เมื่อความเฉาระบาดหนัก ดู 10 โฆษณาสู้โควิด-19 ที่เห็นแล้วลืมเหงาลืมเบื่อ

Highlights

  • ชวนดู 10 โฆษณาสู้โควิด-19 จากต่างประเทศที่ว่าด้วยเรื่องการรณรงค์ให้ทุกคนหยุดอยู่บ้านและเว้นระยะห่าง

โฆษณาเป็นเครื่องไม้เครื่องมือการสื่อสารที่ทรงพลังมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะการสร้างความเชื่อหรือชักชวนผู้คนให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างที่เจ้าของแบรนด์หรือนักโฆษณาต้องการ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่โลกทั้งโลกกำลังต่อสู้กับโควิด-19 แบรนด์และเอเจนซีโฆษณาต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งบ้านเราเองก็พร้อมใจกันใช้ความคิดสร้างสรรค์และความสามารถที่พวกเขามีร่วมต่อสู้กับเจ้าโรคระบาดโรคนี้ด้วย 

นี่คือ 10 โฆษณาสู้โควิดจากต่างประเทศที่เราดูแล้วชอบจนอยากนำมาแบ่งปันให้คุณทุกคนที่ต้อง work from home หรือกำลังรักษาระยะห่างกับคนอื่นด้วยการกักตัวอยู่บ้านมานั่งดูด้วยกันแบบเพลินๆ

Off Road, In House
Jeep
Mood, เปรู

ช่วงที่โลกทั้งโลกรณรงค์ให้คนอยู่บ้านเพื่อลดโอกาสติดเชื้อไวรัส Jeep แบรนด์รถออฟโร้ดสัญชาติอเมริกัน เจ้าของแท็กไลน์ติดหูอย่าง Have Fun Out There พูดประโยคเดิมก็คงจะดูยังไงๆ อยู่ แบรนด์รถออฟโร้ดก็เลยหยิบคำว่า off- road มาบิดเป็นคำว่า #StayOffTheRoad บอกลูกค้าและแฟนๆ รถจี๊ปหยุดออกมานอกถนน เพราะภาพที่สวยที่สุดในโมงยามนี้ก็คือภาพที่ทุกคนอยู่บ้านกันนั่นเอง (The best view for these days.)

พวกเขาหยิบหนึ่งในภาพจำหรือเอกลักษณ์ของรถ Jeep อย่างกระจังหน้ารถ โครงสร้างเหล็กที่เจาะเป็นช่องๆ สำหรับระบายความร้อน (ซึ่งดูเผินๆ เหมือนกรอบหน้าต่าง) ที่อยู่คู่กับรถ Jeep ทุกคันมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองหรือ 75 ปีนับจากวันก่อตั้งมาตีความใหม่ ในแง่ของวิชวลที่มาแบบน้อยๆ นิ่งๆ แต่สื่อความได้ตรงประเด็นคือเหตุผลที่เราชอบปรินต์แอดตัวนี้

 

#stayhomicillin
BRID (Agency Self-Promo)
BRID, จอร์เจีย

หลังจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าโควิด-19 เป็นโรคระบาดร้ายแรง และออกมาตรการ  self-isolation ให้คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงกักตัวเองและกับคนทั่วไปเองก็ควรแยกตัวเองออกจากพื้นที่แออัด Association of Communication Agencies of Georgia (ACAG) สมาคมโฆษณาของจอร์เจียจัดการประกวดปรินต์แอดว่าด้วยโจทย์การรณรงค์ให้ชาวจอร์เจียตระหนักถึงการกักตัวเอง ด้วยเหตุผลเท่ๆ ที่ว่าการอยู่บ้านก็คือการช่วยโลกอย่างหนึ่ง และนี่คือหน้าตาผลงานของผู้ชนะ

 

#stayhome
Netflix
ACC Grannot, อิสราเอล

ส่วนตัวแล้วเรารู้สึกอิจฉา Netflix อย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่ว่าจะเทศกาล โอกาสหรือวิกฤตไหน ครีเอทีฟของพวกเขาก็เค้นไอเดียโฆษณาที่ทำให้คนดูอย่างเราอมยิ้มได้อยู่เสมอ เริ่มต้นกันแบบเบาๆ ที่ #stayhome เนตฟลิกซ์ออกมาบอกคนดูให้อยู่บ้านด้วยไอเดียง่ายๆ แต่สนุก นั่นคือการเอาคีย์วิชวล (ในที่นี้หมายถึงฟอนต์) ของชื่อซีรีส์เรื่องดังเรื่องต่างๆ มาบวกกับข้อความสั้นๆ ที่พวกเขาอยากสื่อสาร ถ้าหนึ่งในนี้มีซีรีส์เรื่องไหนเป็นเรื่องโปรดหรือไม่ก็เป็นซีรีส์ที่เรายังดูค้างเติ่งอยู่คงรู้สึกรีเลตได้ไม่ยากเย็น

 

The Spoiler Billboard
Netflix
Miami Ad School, ไทย

ต้องบอกก่อนว่า The Spoiler Billboard ชิ้นนี้ถือเป็น spec ad (เรียกแบบเข้าใจง่ายๆ คือโฆษณาที่ไม่ได้ออนแอร์ และแต่แรกเริ่มแบรนด์ไม่ได้จ่ายเงินให้ครีเอทีฟทำ) แต่ที่เราทึ่งและดีใจมากๆ คือไอเดียของโฆษณาตัวนี้เป็นของแซนด์–ภัคณิชา กองเรืองกิจ และเบรฟ–มติธร ประจวบเหมาะ ชัยมังคโล สองนักเรียนครีเอทีฟชาวไทยที่กำลังศึกษาอยู่ที่ Miami Ad School เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี

หลังจากที่ทั้งสองกลับไทยในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ภาพที่เห็นในเวลานั้นคือผู้คนยังคงใช้ชีวิตชิลล์ๆ แบบเดิม (ยังไม่มี social distancing จริงจังอย่างวินาทีนี้) เมื่อเชื่อว่าการอยู่บ้านน่าจะช่วยลดการระบาด ทั้งคู่เลยปิ๊งไอเดียทำให้คนตระหนักถึงการอยู่บ้านมากขึ้นด้วยวิธีการสปอยล์ตอนจบของซีรีส์เรื่องดังของเนตฟลิกซ์ ไม่ว่าจะเป็น Stranger Things, Money Heist หรือ Narcos บนมีเดียที่ตั้งอยู่บนพื้นที่คนพลุกพล่านอย่างบิลบอร์ด ป้ายรถเมล์ เล่นกับอินไซต์ที่ว่าสิ่งที่คนติดซีรีส์เนตฟลิกซ์กลัวมากที่สุด (หรือยอมแพ้ไม่ได้เลย) คือการเจอสปอยล์ตอนจบของซีรีส์ที่ตัวเองใจจดใจจ่อติดตามอยู่นั่นเอง

Defeat Coronavirus Like a Rockstar
Rolling Stone
Miami Ad School, เยอรมนี

ว่าด้วยวงการหนังและซีรีส์ไปแล้ว มาตามดูปรินต์แอดในวงการดนตรีสากลกันบ้าง คนรักเสียงเพลงน่าจะพอคุ้นชื่อ Rolling Stone นิตยสารดนตรีรายเดือนของอเมริกาหัวนี้ดี ในช่วงไวรัสระบาดอย่างที่เราเห็นคือหลายๆ แบรนด์ออกมารณรงค์ให้คนอยู่บ้าน รักษาระยะห่าง หรือไม่ก็ล้างมือบ่อยๆ Rolling Stone มาเหนือด้วยการหยิบหน้าปกอัลบั้มของศิลปินชื่อดังทั้งยุคก่อนหน้าและยุคนี้มาทำเป็นภาพเซต Defeat Coronavirus Like a Rockstar ที่ดูกลายๆ ว่าจะเป็น survival guide แบบสนุกๆ เรียกรอยยิ้มจากแฟนเพลงพวกเขาได้เยอะแน่ๆ

 

Spread love from a distance
Hershey’s
ACC Grannot, อิสราเอล

นึกถึงเพื่อนๆ ชาวต่างชาติที่ใช้การจุ๊บแก้มเป็นการทักทายคนที่สนิทๆ ตั้งแต่เกิดโรคระบาด พฤติกรรมที่พวกเขาคุ้นเคยตั้งแต่เด็กก็เลยกลายเป็นสิ่งต้องห้าม แต่เพื่อรักษาวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยความหมายน่ารักๆ นั้นไว้ ในช่วงที่ลดการสัมผัสกัน ลองเปลี่ยนมาให้ช็อกโกแลต Hershey’s Kisses ก็เป็นทางเลือกในการสื่อสารและส่งมอบความรักที่อร่อย เอ๊ย น่าสนใจไม่เลวเลยทีเดียว

 

You Are Not Supposed to Look at This Billboard!
Edri-8
M&C Saatchi, อิสราเอล

คนอิสราเอลก็เข้มข้นและจริงจังกับมาตรการอยู่บ้านไม่แพ้ที่ไหนๆ Edri-8 คือบริษัทมีเดีย (Out of Home billboard company) ที่ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่บิลบอร์ดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองของตัวเองเป็นปรินต์แอดขนาดใหญ่ เพื่อสื่อสารกับคนอิสราเอลแบบกวนๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงใจว่า ‘You Are Not Supposed to Look at This Billboard!’ พวกคุณไม่ควรดูบิลบอร์ดอันนี้ กลับบ้านไปเถอะ

 

It’s Easier to Win at Home
Líbero
David, สเปน

การอยู่บ้านคือการเอาชนะโควิด-19 อย่างหนึ่ง Líbero นิตยสารฟุตบอลของอิตาลีคงอยากพูดแบบนั้น คำถามคือจะพูดยังไงให้เหมาะกับการเป็นคนที่รู้ลึกรู้จริงเรื่องฟุตบอลกันล่ะ

ในประเพณีการแข่งขันฟุตบอลมักมีคำว่า ทีมเหย้ากับทีมเยือน ทีมเหย้าที่หมายถึงทีมเจ้าบ้านมักถูกมองว่าได้เปรียบทีมคู่แข่งอย่างอัตโนมัติ (เพราะความเป็นเจ้าบ้านที่คุ้นชินกับสนามและสภาพอากาศมากกว่า แถมกองเชียร์ก็พรึ่บกว่า) เพื่อย้ำแฟนบอลว่าการอยู่บ้านนั้นดีกว่าจริงๆ Líbero ก็เลยกางสถิตินักฟุตบอลหรือทีมที่เล่นในบ้านแล้วฟอร์มดีมาเป็นหลักฐานให้แฟนบอลได้ประจักษ์กันเสียเลย

 

Stay and f*** at Home
SKYN Condoms
Sid Lee, ฝรั่งเศส

ตอนเห็นปรินต์แอดเซตนี้ (และเซตอื่นๆ จากแบรนด์ถุงยางอนามัยแบรนด์อื่นรวมถึง Pornhub ด้วย) แทบอยากพูดคำว่า แหม ยาวๆ แต่ด้วยความขี้เล่นและความตรงไปตรงมาของพวกเขาก็เลยอดใจหยิบมาให้ทุกคนชื่นชมด้วยไม่ได้ 

ในเมื่อผลิตภัณฑ์ของพวกเขามีหน้าที่ ‘ป้องกัน’ ผู้ใช้งานจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การส่งสารที่ว่า ต้องการให้ทุกคนปลอดภัยจากโควิดด้วยการ quarantine ตัวเองอยู่บ้าน (และหากิจกรรมสักอย่างทำแก้เบื่อ) เรียกได้ว่าเข้าทางแบรนด์ของพวกเขาเต็มๆ 

 

Videoconferencing Feature Request – No Touching
Gong (Agency Self-Promo)
Gong, โปแลนด์

ตั้งแต่ออฟฟิศประกาศให้พนักงานทุกคน work from home การเห็นหน้าเพื่อนๆ และหัวหน้าที่ออฟฟิศผ่าน videoconference เลยกลายเป็นกิจวัตรใหม่ของทุกๆ วัน Gong คือเอเจนซีจากโปแลนด์ที่เปลี่ยนคัลเจอร์การประชุมงานกับทีมรวมทั้งลูกค้าผ่านวิดีโอคอลเหมือนเราๆ สิ่งที่พวกเขาสังเกตเห็นและรู้สึกตะหงิดในใจคือ เวลาเปิดกล้องทีไรจะเห็นเพื่อนร่วมงานไม่คนใดคนหนึ่งเผลอเอามือที่ไปจับอะไรมาบ้างไม่รู้มาสัมผัสใบหน้า หรือคว้าสิ่งแปลกปลอมเข้าปากบ้างก็มี 

จะว่าไปแล้วพฤติกรรมเหล่านี้คือการเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายเราได้รับเชื้อโรค (ถึงจะไม่ใช่เชื้อโควิดเราก็ไม่ควรเสี่ยงอยู่ดี) ทีมครีเอทีฟจาก Gong เลยทำแคมเปญสนุกๆ เรียกร้องให้โปรแกรมวิดีโอคอลอย่าง Google Hangouts, Zoom, FaceTime และอื่นๆ ออกฟีเจอร์ตรวจจับการสัมผัสใบหน้า ด้วยหวังเล็กๆ ว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่พวกเขาเป็นห่วงเป็นใย

 

credit:

adsoftheworld.com
adforum.com
forbes.com
seine.site

AUTHOR