ชวนปีนเขาออกกำลังขาในไต้หวัน และแนะนำ 3 เส้นทางที่คุ้มค่าแก่การลอง

Highlights

  • คนไต้หวันปีนเขากันจนเป็นเรื่องปกติ ไม้ปีนเขาและชุดปีนเขาดูเหมือนจะเป็นไอเทมที่คนไต้หวันส่วนใหญ่มีติดบ้านกัน
  • ด้วยภูมิประเทศของไต้หวันที่เป็นเกาะและมีแนวเขาทอดยาวตลอดตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้มีเส้นทางปีนเขาที่หลากหลาย
  • สำหรับคนที่เริ่มสนใจอยากลองปีนเขาในไต้หวัน เราขอแนะนำ 3 เส้นทางที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก แต่คุ้มค่าแก่การลองไปใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมออกกำลังขาแน่นอน

ตอนที่เขียนต้นฉบับของเดือนนี้ยังไม่พ้นเดือนมกราคมดี แต่แค่เดือนแรกของปีเราก็ปีนเขาไปแล้ว 3 แห่ง บอกเลยว่าไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจู่ๆ ตัวเองจะออกทริปปีนเขาจนเป็นเรื่องปกติแบบนี้

ด้วยภูมิประเทศของไต้หวันที่เป็นเกาะและมีแนวเขาทอดยาวตลอดตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้มีเส้นทางปีนเขาที่หลากหลาย ตั้งแต่เส้นทางง่ายๆ ใช้เวลาไม่นานไปจนถึงเส้นทางทรหดที่ต้องใช้เวลาหลายวัน คนไต้หวันเลยปีนเขากันจนเป็นเรื่องปกติ ไม้ปีนเขาและชุดปีนเขาดูเหมือนจะเป็นไอเทมที่คนไต้หวันส่วนใหญ่มีติดบ้านกัน ใกล้วันหยุดอยากไปแฮงเอาต์กับเพื่อนหรือเดตกับแฟนแล้วไม่รู้จะไปไหนก็มักจะมีใครสักคนเสนอขึ้นมาว่า ‘ไปปีนเขาที่…กันเถอะ’

ช่องที่เว้นว่างไว้ก็แล้วแต่โลเคชั่นที่จะไป ส่วนใหญ่ถ้าอยู่แถบไทเปก็หนีไม่พ้นอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน (Yangmingshan National Park) เพราะอยู่ใกล้เมือง เดินทางสะดวก (มีรถเมล์) และที่สำคัญคือมีเส้นทางปีนเขาให้เลือกหลายเส้นทาง

Yangmingshan National Park

Yangmingshan National Park

ปกติแล้วช่วงที่จะแนะนำให้นักท่องเที่ยวปีนเขาในไต้หวันคือตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม และเดือนตุลาคม-ธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศไม่ร้อนไม่หนาว ไม่ชื้นเกินไป และฝนไม่ค่อยตก แต่สำหรับชาวไต้หวันแล้วจะเดือนไหน เมื่อไหร่ ถ้าว่าง ถ้าอยากไป และถ้าอากาศไม่ได้แย่เกินไปจนเดินไม่ได้ จะเมื่อไหร่ก็ดูเหมือนพวกเขาพร้อมจะไปปีนเขากันได้ตลอด

เมื่อมีการเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมธรรมชาติก็ต้องมีการอนุรักษ์ที่รัดกุม ในบางเส้นทางนักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียนออนไลน์หรือขออนุญาตเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลล่วงหน้าก่อนจึงจะเข้าไปในพื้นที่ได้ และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ซึ่งเราก็สังเกตว่าธรรมชาติของไต้หวันยังสมบูรณ์และสวยงามมากๆ แม้พื้นที่ในเขตไทเปที่มีความเป็นเมืองสูงมากก็ตาม อย่างหยางหมิงซาน หรือเมาคง สถานที่ยอดฮิตที่ต้องรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศแทบจะตลอดเวลา แต่ทุกครั้งที่ผ่านไปก็ยังได้เห็นพื้นที่สีเขียวกว้างสุดลูกหูลูกตาตลอด

Jiantanshan Trail

สำหรับเราตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมาได้ปีนเขาแบบง่ายๆ ไป 2 ที่คือ หนึ่ง เจียนถานซาน (Jiantanshan Trail) ที่มองเห็นวิวเมืองไทเปสวยไม่แพ้เขาช้างอันโด่งดัง เดินไปจากสถานี MRT เจียนถานได้ และยังได้เจอบ้านพักอาศัยของคนที่อยู่มานานประปรายด้วย และสอง กวยโถวซาน (Guitoushan) ในอุทยานธรณีเย่หลิว (Yehliu Geopark) ที่นักท่องเที่ยวชอบมาดูหินเศียรราชินีกัน เป็นเส้นทางที่ขนาบข้างด้วยวิวทะเล

สองเส้นทางนี้สามารถเดินได้สั้นๆ เดินไปชมวิวไป แวะพักข้างทางบ้าง เจอเพื่อนร่วมทางอยู่ตลอด ใช้เวลาไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง

Lujiaokeng

อีกที่เป็นเส้นทางทรหดของเขตอนุรักษ์ลู่เจี่ยวเคิง (Lujiaokeng) ตั้งอยู่บนหยางหมิงซาน เส้นทางนี้ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เมื่อไปถึงแล้วเจ้าหน้าที่จะคอยกำชับเรื่องความปลอดภัยและข้อควรระวังต่างๆ ตามปกติเส้นทางนี้จะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่วันที่เราไปมีทั้งฝนตกและหมอกลงเลยจะปิดไวขึ้น จากปกติปิด 4 โมงเย็น ก็เปลี่ยนเป็นปิดตั้งแต่บ่ายโมงครึ่งแทน เราไปถึงตอน 11 โมงเช้าเลยมีเวลาให้สำรวจเส้นทางได้แค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ที่บอกว่าเส้นทางทรหดก็เพราะบางจุดต้องลุยน้ำที่ไหลเชี่ยว บางจุดต้องปีนคันดิน ปีนผาหิน โดยที่ไม่มีเส้นทางทำไว้ให้เหมือนกับที่อื่นๆ เป็นแค่เส้นทางตามธรรมชาติเท่านั้น สำหรับสายปีนเขาอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับเราที่ทั้งชีวิตอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำอย่างกรุงเทพฯ การปีนป่ายที่ไกลที่สุดคือการเดินขึ้นอาคารเรียน 7 ชั้นสมัยมัธยม ปีนผาเล็กๆ บ้างเวลาไปเที่ยวน้ำตก เส้นทางชมธรรมชาติในไทเปเส้นทางนี้เปิดโลกเรามากทีเดียว แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าเพราะระดับความยากที่มากขึ้นแปรผกผันกับจำนวนนักท่องเที่ยว ธรรมชาติของที่นี่จึงสมบูรณ์อย่างที่เราไม่เคยเห็นที่ไหน

Ying He Cave Hiking Trail

Ying He Cave Hiking Trail

พอได้มาเขียนเกี่ยวกับเรื่องปีนเขา เราเลยได้ลองนึกย้อนดูว่าจริงๆ แล้วตั้งแต่มาอยู่ไต้หวันก็ปีนเขาเยอะมากเหมือนกัน เท่าที่จำได้ก็มี เซี่ยงซาน (Xiangshan) ชีซิงซาน (Qixingshan) น้ำตกจ้วนซี (Juansi Falls Trail) ถ้ำอิ๋นเหอ (Ying He Cave Hiking Trail) น้ำตกไป๋หยาง (Baiyang Waterfall Trail) ซาข่าตั้ง (Shakadang Trail) ชีโต้วซาน (Qidoushan) รวมกับข้างบนที่เพิ่งไปในปี 2020 นี้และที่จำไม่ได้อีก อีกอย่างคือสมัยอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย หอของเราตั้งอยู่ระหว่างทางของเส้นทางปีนเขาไปยังเมาคงเหมือนกัน วันไหนนึกครึ้มออกไปเดินเล่นตามทางก็นั่นล่ะคือทางปีนเขา เท่านี้ก็เยอะกว่าที่คิดว่าตัวเองจะไปในรอบ 2 ปีนี้แล้ว

แรกๆ ก็ไปเพราะไม่รู้ เพราะเสียไม่ได้ แค่เดินสัก 30 นาทีก็ไม่เข้าใจแล้วว่าจะเดินไปทำไมนะ แต่พอบ่อยเข้าก็กลายเป็นติดใจเฉย พักจากวิวเมืองไปชมธรรมชาติบ้างก็รู้สึกสงบดี ที่สำคัญคือถึงเส้นทางที่เราเดินส่วนใหญ่จะไม่ไกลและไม่ยากมาก แต่ทุกครั้งหลังปีนเขาเสร็จจะนั่งกินข้าวอยู่ข้างบนนั้นเลย หรือกลับลงมากินข้าวด้านล่างทีไรมันก็อร่อยเป็นพิเศษทุกที

ทางเดินเขาในมหาวิทยาลัย

Qidoushan

Qidoushan

สำหรับคนที่เริ่มสนใจอยากลองปีนเขาในไต้หวันบ้างแล้ว เราขอแนะนำ 3 เส้นทางที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก แต่คุ้มค่าแก่การลองไปใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมออกกำลังขาแน่นอน

เจียนถานซาน

เขาลูกเล็กๆ อยู่ติดใจกลางเมืองและเห็นวิวไทเป 101 เหมือนเขาช้าง แต่เป็นวิวที่ไกลกว่าจากทิศเหนือของไทเป มีจุดที่เห็นวิวมุมกว้าง ที่สำคัญคือเดินทางไปได้โดย MRT สายสีแดง สถานีเจียนถาน และนักท่องเที่ยวน้อยกว่าเขาช้างหลายเท่า

น้ำตกไป๋หยาง (Baiyang Waterfall Trail)

อยู่ในอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ เมืองฮวาเหลียน ใช้เวลาไป-กลับประมาณ 2 ชั่วโมง ความพิเศษของเส้นทางนี้คือเราสามารถมองเห็นน้ำตกได้จากไกลๆ ระหว่างทาง และเมื่อถึงจุดหมายน้ำตกนั้นก็จะทะลุเข้าไปในถ้ำที่เปิดให้เราเข้าไปดูได้ จะให้ดีควรเตรียมรองเท้ากันน้ำและเสื้อกันฝนบางๆ ติดตัวไปด้วย

Baiyang Waterfall Trail

อู่เหลียวเจียน (Wuliaojian Trail)

แนะนำสำหรับสายแอดเวนเจอร์ ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและพกน้ำไปเยอะๆ เส้นทางนี้ทั้งแคบและชัน หลายจุดต้องไต่หน้าผา ปีนบันไดลิง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางทรหดที่มีชื่อเสียงและอยู่ไม่ไกลจากไทเป สามารถนั่ง MRT แล้วต่อรถเมล์ไปได้

AUTHOR

ILLUSTRATOR

Jen.two

เจินเจิน นักออกแบบกราฟิกเเละนักวาดภาพประกอบ