วันที่แม่บอกว่าไม่ว่าผมจะเป็นยังไงแม่ก็รัก

อาจเพราะวันเกิดอยู่ในช่วงปีใหม่ ทำให้ตั้งแต่เล็กจนโตผมได้เป่าเค้กกับที่บ้านเสมอ จำได้ว่าเพิ่งบอกเลิกแม่ไปตอนอายุยี่สิบ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ต้องการมันเพื่อยืนยันว่าวันนี้สำคัญอีกแล้ว

อาจเพราะรู้สึกว่าโตขึ้น แค่ได้ไปกินข้าวกันพร้อมหน้าก็คงพอ
ผมเลยจำของขวัญที่คนนั้นคนนี้ให้ไม่เคยได้
นอกจากของขวัญชิ้นนึงจากแม่ ซึ่งตอนนั้นน่าจะเรียนอยู่ปี 3

ปีใหม่ปีนั้นเป็นช่วงสอบและในคืนวันเกิดของตัวเอง ผมก็อยู่กรุงเทพฯ ด้วยความที่แม่ยุ่งๆ ทำให้ตอนกลางวันเราไม่ได้คุยกัน
แต่พอตกดึกแม่ก็โทรมาง้อที่ไม่ได้อวยพรวันเกิด และด้วยความที่กลัวว่าลูกจะงอน
แม่เลยถามผมว่า

“ ไหนๆ วันเกิดปีนี้อยากได้อะไร บอกแม่ซิ ”

จำได้ว่าผมเงียบไปครู่หนึ่ง แม่แซวว่า สงสัยจะอยากได้หลายอย่างเลยตอบไม่ถูก
ด้วยความปากไวผมจึงเอ่ยไปทั้งๆ ที่ตอนนั้นสมองไม่ทันได้คิด…

“ถ้าสมมติบิ๊กไม่ได้เป็นแบบที่แม่ชอบ แม่จะยังรักบิ๊กรึเปล่า ”

มันเป็นคำถามที่อยู่ในใจผมมานาน แล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้พูดออกมา
ตอนที่แม่เงียบไปนั้น ภาพในหัวของผมมันก็ไหลมาอย่างกับแฟลชแบ็คในหนัง

เด็กประถมที่หัวช้าแต่โคตรขยัน เด็กมัธยมที่บ้ากิจกรรม เป็นพิธีกร ทำละครเวที
แข่งวาดภาพ ปริญญาตรีก็คิดว่าต้องเข้ามหาวิทยาลัยดังและดี พอมหา’ลัยก็ตั้งใจว่าต้องจบด้วยเกียรตินิยม

สงสัยแม่เห็นผมเงียบไป เลยหัวเราะออกมาเพื่อให้เราสบายใจ แต่ผมก็ถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ ไม่ว่าลูกจะเป็นแบบไหน พ่อกับแม่ก็รักเสมอ
ตั้งแต่แม่มีบิ๊ก พ่อกับแม่ก็ไม่เคยเสียใจอะไรเลย ลูก…ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ”

คำนั้นของแม่ทำให้ผมต้องร้องไห้โฮออกมา ไม่เหมือนเด็กชั้นมหาวิทยาลัยที่คิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นผู้ใหญ่
มันเป็นน้ำตาของเด็กชายตัวเล็กๆ ที่พร้อมจะทิ้งตัวกับแม่ผู้ซึ่งกำลังยืนยันว่ารักเขา

หลายปีก่อนโน้นเหมือนตัวผมมีโซ่และถูกล็อกเอาไว้ มันหนักและทำให้หายใจได้ไม่สะดวก
แต่คืนนั้นแม่ได้ใช้กุญแจไขมันออกแล้ว

หลังจากคืนวันเกิดครบรอบอายุ 23 ผมคนเดิมก็ยังเป็นลูกรักของแม่
แต่แม่ได้มอบชีวิตใหม่ให้
ชีวิตในแบบที่ผมภูมิใจและยอมรับตัวเองได้

ผมเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมา ผมทำทุกอย่างมากมายขนาดนั้นเพื่ออะไร
เพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจใช่ไหม?
จริงๆ มันอาจไม่ใช่ทั้งหมด เพราะผมอาจทำเพื่อให้ ‘ผมรักและชื่นชมตัวเอง’

แม่ทำให้รู้ว่าถึงผมแตกต่าง ผมก็เป็นที่รัก และผมก็มีความรักในแบบที่ไม่ต้องเหมือนคนอื่นได้
ผมไม่เคยอยากได้ของขวัญวันเกิดอีก เพราะปีนั้นแม่ได้ให้สิ่งที่มีค่าที่สุดกับผมแล้ว

ขอบคุณกุญแจดอกสำคัญที่ได้ปลดล็อกชีวิตนี้ อย่างน้อยในวันที่ผมไม่เก่งอะไร
วันที่ผมอาจจะไม่ชนะใครอีกแล้ว

ผมก็รู้ว่า…แม่ยังรักผมเหมือนเดิม

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR