วันที่ผมรักเป็นอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรหรอก…แค่เห็นเธอมีความสุขเราก็ดีใจแล้ว”

คำพูดสวยหรูที่ผมเคยได้ยินได้ฟัง
แต่ไม่เคยเข้าใจความหมายของมันสักที
คนเราจะมีความสุขเพียงแค่เห็นคนอื่นมีความสุขได้อย่างไร? คนเราจะมีความสุขเมื่อเห็นคนที่เรารักมีความสุข
แต่ปราศจากการได้รับความรักตอบแทนได้อย่างไร?

ผมเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
ไม่ได้หน้าตาดี ไม่ได้เล่นกีฬาเก่ง ไม่ได้หัวดีโดดเด่นอะไร
ใช้ชีวิตอย่างนักเรียนมัธยมปลายทั่วไป เรียนบ้าง เล่นบ้าง แม้ชีวิตในรั้วโรงเรียนค่อนข้างจะเรียบง่าย ดูน่าเบื่อ
แต่ก็มีบางอย่างคอยทำให้ชีวิตเรียบง่ายนี้สนุกขึ้น เช่น เพื่อนๆ
กิจกรรมต่างๆ และแน่นอนว่าความรักก็เช่นกัน

ความรักเป็นสิ่งที่คนอย่างผมไม่เคยคิดว่าจะได้รับ โดยเฉพาะจากเธอคนที่ผมแอบเฝ้ามองมาตลอด
เธอเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ฉลาด เรียนเก่ง เข้ากับคนง่าย
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่หรือมันเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้ตัวอีกที ความสัมพันธ์แบบเพื่อนก็หายไปและแทนที่ด้วยความสัมพันธ์ใหม่ที่ผมนิยามว่า
‘แฟน’ แทน เธอเป็นผู้หญิงที่ดี
ความเอาใจใส่ของเธอเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตผมอีกที
ด้วยความที่เป็นคนขยัน เธอมักจะทำให้ผมต้องขยันตามอยู่เรื่อยๆ
เรียกได้ว่าเธอฉุดผมให้ดีขึ้นก็ว่าได้ ความสุขที่เกิดขึ้นมากเสียจนผมไม่เคยคิดถึงการสูญเสียเธอไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว
เส้นทางที่อะไรก็ดูสวยงามไปหมดทำให้ผมมองไม่เห็นอะไรอย่างอื่น
มันทำให้ผมไม่ได้เอะใจเลยว่าบนโลกกลมๆ ใบนี้ มันไม่มีอะไรที่คงอยู่ตลอดไป…

“พอแค่นี้เถอะนะ
เราเหนื่อยแล้ว”

คำพูดที่เปรียบเสมือนคมดาบได้แทงลึกลงไปในใจผม
ความสุขหายไปชั่วพริบตา
ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมากลายเป็นว่าผมไม่เคยเอะใจเลยว่าพฤติกรรมของผมทำให้เธอเหนื่อย
ความเอาแต่ใจของผมนำมาซึ่งการทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง
จิตใจที่เต็มไปด้วยความต้องการทำให้ดวงตามืดบอดลง ด้วยความต้องการที่จะมีความสุขนั้น
การรั้งเธอไว้จึงเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจเลี่ยง
แน่นอนว่าการได้อยู่ข้างเธอคือความสุขล้นที่ผมต้องการอย่างที่สุด
แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง จุดที่ผมได้เห็นน้ำตาของเธอ
ภาพของเธอที่กำลังก้มหน้าร้องไห้ท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนๆ
น้ำตาที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวอันน่าสมเพชของผม ทำให้ผมตาสว่างว่านี่ไม่ใช่ความรักแล้ว
มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดสวยหรูประโยคหนึ่งที่เคยได้ฟังมา

หากเธอไม่มีความสุขแล้ว
ผมจะกล้าเรียกตัวเองว่าผมรักเธอได้อย่างไรกัน?

หลังจากวันนั้น
น้ำตาหยดนั้นได้เปลี่ยนแปลงตัวผม สอนผมว่าคนเราอย่าได้มองหาแต่ความสุขของตนเอง ความสุขของคนที่เรารักต่างหากที่สำคัญ เธอได้ให้บทเรียนที่แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ล้ำค่ากับผม
ผมเรียนรู้ที่จะปล่อยอดีต อย่าไปยึดกับมันเหมือนที่เคยเป็น
ได้เรียนรู้ที่จะเลิกเห็นแก่ตัว
อย่าเห็นแก่ความสุขของตัวเองเหมือนที่เคยเป็น และที่สำคัญที่สุด
ผมได้เรียนรู้ที่จะรักใครสักคนอย่างถูกต้องที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

ต่อจากนี้ไป ผมไม่อยากทำให้ใครเสียใจกับนิสัยเก่าๆ ของผมเหมือนกับที่เคยทำกับคนที่ผมรัก มุมมองความรักและทัศนคติแบบใหม่เกิดขึ้นกับผม
แม้วันนี้เธอจะไม่ได้มีความสุขกับการที่ได้มีผมอีกต่อไป แต่มันก็ไม่สำคัญแล้ว

วันนี้ผมพร้อมแล้วที่จะพูดมันได้อย่างเต็มปาก

“ไม่เป็นไรหรอก..
แค่เห็นเธอมีความสุขเราก็ดีใจแล้ว”

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR