ต้องเลือก และการเลือกครั้งนี้จะกลายเป็นอดีตที่ติดตัวเขาไปตลอดกาล

นอกจากฉากจิ้นชาย-ชายที่สาววายต้องหวีด องค์ประกอบของยุค 90s ทั้งหนัง เพลง และเทคโนโลยี ที่เข้ามาสร้างความรู้สึกโหยหาอดีตให้คนดูตลอดครึ่งแรก ความน่าสนใจของ ดิว ไปด้วยกันนะ คือการจำลองภาพเหตุการณ์การปฏิบัติต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศในอดีตให้คนดูเห็น แต่ฉากตุ๊ดเด็กโดนสังคมตีตราว่าเป็นโรคร้ายต้องรักษา ยังไม่น่าสลดใจเท่าการที่คนดูในยุค 2019 บางกลุ่มยังหัวเราะคิกคักเพราะเห็นเป็นเรื่องตลก

แต่ฉอดใครไปก็ใช่เรื่อง เพราะต้องยอมรับว่าสังคมเราผลิตซ้ำและส่งต่อความขำขันประเภทนี้เป็นปกติ เราหัวเราะให้กับเหตุการณ์ ‘จะทำอะไรกับมันก็ได้เพราะมันแปลก’ จนกลายเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่ความจริงพวกเขาอาจไม่ได้แปลก แค่แตกต่างเท่านั้น

จะมีกี่คนที่รู้ว่าใต้ความอ้อนแอ้นน่าขันนั้นมีบาดแผล เป็นแผลจากอดีตที่ไม่เคยจาง ราวกับโดนไม้เรียวที่ไม่เคยหยุดโบยตี

นั่นยังไม่น่าเฉาเท่าการตระหนักว่าภาพการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนรักร่วมเพศยังมีอยู่จริง แม้จะไม่มีการนำไปชอร์ตไฟฟ้าหรือทำร้ายร่างกายเพื่อให้ ‘หาย’ เหมือนก่อน แต่การเหมารวมก็ยังมีให้เห็น ยกตัวอย่างง่ายๆ จากประสบการณ์จริงที่เคยเจอกับตัว ฉันเคยโดนปฏิเสธไม่ให้บริจาคเลือดเพียงเพราะชอบเพศชายเหมือนกัน ทั้งที่กลุ่มชายรักชายตอนนี้ก็เสี่ยงต่อการติดเอชไอวีไม่แพ้กลุ่มคนรักเพศตรงข้ามเลย

บางอดีตก็กลับมาทำร้ายเราได้ ไม่ว่าเราจะยอมให้มันทำหรือไม่ก็ตาม

บางอดีตเราได้รับผลกระทบจากมัน ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนก่อ

อย่างไรก็ตาม ดิว ไปด้วยกันนะ ก็มีบทสรุปที่แตกต่างจากหนังว่าด้วยรักต้องห้ามที่เราเคยดู ซึ่งสำหรับฉัน นอกจากส่วนผสมดีๆ อย่างบรรยากาศของชุมชนปางน้อยที่น่าตกหลุมรัก ทีมนักแสดงแสนเก่งกาจ ไดอะล็อกน่าจดจำ การหยิบประเด็นที่เห็นได้น้อยนักในหนังไทยมาเล่า และการตั้งคำถามว่า ‘เราจะยังรักกันไหมถ้าทั้งโลกมองว่าความรักของเราแปลกประหลาด’ ตอนจบสุดเหวอที่ก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่คนดูนี่แหละคือสิ่งที่ฉันชอบ

แม้จะถูกหักลบคะแนนด้วยการเล่าเรื่องอย่างเร่งรีบในบางจุดจนทำให้อารมณ์สะดุด แต่นี่ก็เป็นหนังไทยที่เราอยากให้คุณมาพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง

และหวังใจว่าบางที หลังออกจากโรงมาแล้ว สิ่งที่คุณเคยถูกมองว่าแปลกจะกลายเป็นคำว่าแตกต่าง กลุ่มคนที่เคยถูกมองข้ามความรู้สึกจะเป็นอิสระจากการเป็นเรื่องขำขัน และเริ่มต้นใหม่ในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมกันได้สักที

ถึงตอนนั้น ในโลกแห่งความจริงที่เป็นมากกว่าหนังอาจไม่มีใครโดนอดีตทำร้ายอีกต่อไป


ภาพ CJ MAJOR Entertainment

AUTHOR