ถ้าพูดถึง LEGO หลายคนคงจะคิดถึงตัวต่อในรูปแบบต่างๆ มีทั้ง ตึก บ้าน ตัวละครจากในภาพยนตร์แฟรนไชส์ดัง รถยนต์ ปัจจุบันเลโก้เป็นแบรนด์ของเล่นที่ขยายรูปแบบไปเยอะมาก มีสารพัดแบบให้เลือกเล่น ร่วม Collab กับแบรนด์อื่นๆ ในหลายแวดวงนับไม่ถ้วน
แต่ในความหลากหลายนั้น เลโก้ยังคงผลิตสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ LEGO Minifigures หรือตัวละครที่มีอยู่ในของเล่นหลายเซ็ตของเลโก้ และยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
คนเล่นเลโก้ทั่วโลกรู้ดีว่ามินิฟิกเกอร์มีความสำคัญแค่ไหน นักสะสมที่เราอยากแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ คือ ก๊อต – ปิยฤทธิ์ ปัญจธรรมวิทย์ กราฟิกดีไซเนอร์ฟรีแลนซ์ที่คนในวงการหนังสือรู้จักดี เขายังเคยมีผลงานหนังสือของตัวเอง Home Away from Home เกาหลีใต้ที่เห็นและไปอยู่ โดยสำนักพิมพ์แซลมอน
ก็อตอาจไม่ใช่นักสะสมมินิฟิกเกอร์จำนวนมากที่สุด แต่ในคอลเลกชั่นของเขามีเรื่องราวบางอย่างน่าสนใจ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ก๊อตเลือกสะสมมินิฟิกเกอร์ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านของเขา เราจะไปท่องในโลกของนักสะสมผู้คนนี้กัน
“มินิฟิกเกอร์เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านของผม เวลาผมเศร้าก็จะแกะออกมาวันละซอง ซึ่งมันเวิร์กกับผมมาก ผมเลยมองว่าจริงๆ แล้ว การที่เราป่วยซึมเศร้าหรือรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง อาจจะไม่ต้องการหมอหรือยา บางทีเราต้องการแค่อะไรสักอย่างที่มาช่วย พาเราไปอีกโลกหนึ่งแล้วค่อยกลับมาโลกความเป็นจริง” ก๊อตเริ่มเล่า
กราฟฟิกดีไซเนอร์หนุ่มหวนกลับมาเล่นเลโก้และมินิฟิกเกอร์อีกครั้ง หลังจากที่เคยเล่นเลโก้ตอนเด็กๆ เพราะความเจ็บป่วยจากการโหมงานหนักจนร่างกายรับไม่ไหว ทำให้ต้องยกเลิกงานที่รับไว้เกินกว่าครึ่งเพื่อรักษาตัว
“จริงๆ ผมมีความคิดในหัวมาตลอดนะว่า ผมจะกลับมาเล่นเลโก้ในวันที่ผมมีเงิน กลับมาเล่นเลโก้เป็นงานอดิเรก แต่กลายเป็นว่าผมกลับมาเล่นเลโก้ตอนที่ผมป่วยหนัก
“ช่วงนั้นเป็นช่วงที่จิตใจผมแย่มาก ผมไม่อยากอยู่แล้ว อยากให้จบวันเร็วๆ จบชีวิตเร็วๆ แล้วช่วงนั้นผมไปเดินห้าง เป็นช่วงที่เลโก้สโตร์พึ่งมาเปิดไปไม่เกินปีพอดี ผมก็ไปเดินดู เอ้า เลโก้แบบตอนเด็กนี่หว่า ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำ สมัยก่อนคือเรามีปัญหาว่ามันแพง แต่ตอนนี้เรามีเงินแล้ว แล้วงานมาโดนแคนเซิล เขียนหนังสือก็ต้องพัก เลยซื้อมาลองสักหน่อยแล้วกัน”
ของเล่นสะสมบนโลกใบนี้มีนานานับประการ แต่เลโก้และมินิฟิกเกอร์ได้โอบอุ้มความทรงจำแสนสุขในวัยเด็กของก๊อตเอาไว้
“พอเห็นเลโก้ก็นึกถึงตอนเด็กๆ ที่เรามีความสุขมาก เราไม่ต้องเครียดอะไรเลย ตอนเด็กรู้สึกว่าชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีความสุข ตอนนั้นผมก็มีความสุขมาก เล่นของเล่นกับที่บ้าน”
เพราะวิกฤติต้มยำกุ้งทำให้เขาและครอบครัวไม่ได้กลับไปยุ่งเกี่ยวกับของฟุ่มเฟือย ก๊อตจึงต้องเริ่มตัดใจและคิดถึงครอบครัวก่อนจะใช้เงิน
“ตอนนั้นผมประมาณ 7-8ขวบ ผมต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนเอง เพราะไม่มีคนดูแลน้องสาว แม่ต้องดูแลน้อง จากที่ผมไปโรงเรียนแล้วมีคนไปส่ง กลายเป็นว่าผมต้องฝึกนั่งรถเมล์ตั้งแต่เด็ก ต้องทำอะไรเอง ตัดสินใจเอง บริหารเงินเอง กลายเป็นว่ามันบีบให้ผมเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัย
“ก่อนหน้านั้นพอเจอเลโก้เป็นช่วงเวลาที่ผมไม่ต้องคิดอะไรเลย เป็นช่วงเวลาที่ผมรอพ่อกลับจากต่างจังหวัด เมื่อก่อนพ่อผมจะขับรถลงใต้แล้วก็ไปซื้อพวกของปลอดภาษีที่มาเลย์ เวลาพ่อกลับมาก็จะต้องมีของเล่นเซ็ตใหญ่ๆ ผมจำภาพนั้นได้ชัดเลย”
ก๊อตหวนนึกถึงวันวานก่อนจะเล่าให้เราฟังต่อ
“หลังจากผมต่อเสร็จ ก็ได้ความรู้สึกเดิมๆ กลับมา รู้สึกสนุกกับมันมากๆ แล้วทุกครั้งที่รู้สึกแย่กับตัวเอง ผมก็จะไปซื้อเรื่อยๆ เลย เลโก้จะมีขายเป็นเซ็ตแบบกล่อง แล้วก็จะมีขายมินิฟิกเกอร์ซองๆ ผมก็ซื้อเป็นเซ็ตกับเริ่มซื้อเป็นซอง แต่ละซองจะจัดหมวดเป็นซีรี่ย์ มีมากกว่า 20 ซีรีย์ ซีรีย์หนึ่งในรุ่นใหม่จะมี 12 ตัว ผมก็ค่อยๆ เก็บไป เริ่มเข้ากลุ่มเลโก้ เริ่มไปจอยกรุ๊ปที่โน่นที่นี่ กลายเป็นผมเล่นจนรู้สึกว่าอาการที่เหมือนเป็นซึมเศร้าข้างใน มีเมฆลอยเกาะอยู่บนหัว มันหายไปเลย”
พออาการเริ่มดีขึ้น ความชอบที่ก๊อตมีต่อเลโก้ยังไปต่อ กลายเป็นว่าเขาใช้ใจกับมันเยอะมาก จนเลโก้กลายเป็นโลกอีกใบหนึ่ง
“มินิฟิกเกอร์มีรูปแบบเยอะมาก มีหลายสาย แล้วแต่คนเล่น จะเก็บสะสมตัวอย่างเดียว เก็บเฉพาะตัวหายากๆ หรือเก็บจากเซ็ต ซีรีย์ที่ผมชอบ เช่น เซตโอลิมปิค team GB ปกติแต่ละซีรีย์จะมี 12 หรือ16 ตัว แต่ซีรีย์นี้มีแค่ 9 ตัว เป็นซีรีย์ที่ราคาแพงกว่าปกติเพราะมีขายเฉพาะที่อังกฤษในปี 2012 แต่ผมไม่ได้สนใจราคา แค่รู้สึกว่ามันเยียวยาผม
“อันที่สองเป็น minifigure collectable ซีรีย์ 18 มันเป็นซีรีย์ครบรอบ 40 ปีของ minifigures ที่ตอนเริ่มต้น lego มีตัวแตกต่างกันแค่ 20 ตัว แต่มาจนถึงปีที่ครบรอบมีตัวแตกต่างกันมากกว่า 8000 ตัว ทางเลโก้ก็เลยออกตัวพิเศษมาเป็นตัวตำรวจ ทำเหมือนตัวออรินัลที่มีตั้งแต่เริ่มต้น ปกติจะมี 16 ตัว แต่ซีรีย์นี้มี 17 ตัว ตัวนี้เลยกลายเป็นตัวที่มีราคาแพงที่สุดในซีรีย์ ซึ่งคนก็จะนิยมพอสมควร แต่มันไม่มีหลักเกณฑ์เลยว่าตัวไหนจะคนนิยม บางทีผมก็ชอบ บางทีผมก็ไม่ชอบตัวที่คนอื่นเขาชอบกัน เหมือนมโนหมู่ว่าตัวนี้สวยกันมากกว่า
“อีกซีรีย์หนึ่งคือซีรีย์ที่เป็นซิมสัน ถ้าไม่ได้เข้ามาเล่นจริงๆ ก็จะค่อยมีคนเห็นเท่าไหร่ จะมีแบบที่เป็นซองที่ผมซื้อมา มี 2 ซีรีย์ ส่วนที่ผมซื้อมาเป็นเซ็ตจะเป็นบ้านซิมสัน ส่วนอีกเซ็ตที่ออกมาคือ kwik-e-mart ซึ่งผมไม่ได้ซื้อ ยังเสียดายมาถึงทุกวันนี้
“ซีรีย์ต่อไปเป็นซีรีย์ที่ผมเล่นเป็นครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่ผมซื้อซองมา เพราะผมเริ่มสนใจเป็นซีรีย์มินิฟิกเกอร์ที่เป็นดิสนีย์ ข้างในทุกซีรีย์ ทุกซองก็จะมีตารางบอกว่าซีรีย์นี้มีกี่ตัว ให้อะไรมาบ้าง ราคาแพงแค่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบของผู้คนและความเก่า ราคาแต่ละตัวในซีรีย์ก็เลยจะไม่เท่ากัน ยกเว้นถ้าเป็นมินิฟิกเกอร์ที่แบบว่าเฉพาะจริงๆ แบบซีรีย์10 จะมีอยู่ตัวหนึ่งที่ชื่อมิสเตอร์โกล์ด เป็นแบบสุ่มเลยว่าในซองที่คุณซื้อไป มิสเตอร์โกล์ดจะมีแค่ 5 พันตัวในโลก มิสเตอร์โกล์ดเป็นตัวใส่หมวกสีทอง ทองทั้งตัวเลย มือหนึ่งราคาก็จะประมาณ 1-2 แสนบาท ตอนนี้บางที่ราคาไปถึง 3 แสน กลายเป็นว่าซีรีย์ 10 จะแพงกว่าเพื่อน เพราะคนตามล่าหามิสเตอร์โกล์ด แล้วตัวโยดาใน Star Wars ที่มีสกรีนเสื้อว่า I Love NY ก็ราคาพอๆ กับมิสเตอร์โกล์ด มันบ้ามาก จะมีเป็นเว็บบอกเลยว่ามินิฟิกเกอร์ตัวไหนที่มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก ซึ่งตัวที่แพงที่สุดในโลกตอนนี้อยู่นอกโลกถูกส่งไปอวกาศ มันบ้าถึงขนาดนี้ ผมถึงชอบความเนิร์ดของมินิฟิกเกอร์ว่าแบบคนมันไปสุด”
อย่างไรก็ตาม ก๊อตมองว่า ปกติกลุ่มนักสะสมมักจะเก็บตัว ไม่ค่อยไปเปิดเผยที่ไหน
“เหมือนกับว่าถ้าเราไม่ไปบ้านเขาเราก็จะไม่รู้เลยว่าเขาเล่นเลโก้ มันไม่ใช่เรื่องที่แบบ เฮ้ย เราเล่นเลโก้นะเว้ย น่าจะมีคนจริงที่เก็บทุกอย่างมากกว่าผม เป็นพันเป็นหมื่นคนเลย แต่ถ้าถามว่าผมบ้าไหม ผมก็บ้าสุดประมาณหนึ่ง”
จากความทรงจำในวัยเด็ก สู่ยาสามัญประจำบ้าน และโลกแห่งความหลงใหล ทั้งหมดนี้เกิดจากของเล่นชิ้นเล็กนิดเดียว แต่คุณค่าที่มีต่อใครบางคนนั้นช่างมหาศาลเหลือเกิน