‘Challenge Me’ แคมเปญสอนภาษาที่บอกว่าความกล้าจะทำให้พูดอังกฤษง่ายกว่าที่คิด

Challenge Me

เป็นไปได้ไหม ที่เราจะเปลี่ยนให้พูดภาษาอังกฤษได้ ใน 3 เดือน ทั้งๆที่คนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาทั้งชีวิต แต่พูดไม่ได้ซักที?

จากคำถามเล็กๆในการพูดคุยของคนกลุ่มหนึ่ง ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญสนุกๆ ที่ท้าทายคนที่กลัวและอายที่จะพูดภาษาอังกฤษ ให้กล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง

Inspire English สถาบันสอนภาษารูปแบบใหม่ ได้ออกแคมเปญที่มีชื่อเท่ๆว่า Challenge Me แคมเปญที่ชวนให้เหล่านักเรียนของพวกเขา ท้าทายตัวเองให้กล้าพูดภาษาอังกฤษและพัฒนาทักษะภาษาให้ดีขึ้นให้ได้ ภายในระยะเวลา 3 เดือน เมื่อแคมเปญสิ้นสุดลง ผู้ชนะจะได้ไปท้าทายการใช้ภาษาอังกฤษของตัวเองที่ไปสิงคโปร์กับทางสถาบัน

“เราจะชวนผู้เรียนที่ร่วมแคมเปญนี้มาพูดคุยถามตอบเป็นภาษาอังกฤษกับคุณครู ในห้องที่เป็นสตูดิโอแบบย่อมๆ พร้อมอัดวีดีโอไว้เพื่อบันทึกความสามารถ ให้ผู้เรียนได้เห็นพัฒนาการของตัวเองจนครบ 3 เดือน ระหว่างนั้นในทุกๆวัน ผู้เรียนจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ จากคลาสเรียน และ กิจกรรม workshop ที่เราสร้างขึ้น สุดท้ายเราจะตัดสินผู้ที่มีพัฒนาการการพูดภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด เพื่อไปท่องเที่ยวและฝึกใช้ภาษาอังกฤษในต่างประเทศกับเราที่สิงคโปร์ “

แคมเปญ Challenge Me ไม่ใช่แค่การท้าทายผู้เรียน ว่าจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริงๆไหม แต่เป็นการท้าทายตัวเราเองในฐานะคุณครูด้วยว่า เราจะใช้วิธีไหนสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลง และพูดอังกฤษได้เก่งขึ้นจริงๆ” ครูพลอย-ชมพูนุช สุนทรพงศาธร หนึ่งในครูผู้สอนเล่าให้เราฟังถึงวิธีการสอนสุดสนุกของแคมเปญนี้

จุดเริ่มต้นของความท้าทายในแคมเปญ Challenge Me

“เริ่มต้นจากผู้เรียนส่วนใหญ่ของเรา เป็นผู้ใหญ่ที่กลัวและไม่มั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษเลย สิ่งแรกที่เราอยากทำในฐานะคุณครู คือ การสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้เกิดขึ้นมาก่อน แคมเปญ Challenge Me เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่เราคิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้เรียนได้เริ่มกำหนดเป้าหมาย

“ที่ชัดเจนทั้งด้านเวลาและความมุ่งมั่นรวมทั้งการได้เห็น ‘พัฒนาการของตนเอง’ ด้วยตาของตัวเอง แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้เรียนก้าวข้ามความกลัว จนกล้าที่จะพัฒนาตนเองให้พูดอังกฤษได้จริงๆ

“ในส่วนการเรียนรู้ จุดนี้แหละที่เป็นความท้าทายของเรา หัวใจของเราคือเรียนแล้วต้องสนุก เราไม่ได้มองว่าการมาเรียนคือการมานั่งฟัง แต่ต้องมาพูดคุย ใช้ภาษาอังกฤษกันจริงๆ ในสถานการณ์ต่างๆให้คล่องและสมบูรณ์ที่สุด นี่จึงเป็นที่มาที่เราพยามจำลองการเรียนรู้ในห้องเรียน และกิจกรรม workshop ต่างๆ ให้เป็นโลกเสมือนจริงมากที่สุด

“จริงๆ แล้ว เป้าหมายสุดท้ายของแคมเปญนี้ ไม่ใช่แค่การเป็นผู้ชนะ แล้วได้ไปเที่ยวสิงคโปร์ แต่เราต้องการให้ทุกคน เกิดความกล้าและท้าทาย พร้อมที่จะพัฒนาตัวองในทุกๆวัน เราชื่อมั่นว่า จุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้แหละจะทำเกิดการพัฒนาตัวเองที่ยิ่งใหญ่ติดตัวไปตลอดชีวิต” ครูผึ้ง-นุชฏา สุวรรณวงศ์ คุณครูสาวสวยคนเก่งบอกกับเราถึงจุดเริ่มต้นและความตั้งใจทั้งหมด

ร่วมแคมเปญนี้ แล้วได้อะไร?

ได้โฟกัสที่การพัฒนาภาษาเป็นหลัก

ส้มโอ สาวน้อยวัย 22 ปีจากมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งบอกกับเราว่า “ตอนแรกที่เข้าร่วมแคมเปญนี้เพราะอยากไปสิงคโปร์ แต่พอเข้าร่วมแล้วมันต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยเรื่อย แทนที่จะโฟกัสแค่รางวัลเรากลับมาโฟกัสที่ตัวเองว่าเราจะพัฒนาภาษาอังกฤษไปได้มากน้อยแค่ไหน ถึงไม่ได้ไปสิงคโปร์ก็ไม่เป็นไรเลย เพราะเราได้ Challenge ตัวเองแล้วตามชื่อโปรเจกต์เลย

“ตั้งแต่ตัดสินใจเข้ามาร่วมแคมเปญนี้ เรากล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น เราได้ฝึกคิดให้ทุกอย่างในชีวิตก็จะเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย ตอนนี้เวลาอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ก็พูดกับตัวเองว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง ดูว่าเวลาพูดหน้าเราเป็นยังไง ฟังเสียงว่าใกล้เคียง native หรือยัง บางทีก็จะนึกว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรบ้าง โฟกัสกับ sentence ในภาษาอังกฤษมากขึ้น”

ได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ

เติ้ล ชายหนุ่มอายุ 35 เจ้าของธุรกิจส่วนตัวเล่าให้เราฟังถึงแคมเปญนี้ว่า “เราไม่ได้มาเรียนแบบซีเรียส รู้เลยว่าเราได้พูดภาษาอังกฤษแบบเป็นธรรมชาติ การเรียนแบบเก่าๆเราก็ไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือเปล่า ยิ่งเราเจออะไรที่มันผิดเรายิ่งไม่มีกำลังใจ แต่ที่นี่ทำให้เราอยากคุย ยิ่งพูดเยอะมันก็จะเก่งขึ้นเอง แคมเปญนี้เขาวัดผลโดยดูพัฒนาการเรา มันทำให้กระตุ้นเรา ไม่รู้หรอกว่าเราชนะหรือเปล่าแต่เราก็อยากพัฒนามากขึ้น โดยที่ไม่มีใครมาบังคับเรา”

“ตอนแรกที่มา test ก็กังวลและกดดันเพราะคนอื่นพูดได้ แต่พอผ่านมาเรื่อยๆ คุณครูช่วย เพื่อนๆช่วย เลยสามารถก้าวผ่านความกลัวไปได้ที่นี่ทุกคนตั้งใจมาเรียนภาษาอังกฤษ ทุกคนเลยเข้าใจกัน กล้าพูดมากขึ้น พูดผิดก็ไม่มีใครว่า ไม่มีใครมาจับผิด แค่สื่อสารได้ ก็แค่พูดใหม่ บรรยากาศมันเลย relax เรียนได้เรื่อยๆเป็นธรรมชาติมาก นี่เป็นจุดที่ชอบ” กล้า หนุ่มวัย 24 ปีที่เพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาลัยบอกกับเราอย่างนั้น

ได้ลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง

“เราเรียนมาหลายปีแล้วทำไมถึงยังรู้สึกว่าเป็นปัญหา เราพยายามแต่ไปไม่ถูกทางสักที เราทดลองเรียนภาษาอังกฤษมาหลายอย่าง จากตำรา อ่านเอง คู่มือ แต่ก็ยังไม่ถูกทางของเรา เลยรู้สึกเหมือนย่ำอยู่กับที่ จนมาเรียนภาษาอังกฤษที่นี่และได้ร่วมแคมเป็น Challenge me เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเลยว่าเรากล้าพูดมากขึ้น ถึงแม้ว่าพูดผิดก็ไม่อาย ตอนนี้เจอฝรั่งก็พูดได้ อยากให้เขาเข้าใจ” เนล นักการตลาดบริษัทเอกชนเล่าถึงประสบการณ์ของเธอให้เราฟังว่าตั้งแต่ภาษาอังกฤษเธอดีขึ้น ทักษะงานขายกับชาวต่างชาติก็ได้ผลดีขึ้นตามมา

จิง พนักงานออฟฟิศวัย 24 ผู้มาเรียนทุกวันให้คำตอบเราว่า “ตั้งแต่มาร่วมแคมเปญ เราได้พัฒนาตัวเองทุกวัน มีความพยายามที่จะเข้าคลาสทุกวัน จริง ๆ ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่เราคิด เวลาเจอใครที่ท้ออยู่เราไม่อยากให้ท้อเลย เพราะถ้าตั้งใจ ทุกคนทำได้ แค่ฝึกพูดกับตัวเองทุกวัน พยายามหาเพื่อนฝรั่ง อย่ากังวลแกรมม่ามาก ให้กล้าพูดออกมาเลย”

ติดตามแคมเปญดีๆที่จะออกมาอีกเรื่อยๆ

หากใครอยากลองพัฒนาสกิลภาษาอังกฤษอย่างท้าทายตัวเอง แนะนำว่าให้ติดตามข่าวสารของ Inspire English ให้ดีๆ ที่นี่กำลังจะจัดแคมเปญสนุกๆอีกเพียบในอนาคตให้ผู้เรียนได้ลองเข้าร่วมกัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.inspire-english.in.th หรือ www.facebook.com/inspire.english.learning หรือ โทร. 086-445-9536

“เราจะชวนผู้เรียนที่ร่วมแคมเปญนี้มาพูดคุยถามตอบเป็นภาษาอังกฤษกับคุณครู ในห้องที่เป็นสตูดิโอแบบย่อมๆ พร้อมอัดวีดีโอไว้เพื่อบันทึกความสามารถ ให้ผู้เรียนได้เห็นพัฒนาการของตัวเองจนครบ 3 เดือน ระหว่างนั้นในทุกๆวัน ผู้เรียนจะได้ฝึกภาษาอังกฤษ จากคลาสเรียน และ กิจกรรม workshop ที่เราสร้างขึ้น สุดท้ายเราจะตัดสินผู้ที่มีพัฒนาการการพูดภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด เพื่อไปท่องเที่ยวและฝึกใช้ภาษาอังกฤษในต่างประเทศกับเราที่สิงคโปร์
แคมเปญนี้ไม่ใช่แค่การท้าทายผู้เรียน ว่าจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้จริงๆไหม แต่เป็นการท้าทายตัวเราเองในฐานะคุณครูด้วยว่า เราจะใช้วิธีไหนสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเปลี่ยนแปลง และพูดอังกฤษได้เก่งขึ้นจริงๆ” ครูพลอย-ชมพูนุช สุนทรพงศาธร หนึ่งในครูผู้สอนเล่าให้เราฟังถึงวิธีการสอนสุดสนุกของแคมเปญนี้

AUTHOR