สำหรับคนทำงานสร้างสรรค์หรือคนที่มีใจรักในการทำงานศิลปะรูปแบบต่างๆ ผลงานที่ดีย่อมมาจากวัตถุดิบที่หลากหลายและมีคุณภาพ แต่การจะเจอแหล่งซื้อ-ขายที่ถูกใจและครบครันในที่เดียวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีซื้ออุปกรณ์ร้านหนึ่งยังไม่พอ ต้องตระเวนไปหาเพิ่มอีกที่ถึงจะได้ของครบอย่างที่คิด ยังไม่นับความยากในการขนของเหล่านั้นกลับไปอีก
แล้วจะไปหลายที่ให้เหนื่อยทำไมถ้าเราสามารถไปร้านใดร้านหนึ่งก็มีครบทุกอย่าง เราขอแนะนำ 5 ร้านอุปกรณ์ทำงานสร้างสรรค์ที่เราคัดมาให้ว่ามีของครบครัน หอบกลับบ้านทีเดียวจบได้เลย
เตรียมถุงกระสอบ ถุงผ้า หรืออุปกรณ์เพื่อการช้อปปิ้งใดๆ ตามถนัด จับกลุ่มชาวแก๊งหรือชวนครอบครัวไปออกตามล่าหาวัตถุดิบมาสร้างผลงานตามความคิดสร้างสรรค์ให้คุ้มค่าในทริปเดียวกับ NEW MG ZS รถสไตล์ SUV ราคาสุดประหยัดที่กำลังเป็นที่นิยมนี้ด้วยกัน
Lamune
สำหรับคนรักงานวาดหรือชื่นชอบการขีดๆ เขียนๆ คงต้องตกหลุมรักกับร้านเครื่องเขียนและสินค้าแนวไลฟ์สไตล์คุณภาพดีน่าใช้จากหลากหลายประเทศซึ่งแปลกตาจากแผนกเครื่องเขียนตามห้างของ เอ–วริศรา อารยสมบูรณ์ ที่เปิดมานานกว่า 7 ปีแล้ว
สินค้าของร้านมีตั้งแต่สีน้ำแบรนด์ขึ้นชื่ออย่าง Daniel Smith ที่ได้ชื่อว่าเป็นสีที่ดีที่สุดในโลก ผลิตจากแร่ธรรมชาติที่ให้เนื้อของสีที่แน่น ชัด เป็นธรรมชาติ หรือปากกา COPIC หัวแบน และหัวพู่กัน ShinHan Touch ที่คนเรียนดีไซน์คุ้นเคยกันดี ก็มีวางขายที่นี่เป็นเจ้าแรกๆ ไปจนถึงพู่กันขนเด้งครบเซตจาก Escoda และของกระจุกกระจิกอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสมุดโน้ต, กล่องเก็บเครื่องเขียน, masking tape, สติ๊กเกอร์ ฯลฯ
นอกจากสินค้าที่แตกต่างแล้ว เธอยังตั้งใจให้ร้านของเธอเป็นคอมฟอร์ตโซนของคนรักงานศิลปะและเครื่องเขียนด้วยนโยบายที่ยึดถือมาตั้งแต่เปิดร้านจนถึงวันนี้คือคนในร้านต้องสามารถแนะนำและให้ข้อมูลความแตกต่างของอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ ได้ตรงกับสิ่งที่คนซื้อจะนำไปใช้ อีกทั้งยังมีโน้ตบอกวิธีการใช้งานหรือตัวอย่างการใช้งานสั้นๆ แปะอยู่บนสินค้าทุกชิ้น จึงมั่นใจได้เลยว่าถ้ามาถึงร้านนี้แล้วไม่มีห่วงเรื่องคุณภาพผลงานที่จะออกมาหลังจากกลับบ้านแน่ๆ
Charm-Learn Studio
สตูดิโอเซรามิกขนาดย่อมในซอยแพร่งสรรพศาสตร์ที่มีทั้งเวิร์กช็อปรับสอนงานปั้นเซรามิกแบบขึ้นรูปด้วยมือและบนแป้นหมุนไฟฟ้า รวมทั้งมีขายชิ้นงานเซรามิกหน้าตาเป็นเอกลักษณ์อีกหลายประเภทที่ได้รับรางวัลดีไซน์โดดเด่นจาก DEmark Award 2017 แต่นอกจากการเรียนการสอนและชิ้นงานที่มีขายแล้ว ที่นี่ยังมีอุปกรณ์ดินเผาให้คนที่ชื่นชอบงานปั้นสามารถมาหาซื้อกลับไปทำที่บ้าน แล้วนำกลับมาเผากับทางร้านได้เลย
อุปกรณ์ที่สามารถซื้อกลับไปได้ก็มีทั้งดินจากแหล่งต่างๆ ที่ให้สีต่างกัน เช่น ดินจากลำปางที่ให้สีขาวหรือดินราชบุรีที่ให้สีออกส้ม ไม้ปั้นหลากหลายรูปแบบ สีเคลือบบางชนิด แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ว่าการขายสีเคลือบนั้นจะขายให้กับนักเรียนที่เคยเรียนกับสตูดิโอ เพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นงานที่นำกลับไปทำที่บ้านนั้นจะได้รับการสร้างที่ถูกต้องตามหลักการ โดยที่ทางร้านจะช่วยให้คำแนะนำและติดตามความคืบหน้าผ่านทางไลน์ด้วยเพื่อให้ชิ้นงานออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ที่ร้านยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าหรือผู้เรียนที่มีชิ้นงานน่าสนใจ นำผลงานมาฝากขายได้โดยไม่เสียค่าฝาก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สนุกกับงานปั้นและทำชิ้นงานมาฝากวางหน้าร้านอยู่เรื่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่สำหรับคนรักเซรามิกอย่างครบวงจร
J Fabric
คอมมิวนิตี้ของคนรักผ้าย่านสำเพ็งที่ความพิเศษอยู่ที่ผ้าหลายแบรนด์นั้นหาได้ที่นี่ที่เดียวในเมืองไทย เช่น แบรนด์ Kokka ของญี่ปุ่น ที่คนรักผ้าน่าจะรู้จักดี หรือผ้าลิขสิทธิ์แท้ของ Sanrio รับประกันคุณภาพและความใส่ใจด้วยกระบวนการเลือกผ้าของเจ้าของร้านสองพี่น้องอย่าง ออย–พรฤดี เจนเจษฎา และ เอ็ม–ธนกร เจนเจษฎา ที่ไปเลือกผ้าเองถึงต่างประเทศ
ภายในร้านขนาด 2 ชั้น ถูกจัดเป็นโชว์รูมผ้าบรรยากาศสบายๆ มีพื้นที่โต๊ะให้นั่งเลือกผ้าและพื้นที่นั่งรออย่างไม่อึดอัดสำหรับคนที่มาด้วยกัน โดยแยกประเภทผ้าตามความเหมาะสมของการใช้งาน บริเวณชั้นล่างจะมีผ้าคอลเลกชั่นใหม่ๆ ที่ลวดลายและความหนาเหมาะสำหรับตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า มีผ้านำเข้าจากหลายประเทศทั้งเกาหลี ฝรั่งเศส และอเมริกา ส่วนชั้นบนจะเป็นผ้าที่มีความหนาเหมาะกับการตัดเย็บกระเป๋าหรือชิ้นงานอื่นที่ไม่ใช่เสื้อผ้า
ความต้องการของลูกค้าทำให้พวกเขาต้องหาผ้ามาเพิ่มเรื่อยๆ กระทั่งทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังมีไอเดียผ้าใหม่ๆ เสมอ เช่นตอนนี้ที่เริ่มวางขายผ้าใยไผ่ที่มีกระบวนการผลิตเป็นมิตรกับธรรมชาติและยังมีคุณสมบัติอ่อนโยน เหมาะกับการทำเสื้อผ้าให้เด็กเล็ก ซึ่งทางร้านก็จะพยายามหาผ้าจากวัสดุธรรมชาติอื่นๆ มาเรื่อยๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้คนซื้อและช่วยสนับสนุนวัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
นอกจากเรื่องผ้าที่โดดเด่นที่สุดแล้ว ที่ร้านยังมีอุปกรณ์ทำงานผ้าอื่นๆ วางจำหน่ายอีกเล็กน้อยอย่างผ้ากุ๊นจากญี่ปุ่น กาวเนาแทนเข็มหมุด หรือเทปแต่งเสื้อผ้าน่ารักๆ พอให้คนที่เข้ามาซื้อได้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วยพร้อมกัน
PINN Shop
คนรักงานดีไซน์และงานฝีมือน่าจะต้องรู้จักร้านขายอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับงานฝีมือ เย็บปักถักร้อย ครบวงจรที่ปัจจุบันพัฒนาต่อยอดมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์และมีหลายสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศในชื่อ PINN Creative Space ที่เพียบพร้อมด้วยคอร์สอบรม กิจกรรมเวิร์กช็อป และเครื่องมือทันสมัยสำหรับการผลิตแบบดิจิทัลสำหรับผู้ที่สนใจงานฝีมือสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปักคอมพิวเตอร์ จักรเย็บระดับมืออาชีพ เครื่องพิมพ์ลายผ้า เครื่องเลเซอร์คัต ไปจนถึงเครื่องพิมพ์สามมิติ
แต่สำหรับสายเย็บปักถักร้อย เราขอแนะนำสาขา The Shoppes Grand Rama 9 ที่มีขายอุปกรณ์ด้านนี้ครบครันมากที่สุดจากบรรดาสาขาทั้งหมด โดยมีตั้งแต่จักรเย็บผ้าหลายรุ่นให้ได้ทดลอง สั่งซื้อ รวมถึงวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ด้ายเย็บ ด้ายปัก ไหมพรม ไม้ถัก อุปกรณ์เย็บ ฯลฯ
BKK Graff
ร้านขายสีเปรย์และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้องสำหรับงานสไตล์กราฟฟิตี้ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2003 โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายสีสเปรย์ Montana Colors สีสเปรย์คุณภาพสูงนำเข้าจากสเปนที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ในหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพบริเวณชั้น 3
นอกจากนี้ยังมีปากกามาร์กเกอร์ต่างๆ ที่เหมาะกับการทำงานสไตล์ Calligraffiti โดยเฉพาะ และถ้าหาสีถูกใจที่ร้านไม่เจอ ก็สามารถซื้อปากกามาร์กเกอร์เปล่าไปผสมสีแล้วกรอกใส่ขวดใช้เองได้
ที่ร้านยังมีเสื้อยืดสกรีนลายกราฟิกกับกราฟฟิตี้เท่ๆ ผลงานของศิลปินกราฟฟิตี้ที่มีชื่อเสียงวางขายในร้านด้วย
นอกจากร้านเหล่านี้ที่มีของครบครันให้เลือกซื้อได้ในการมาเพียงครั้งเดียวแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะช่วยให้ทริปช้อปปิ้งแต่ละครั้งคุ้มค่ายิ่งขึ้นก็คือรถสไตล์ SUV อย่าง NEW MG ZS ที่ออกแบบมาให้มีห้องผู้โดยสารและห้องเก็บสัมภาระกว้างขวาง ด้วยความสามารถในการจัดการเบาะนั่งหรือเพิ่มเติมอุปกรณ์เสริมบนราวหลังคาที่ทำให้หมดห่วงเรื่องการบรรทุกขนย้ายสิ่งของ
ส่วนข้าวของที่เราขนย้ายหรือเพิ่งช้อปปิ้งมาก็จะได้รับการดูแลให้ไม่กระแทกแตกหักไปซะก่อน ด้วยช่วงล่างที่สามารถดูดซับแรงดันที่พื้นผิวถนนได้ดี บวกรวมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกันกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 Speed ก็ยิ่งช่วยให้การขับขี่บนพื้นถนนที่ขรุขระหรือขับผ่านลูกระนาดมีความนุ่มนวลมากกว่ารถทั่วไป เหมาะทั้งขับขี่ในเมืองหรือใช้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวก็ยังได้
ดีไซน์และฟังก์ชั่นต่างๆ ในรถก็โดดเด่นด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลดำ มาพร้อม panoramic sunroof ขนาดใหญ่เพิ่มความโปร่งและมุมมองที่กว้างขึ้นภายในห้องผู้โดยสาร พร้อมรับแสงจากภายนอก มีหน้าปัดดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยว บริเวณคอนโซลกลางมีหน้าจอทัชสกรีน ขนาด 10 นิ้ว ภาพคมชัด แสดงข้อมูลต่างๆ ของรถ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทั้ง Apple, CarPlay และ Android มีระบบ i- SMART ที่สามารถสั่งการระบบต่างๆ ผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย หรือควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟนได้ รวมถึงระบบ Find My Car ที่ช่วยระบุตำแหน่งของรถว่าจอดอยู่ที่ไหน เราจึงอุ่นใจได้ว่าจอดไว้ไหนก็หาเจอ
ให้ฟังก์ชั่นเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารถคันนี้จะทำให้ทุกการเดินทางของเราคุ้มค่าขึ้นอีกแค่ไหน NEW MG ZS มีรุ่นย่อยให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C+, D+ และ X+ ในราคาเริ่มต้น 689,000 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ mgcars.com/th/mg-models/new-mg-zs/overview