ในฤดูฝุ่นแบบนี้คุณใช้ชีวิตกันอย่างไร?
เมื่อฝุ่น PM 2.5 ปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองก็ถึงเวลาที่เราต้องปรับวิถีชีวิตเพื่อเอาตัวรอดกันอีกครั้ง แต่ทำยังไง้ยังไงก็หาวิธีที่จะอยู่ดูแลจมูกและร่างกายให้อยู่รอดปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้สักที เราจึงไปถามเหล่าคอลัมนิสต์ของ a day ว่าบ้านของพวกเขาอยู่ที่ไหน อากาศที่นั่นเป็นอย่างไร และในช่วงเวลาแบบนี้พวกเขาใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง เผื่อจะมีวิธีไหนที่เราปรับมาใช้ได้
ถึงอย่างนั้น วิธีการเหล่านี้ก็เป็นแค่การบรรเทา ไม่ใช่การแก้ไขปัญหา และกับเรื่องที่หนักหนาขนาดนี้ เราก็ได้แต่หวังว่าจะมีนโยบายออกมาช่วยเหลือคนเล็กๆ อย่างพวกเราสักที
เอม–นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์ / คอลัมน์ follow me
location : รามคำแหง 118
อากาศที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง :
เราไม่ได้ใช้เครื่องวัดแต่ก็รู้สึกได้ว่าอากาศไม่ปกติ ไม่ค่อยดี มีอาการไอบ้าง และหายใจไม่เหมือนช่วงสองเดือนก่อนหน้านี้
ช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างไร :
การใช้ชีวิตเราเหมือนเดิม เพราะเราไม่ต้องทำงานเอาต์ดอร์ ขับรถก็อินดอร์ อยู่บ้านก็อินดอร์ ห้องนอนเรามีเครื่องกรองอากาศซึ่งช่วยเยียวยาได้ การเปลี่ยนแปลงที่ชัดหน่อยก็คืออดออกกำลังกาย อดวิ่ง ปกติอาทิตย์หนึ่งเราจะต้องวิ่งสักสองครั้งบนลู่วิ่งที่บ้าน และเปิดห้องให้ลมพัด แต่ช่วงนี้ถ้าวิ่งแล้วเปิดให้ลมพัดและเราสูดอากาศเข้าไปเต็มๆ ก็ไม่รู้ว่าจะแย่ขนาดไหน หรือถ้าอยากวิ่งจริงๆ ก็ต้องปิดบ้านให้สนิท ซึ่งก็ลำบากต้องไปหาพัดลมมาอีก อากาศก็ไม่ถ่ายเท
Juli Baker and Summer / คอลัมน์ nowhere girl
location : พัฒนาการ
อากาศที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง :
ตอนเช้าบางวันก็อากาศเย็นๆ แต่ตอนกลางวันร้อนมากเลย
ช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างไร :
โชคดีที่เราเป็นฟรีแลนซ์ทำงานอยู่บ้าน ช่วงนี้ก็เลยจะเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะเราเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วจะเซนซิทีฟกว่าคนอื่น ถ้าวันไหนต้องออกนอกบ้านจริงๆ กลับมาต้องกินยาแก้แพ้ก่อนนอน ไม่งั้นจะคัดจมูกและคันมาก
เต๋อ–นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ / คอลัมน์เมดอินไทยแลนด์, global review film
location : กรุงเทพมหานคร
อากาศที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง :
เหมือนกับดักหลุมพราง เย็นสบายแต่มีฝุ่น
ช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างไร :
ชีวิตปกติของเราค่อนข้างอินดอร์อยู่แล้วเลยพอลุยได้ แต่จะลำบากตอนกินข้าวนอกบ้าน เพราะการจะกินข้าวเจ้าอร่อยแต่ร้านอยู่ริมถนนนั้นต้องคิดเยอะพอๆ กับการลงทุนในตลาดหุ้น
Sy Chonato / คอลัมน์ in other words
location : นนทบุรี
อากาศที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง :
จริงๆ มันก็แย่มานานแล้ว แต่ช่วงนี้ก็แย่หนักหน่อย เราอยู่นอกเมืองยังรู้สึกถึงความต่างของอากาศเลย
ช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างไร :
- พยายามไม่แตกตื่น ปกติเราชอบอยู่บ้านก็ยิ่งพยายามออกจากบ้านให้น้อยที่สุด อะไรที่ทำที่บ้านได้ก็จะทำเพราะเราเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งเอาจริงๆ มันไม่ดีเลย เราควรออกไปข้างนอกตามปกติโดยไม่ขวัญผวา ไม่ใช่เลือกอยู่อินดอร์เพื่อหนีปัญหา และเราไม่ชินกับการใส่หน้ากากด้วย ยกเว้นเวลาป่วย
- เราลดการนั่งมอเตอร์ไซค์ ลดการใช้รถส่วนตัว ใช้ขนส่งมวลชนบ่อยขึ้น เดินเท้าบ่อยขึ้น พยายามตระหนักว่าเรานั่งรถส่วนตัวหลีกหนีฝุ่น หรือสั่งอาหารมาส่ง เราไม่เจอฝุ่นเองแต่มันสร้างฝุ่นให้ส่วนรวม
- เราเกิด awareness คิดยาวๆ มากขึ้นว่าของที่เราบริโภค หรือกิจกรรมที่เราทำมันก่อให้เกิดฝุ่นหรือผลกระทบไหม สุดท้ายก็ต้องกลับมาที่นโยบาย การตรวจสอบ และการควบคุมในระดับมหภาค เรียกร้องให้รัฐควบคุมโรงงาน รถยนต์ และ regulate โครงการก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน ทำให้ระบบขนส่งมันดีจนเราไม่อยากใช้รถ เราไม่ได้อยู่ในชนบท สุดท้ายมันก็คือสังคมเมืองที่เราต้องใช้ทรัพยากรร่วมกัน ต้องผลักดันในระดับนโยบาย
ณิชมน หิรัญพฤกษ์ / คอลัมน์ made in japan
location : โตเกียว
อากาศที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง :
อากาศแห้งๆ หน้าหนาวไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องแพ้ฝุ่นหรือละอองเกสรเท่าไหร่ ตอนนี้ aqi ทั่วโตเกียวเฉลี่ยประมาณ 30 ถ้าเป็นฤดูใบไม้ผลินี่คนที่แพ้ก็ใช้ชีวิตลำบากเหมือนกัน น้ำหูน้ำตาไหลไปหมด สมัยก่อนตอนเศรษฐกิจบูมใหม่ๆ โตเกียวก็เคยอากาศแย่มากๆ นะ ดูจากรูปแล้วมีความเป็นเมืองหมอกเหมือนกัน จนรัฐออกกฎหมายควบคุมมลภาวะทางอากาศออกมาควบคุมไอเสียจากรถยนต์ ควันพิษจากโรงงานต่างๆ ก็ดีขึ้น คุมเข้มเรื่องรถยนต์ดีเซลด้วย อย่างพวกเครื่องยนต์ การปล่อยควัน ส่วนรถคนทั่วไปคือประกาศห้ามใช้ไปเลย
ช่วงนี้ใช้ชีวิตอย่างไร :
โชคดีที่ยังไม่แพ้ละอองเกสร (เห็นเขาว่า ถ้าอยู่นานถึงจุดหนึ่งจะเป็น) เลยไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก ตอนนี้เห็นญี่ปุ่นเน้นเรื่องมาตรการลดพวก VOCs, NOx เพื่อลด PM 2.5, Photochemical Oxidant