CREAM Bangkok ขอเสนอตอน คลับมหัศจรรย์กับเด็กที่ได้สร้างสรรค์เรื่องเล่าผ่านงานเขียน

ถ้าให้นึกย้อนไปช่วงเรียนประถมศึกษา ช่วงเวลาที่เราชอบมากที่สุดคือช่วงปิดเทอมฤดูร้อน

ไม่ต้องอธิบายเหตุผลก็น่าจะเข้าใจกันดี การมีวันหยุดยาวๆ แล้วได้ทำอะไรที่น่าสนใจเป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับเด็กคนหนึ่งมาก

เชื่อว่าช่วงปิดเทอมนี้เด็กๆ หลายคนก็ไขว่คว้าหาวันว่างเพื่อออกไปผจญภัยหรือเรียนรู้สิ่งที่ตัวเองสนใจตามสถานที่ต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ ห้างสรรพสินค้า สวนสัตว์ สวนสาธารณะ หอศิลปวัฒนธรรม หรือที่ไหนๆ ต่างก็ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และตอบโจทย์ความสนใจได้ทั้งนั้น

แต่ถ้าหากใครกำลังมองหาสถานที่เติมจินตนาการแห่งใหม่ เราคิดว่า CREAM Bangkok คือคำตอบนั้น

CREAM Bangkok

CREAM คือคลับที่เปิดให้เด็กๆ ได้บอกเล่าเรื่องที่สนใจออกมาเป็นงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ ครูใบปอ–อ้อมขวัญ เวชยชัย เป็นผู้ก่อตั้งคลับนี้ และเธอก็หวังอยากให้เด็กๆ ได้สนุกกับการอ่าน ขีดเขียน เล่าเรื่องราวที่สนใจผ่านกิจกรรมเวิร์กช็อปต่างๆ  โดยมีธีมหลักเพื่อสร้างจินตนาการให้เด็กๆ อย่าง Hotel CREAM โรงแรมมหัศจรรย์ที่พร้อมต้อนรับแขกมหัศจรรย์ทุกเวลา โดยเฉพาะแขกในจินตนาการของน้องๆ ที่ครูใบปอแอบบอกว่ามีทั้งมังกร งูเหลือม หรือแม้กระทั่งยูนิคอร์นมาพักที่นี่ด้วย

ถ้าหากคุณอยากฟังเรื่องเล่าเหล่านั้นบ้าง

ตามเราไปเช็กอินที่ Hotel CREAM พร้อมกับเด็กๆ กันเลย

CREAM Bangkok

Writing Center พื้นที่สำหรับคนชอบอ่านเขียน

ครูใบปอเล่าว่าเหตุผลที่ก่อตั้ง CREAM เกิดจากความชอบส่วนตัวในการเขียนและอ่านตั้งแต่เด็ก

หลังจากเรียนด้านอักษรศาสตร์และนิทานเด็ก จนเป็นครูสอนในโรงเรียนอนุบาล ความต้องการเปิด Writing Center ของเธอเริ่มก่อตัวในใจขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งครูใบปอได้ไปฝึกงานกับ 100 Story Building ซึ่งเป็น Writing Center ที่ออสเตรเลีย ทำให้เธอเห็นแนวทางที่จะเปิดคลับนี้ในไทยมากขึ้น

“ก่อนหน้านี้เราศึกษาข้อมูลมาหลายที่ ทั้ง 826 Valencia ที่อเมริกา เขาทำเป็นร้านขายของโจรสลัด ส่วนที่ลอนดอนชื่อ Ministry of Stories เป็นร้านมอนสเตอร์ช็อป แล้วข้างหลังร้านเขาจะทำเป็น Writing Center เราอยากได้แบบนี้แต่ก็คิดว่าตัวเองทำไม่ไหว มันดูยิ่งใหญ่เกินไป จนมาเจอ 100 Story Building มันใกล้กับสิ่งที่เราน่าจะทำได้ที่สุด เพราะตัวคนก่อตั้งเป็นคุณครูเหมือนกัน แล้วเขาไม่ได้ต้องการพื้นที่เป็นช็อปอะไรใหญ่โต แค่มีส่วนที่ทำให้เด็กๆ ได้คิดต่อ จินตนาการต่อ ก็สร้างความตื่นเต้นให้ได้แล้ว

“หลังจากไปฝึกงานกลับมา เราคิดว่างั้นเราก็พร้อมแล้ว เราสอนมาหลายปีแล้ว พร้อมแล้วที่จะเข้าใจเด็กๆ และอยากจะให้ Writing Center เกิดขึ้นที่บ้านของเรา”

CREAM Bangkok

CREAM Bangkok เปิดต้อนรับเด็กๆ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภายใต้อาคารหลังกะทัดรัดแต่เต็มไปด้วยพื้นที่ที่ให้เด็กๆ ได้เข้ามาเติมแต่งเรื่องเล่าและการขีดเขียนผ่านกิจกรรมหลากหลายทั้งเวิร์กช็อปในหัวข้อต่างๆ หรือกิจกรรมในช่วง Afterschool Club ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ที่ชื่นชอบการอ่านเขียนมาใช้พื้นที่เพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองกำลังสนใจ

“กิจกรรมของเราจะมี 2 ส่วน คือเวิร์กช็อปกับ Afterschool Club ส่วนของเวิร์กช็อป หัวข้อในแต่ละครั้งก็จะหลากหลาย โดยจะโฟกัสที่การคิด เขียน อ่าน เล่าเรื่อง เช่น เวิร์กช็อปสำรวจโรงแรมมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นการนำทักษะการสังเกตและทักษะการเขียนมาผูกเข้ากับธีมหลักของเรา เน้นธรรมชาติของเด็กที่สำรวจ ค้นหา หาคำตอบ ทุกอย่างมันลึกลับไปหมด ดังนั้นเราจะทำกิจกรรมปลายเปิดมากๆ จินตนาการสุดๆ โรงแรมนี้มีใครมาพักอยู่ตอนนี้ ห้องพักของแต่ละคนเป็นยังไง หรือเวิร์กช็อปที่ตรงกับวัน World Storytelling Day เราก็จัดเป็นแคมป์เล่าเรื่องขึ้นมา โดยเอาเรื่องการเขียนแทรกซึมเข้าไปในการจดบันทึก หรือในการหาข้อมูลเล่าเรื่องที่เขาประทับใจ อย่างเด็กคนหนึ่งมีแพสชั่นที่เชื่อใน UFO เราก็เปิดกว้างมาก ไม่จำเป็นต้องเป็นนิทาน แต่เด็กอาจจะเล่าถึงของเล่นชิ้นโปรด หรืออาจจะได้แรงบันดาลใจจากนิทานแล้วมาเล่าในรูปแบบของ stop motion ในรูปแบบของละครอะไรก็ได้ เราให้พื้นที่พวกเขา

“ส่วน Afterschool Club จะฟรีสไตล์มากๆ เด็กคนไหนสนใจเรื่องอะไรเข้ามาเขียน เข้ามาเล่าได้เลย หรือจะมาอ่านนิทาน อ่านหนังสือ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เรากับเด็กๆ มาคิดทำกิจกรรมร่วมกันในแต่ละวัน”

CREAM Bangkok

Creative Minds พื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์

“Writing Center แต่ละที่จะมีจุดประสงค์ไม่เหมือนกัน” หญิงสาวเปิดประเด็น “อย่างออสเตรเลีย เป้าหมายของเขาคือการสร้าง sense of belonging ด้วยสังคมออสเตรเลียมีเด็กมาจากหลากหลายที่ เขาเลยต้องการสร้างพื้นที่ให้เด็กๆ รู้สึกว่าทุกคนมีพื้นที่เป็นของตัวเอง แม้ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ  หรือไม่ใช่คนออสเตรเลียโดยกำเนิด

“หรืออย่างของอเมริกา คือมีเด็กเยอะมากในห้องเรียน แล้วคุณครูไม่สามารถให้ความสนใจเด็กเป็นรายบุคคลได้เพื่อที่จะพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาของเด็ก เขาก็เน้นรวบรวมอาสาให้ได้มากที่สุดเพื่อประกบเด็กในการทำงาน

“ทีนี้พอกลับมาที่ประเทศไทย เวลาพูดชวนเด็กๆ มาเขียนอะไรกันไหม หรือมาอ่านหนังสือไหม มันอาจจะไม่น่าสนใจพอสำหรับเด็ก เราเลยคิดว่า หนึ่ง มันต้องทำให้เขารู้สึกว่ามันสนุก เหมือนการไปเล่นสวนสนุก ให้ตื่นเต้นได้ขนาดนั้น สอง คือเรารู้สึกว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นแง่มุมที่ยังขาดอยู่บ้างในระบบของการศึกษาหรือการเรียนรู้ของเด็กไทย เพราะฉะนั้นตัวนี้จึงเป็นตัวที่เราเน้น พร้อมกับความรู้สึกเห็นคุณค่าในศักยภาพตัวเองผ่านการทำงาน”

CREAM Bangkok

ครูใบปอเล่าว่าด้วยแนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของคำว่า Creative Minds โดยเอาตัวย่อของทั้งสองคำมารวมกันคือ Crea + M จนเป็นคำว่า CREAM  

“มันน่ารัก ดูเข้าถึงเด็กได้ง่าย แล้วมันก็ทำให้เรานึกถึงเป้าหมายตรงนี้อยู่เสมอว่ามันคือความคิดสร้างสรรค์ มันมีคุณค่านะสำหรับเด็กๆ เขาจะอ่าน จะเขียนได้ เขาต้องมีความคิดสร้างสรรค์”

อีกสิ่งที่ครูใบปออยากทำให้เกิดขึ้นคือการสร้างทัศนคติต่อการเขียนให้เป็นเรื่องสนุกสนานเหมือนขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา อยากให้งานเขียนสร้างความตื่นเต้นให้กับเด็กๆ โดยที่จะไม่เร่งและไม่บังคับให้พวกเขาเขียน

นั่นทำให้รอบๆ พื้นที่ตรงนี้เต็มไปด้วยลายมือเด็กๆ บนกระดาษ ซึ่งครูใบปอบอกว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากจินตนาการและความต้องการของเด็กเอง

“อย่างมีเด็กถามว่าที่โรงแรมมียามไหม ต้องมียามนะ เผื่อตอนกลางคืนมีคนมา เราเลยบอกว่างั้นหาเลย เขาก็ไปเขียนประกาศรับสมัครยามแปะกำแพง แล้วก็มีเด็กๆ มาเล่นลงชื่อกันเต็มเลย” เล่าถึงตรงนี้เธอหัวเราะเสียงดัง

CREAM Bangkok

Hotel CREAM เรื่องเล่าจากโรงแรมมหัศจรรย์

อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่ตรงนี้เป็นการสร้างพื้นที่จินตนาการในตัวเด็กๆ แต่ทำไมต้องเป็นโรงแรมมหัศจรรย์ เราถามครูใบปอด้วยความสงสัย

“พอเรามีคอนเซปต์ความคิดสร้างสรรค์แล้ว เราก็คิดว่าจะทำอะไรดี พยายามเลือกอะไรที่ปลายเปิดมากๆ ให้เด็กได้มีพื้นที่จินตนาการ แล้วก็มานึกถึงโรงแรมมหัศจรรย์ขึ้นมา มหัศจรรย์เพราะแขกที่มาพักก็มหัศจรรย์

“ถ้าลองดูดีๆ โรงแรมมันมีส่วนประกอบของการเล่าเรื่อง มีตัวละคร ตัวละครนี้เดินทางมาจากไหน  จะไปไหน มันมี motive อยู่ในนั้น บ้านของเขาอยู่ที่ไหน หรือเขาจะเดินทางไปที่ไหน ไปผจญภัยที่ไหน ดินแดนอะไร แล้วเขาต้องมาพักค้างคืนที่โรงแรมมหัศจรรย์ เพราะฉะนั้นโรงแรมมันต้องพิเศษมากๆ

“เราก็คิดว่ามันก็เหมาะกับเด็กๆ ดี แล้วก็ไปได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้กรอบอยู่เฉพาะธีม เฉพาะเรื่อง เด็กจะชอบยูนิคอร์น มันก็เป็นแขกมหัศจรรย์ได้”

ส่วนกิจกรรมของวันที่เราเข้าไปพบปะกับเด็กๆ โรงแรมมีแขกเป็นเด็กวัยประถมจำนวน 7-8 คน หลังจากเช็กอินรับกุญแจที่พักกันแล้ว ครูใบปอ, ครูวาว–ณัฐกานต์ ปานศรี, ครูบีม–ทชาภัทร ขลิบปั้น จะพาเด็กๆ สำรวจโรงแรม ตลอดทางจะมีพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้จินตนาการอย่างสนุกสนาน อย่างประตูมิติลึกลับ ซึ่งคุณครูบอกกับเด็กๆ ว่านี่เป็นทางเข้าไปยังห้องพัก

“เราอยากให้ทุกอย่างเป็นปลายเปิดเพื่อให้เด็กได้ใส่จินตนาการ ได้สร้างสรรค์ตามที่เขาอยากให้มันเป็นลงไป พื้นที่ในนี้ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เว้นพื้นที่ให้เขาได้คิดต่อในทุกๆ เรื่อง ถ้าหากเราอยากให้เขามีความคิดสร้างสรรค์ เราก็ต้องสร้างพื้นที่ที่สร้างสรรค์ลงไปด้วย” ครูใบปอบอกกับเรา

แต่ก่อนที่เด็กๆ จะได้เข้าไปเยือนประตูมิติ ครูบีมและครูวาวชวนให้เด็กๆ สังเกตดูวัตถุสีขาวคล้ายหินลายขรุขระที่ตกอยู่ในห้องชั้นสาม เด็กๆ ต่างตื่นเต้นอยากสัมผัสและสำรวจด้วยความสงสัย คุณครูจึงชักชวนให้นำวัตถุสีขาวนั้นลงมาตรวจสอบกันที่ชั้นสอง ซึ่งมีอุปกรณ์สำหรับการสำรวจและจดบันทึกให้อย่างครบครัน

“วันนี้เป็นกิจกรรมเวิร์กช็อปการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เราทำเป็นเรื่องราวของแขกที่มาพักในโรงแรมแล้วลืมของไว้ แล้วเราก็จะสืบหากันจากความเป็นไปได้ว่าเจ้าของของชิ้นนี้น่าจะเป็นใคร คล้ายๆ เป็นนักสืบ” ครูใบปอแอบกระซิบบอกกับเรา

เมื่อนำวัตถุมาสำรวจแล้ว เด็กๆ ไม่รอช้ารีบขอครูลองจับวัตถุสีขาวกันใหญ่ ครูบีมชวนเด็กๆ สำรวจสิ่งของผ่านประสาทสัมผัสทั้งตา หู จมูก กลิ่น ก่อนจะให้เด็กๆ สันนิษฐานกันว่ารูปร่างของวัตถุนี้จะเป็นอะไร แล้วใครน่าจะเป็นเจ้าของ เด็กๆ ช่วยกันนำข้อมูลจากการสังเกตมาจินตนาการและคาดการณ์ถึงเจ้าของ จนได้ผลสรุปว่าวัตถุลึกลับสีขาวนี้คือฟันของเจ้ามังกร

CREAM Bangkok

“ถ้าเป็นฟันของเจ้ามังกรจริง เราจะต้องแจ้งคืนผ่านหน่วยงานหนึ่งค่ะเด็กๆ ชื่อว่า สสสสส. ย่อมาจากสมาคมสืบค้นและส่งคืนสิ่งของที่สูญหาย” ครูวาวกับครูบีมบอกกับเด็กๆ พร้อมสร้างเสียงหัวเราะในเวลาเดียวกัน “และสิ่งที่อยากจะให้เด็กๆ ช่วยกันในวันนี้คือ ยังมีของลึกลับที่มีคนลืมไว้ในโรงแรมอีกเยอะมาก อยากให้ช่วยกันพิสูจน์แล้วตามหาเจ้าของกันค่ะ” ครูวาวเสริม แล้วครูบีมก็ยกกล่องใบใหญ่มาวางไว้ที่โต๊ะ

เด็กๆ เลือกของที่สนใจสำรวจพร้อมตามหาเจ้าของตามกระบวนการที่ครูพาทำ ทั้งสังเกตจากการสัมผัส ดมกลิ่น จากทางสายตา และจากการได้ยิน พร้อมจดลงสมุดบันทึกที่ได้รับแจกจากครูอีกด้วย

เรื่องราวหลากหลายกระจายตัวทั่วห้อง สิ่งของหนึ่งอย่างที่เด็กๆ หยิบมาได้รับการสร้างสรรค์จนออกมาเป็นเรื่องเล่าน่าสนใจพร้อมภาพวาดประกอบลงสมุดด้วยสีสัน

“ระหว่างที่เด็กๆ ทำงาน เราให้ความสำคัญกับการที่ไอเดียเขาโฟลว์ เราจะให้เขาเขียนไปเลย เขียนอย่างที่เขาเขียนได้นั่นแหละ ผิด-ถูกไม่เป็นไร คำไหนเขียนไม่ได้เรานั่งดู นั่งถามไปด้วยกัน มันเขียนอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าหากเขาเจอคำนั้นบ่อยๆ เขาจะรู้ว่าอ๋อ คำนี้ต้องเขียนแบบนี้นะ คำนี้เขียนผิดนะ” ครูใบปอเล่าระหว่างนั่งดูเด็กๆ สำรวจสิ่งของ

“เครื่องมือสำคัญของการเล่าเรื่องก็คือความคิด ถ้าความคิดของเรามันโฟลว์ก็จะสามารถเล่าได้ เราคิดว่าปัญหาที่เด็กไม่เขียน ไม่ชอบเขียน ไม่ชอบเล่า ก็เพราะไม่รู้ว่าจะเล่าไปทำไม คนฟังก็ไม่มี แต่เมื่อเรา input ให้เขาเกิดไอเดีย เกิดความคิดอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ เขาก็จะมองหาเองว่าเขาจะปล่อยไอเดียเหล่านี้ออกไปยังไง เขาจะเล่าให้ใครฟัง เขาจะเล่ารูปแบบไหน เขาจะเล่าผ่านการเขียน การวาด การประดิษฐ์ ผ่านการทำอะไร ทั้งหมดนี้เกิดจากความคิดที่มันแน่นแล้ว มันอิ่มแล้ว มันพร้อมที่จะปล่อยของแล้ว”

CREAM Bangkok

ก่อนจบกิจกรรมเวิร์กช็อป เด็กๆ ได้เติมจินตนาการเพื่อค้นหาเจ้าของกันอย่างสนุกสนาน ทั้งเรื่องราวของภูตน้อยที่ลืมแว่นตาไว้ก่อนออกเดินทางไปยังหมู่บ้านลึกลับ งูสีรุ้งผู้รักษาประตูมิติที่ลืมสร้อยคอข้ามมิติก่อนออกจากที่พัก หรือเรื่องของเจ้ามังกรที่ทะเลาะกับเพื่อนในป่าใกล้โรงแรมจนหยดน้ำตาก้อนกลมใสตกอยู่ที่นี่

“เรารู้สึกว่าเมื่อการเขียนมันเป็นสิ่งธรรมดาสำหรับเขาแล้ว เรื่องเล่าต่างๆ มันจะอยู่ในชีวิตเขา แล้วเขาจะรู้สึกว่าพอเขาโตขึ้นมาแบบเรา ตอนเด็กๆ เขาเคยได้เห็นอะไรบางอย่าง หรือได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่มหัศจรรย์มากๆ แล้วเขาคงอยากจะส่งต่อตรงนี้ให้คนอื่น เหมือนที่เราก็อยากทำ”

ก่อนเช็กเอาต์ออกจาก Hotel CREAM เรานึกขึ้นได้ว่าเรื่องเล่าและจินตนาการเป็นส่วนประกอบอีกอย่างในชีวิตมนุษย์ ที่สำคัญคือเราทุกคนต่างมีเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง และเด็กๆ เองก็เช่นกัน พวกเขาก็อยากจะมีพื้นที่ให้ได้เล่าเรื่องที่ตัวเองสนใจ

ขอแค่มีพื้นที่ ตัวอักษรที่ถูกถ่ายทอดมาจากจินตนาการก็จะเริ่มร้อยบรรเลง เมื่อนั้นเองที่ความคิดสร้างสรรค์ถูกต่อยอดไปอย่างไม่หยุดยั้ง

CREAM Bangkok

ติดตามกิจกรรมของ CREAM Bangkok ได้ที่ www.facebook.com/creambangkok เรื่องราวสนุกๆ ยังคงรอให้เด็กๆ มาช่วยกันสร้างสรรค์อยู่นะ

 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน