‘Pregnancy Test’ AFTER SEX CONVERSATION ของเพณิญ

หากใครเคยอ่าน a day ฉบับ sex is more หรือติดตามหนังสือของ P.S. Publishing สำนักพิมพ์ที่สะท้อนเสียงของผู้หญิงรุ่นใหม่ที่อยากนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์และเซ็กซ์แบบเรียลๆ คงคุ้นหน้าคุ้นตา จุ๋ม–ปนิธิตา เกียรติ์สุพิมล บรรณาธิการสำนักพิมพ์ที่พ่วงตำแหน่งนักเขียนเจ้าของนามปากกา เพณิญ เป็นอย่างดี

หากไล่ดูหนังสือของเพณิญ ไม่ว่าจะเรื่องราวใน Ultramarine ทะเลมีสะอื้นเล็กน้อยถึงปานกลาง,  Cobalt Blue และเรื่องสั้นอื่นๆ, Summer พายุ ฤดู ร้าย และ ทำลาย, เธอกล่าว หลายคนอาจมองว่าเพณิญคือหญิงสาวเกรี้ยวกราดที่พร้อมฟาดคนที่เข้ามาทำร้ายเธอทั้งทางวาจาและร่างกาย เป็นหญิงสาวคลั่งรักที่พร่ำก่นด่าความรักอยู่ร่ำไป และเป็นหญิงสาวผู้เฝ้าหาตัวตนและความหมายของชีวิตในทุกๆ ความสัมพันธ์ 

แต่คงไม่ใช่กับ Pregnancy Test นิยายแชตขนาดสั้นในโปรเจกต์ AFTER SEX CONVERSATION ที่ a day ชวนเธอมาเล่าบทสนทนาระหว่างแก๊งเพื่อนสาว 5 คนที่มีคาแร็กเตอร์และเรื่องน่ากลุ้มใจแตกต่างกัน ประกอบด้วยหญิงสาวผู้อยากอยู่คนเดียว หญิงสาวที่อ่อนโยนขึ้นเพราะความเป็นแม่ คนบ้างานที่ไม่ปฏิเสธการมีลูกแต่ดันท้องขึ้นมาง่ายๆ กระทั่งคนที่พยายามแทบตายลูกก็ไม่มาเสียที 

เหตุใดเพณิญผู้แข็งกร้าวคนนั้นถึงเล่าเรื่องธรรมดาสามัญของกลุ่มเพื่อนหญิงโดยไร้สำเนียงฟาดงวงฟาดงาที่เธอถนัด เพณิญแล้วการเขียนบทสนทนาของกลุ่มเพื่อนในรูปแบบแชตครั้งแรกของเธอนั้นยาก-ง่ายขนาดไหน 

บทสนทนาระหว่างเราและอดีตสาวเกรี้ยวกราดด้านล่างนี้มีคำตอบ

คำแนะนำในการอ่าน

  1. ถ้าอ่านผ่านโทรศัพท์มือถือ แนะนำให้อ่านในแอพพลิเคชั่น readAwrite
  2. เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี
  3. อ่านเรื่องสั้นก่อนอ่านบทสัมภาษณ์ จะได้อรรถรสมากขึ้นนะ

คุณเคยอ่านนิยายแชตมาก่อนไหม

อ่านบ้างเพราะเราอยากรู้ว่านิยายแชตคืออะไร เขียนยังไง ตอนเริ่มอ่านก็คิดว่ามันสนุกดีนะ เหมือนเราได้แอบอ่านแชตของคนอื่น ได้เป็นนักสืบปะติดปะต่อเรื่องราวที่นักเขียนหย่อนไว้ให้คิดต่อ แต่อ่านๆ ไปก็มีคำถามกับนิยายแชตบางเรื่องเหมือนกันว่าประเด็นนั้นเอามาเล่าในรูปแบบนิยายแชตได้จริงไหม เพราะบางสถานการณ์ในเรื่องอาจจะเหมาะกับการพูดคุยต่อหน้ามากกว่าคุยในแชต

คุณมีไอเดียอะไรในใจบ้างกว่าจะได้ไอเดียเรื่อง Pregnancy Test 

ตอนที่ได้รับโจทย์ AFTER SEX CONVERSATION เราพยายามคิดว่านักเขียนคนอื่นในโปรเจกต์เดียวกันน่าจะเขียนงานแนวไหน เพราะเราอยากให้งานหลากหลาย ไม่ซ้ำกัน ตอนแรกเราเขียนเรื่องแซ่บกว่านี้คือเป็นเรื่องของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่รักกันมาก เป็นคู่ชีวิตที่เกื้อหนุนกัน แต่คนหนึ่งไม่พร้อมที่จะมีเซ็กซ์เลยยินยอมให้อีกคนไปมีเซ็กซ์กับคนอื่นอย่างเต็มใจ เพราะเรามองถึงปัญหาที่สังคมคาดหวังว่าผู้ชายต้องเก๋าในเรื่องเซ็กซ์ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องไปด้วยกัน แต่เขียนยังไงก็เขียนไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกว่าบางประเด็นมันไม่ควรจะคุยในแชตเลยล้มเลิกไป

แล้วทำไมอยู่ๆ เพณิญถึงหันมาเขียนเรื่องธรรมดาสามัญในกลุ่มเพื่อนอย่าง Pregnancy Test

ด้วยวัยและประสบการณ์ที่เปลี่ยนไป เราพบว่าตัวเองนิ่งขึ้น โกรธน้อยลง ที่ผ่านมาเราเขียนงานฟาดๆ เหวี่ยงๆ เพราะเราอยู่ในภาวะโกรธกับบางสิ่งแต่ลงที่ใครไม่ได้ก็ต้องลงที่การเขียน บวกกับก่อนหน้านี้เราพยายามถามหาความสำคัญของตัวเองในความสัมพันธ์ แต่ความสัมพันธ์ปัจจุบันของเราไม่ได้ทำให้เราสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเหมือนเมื่อก่อน เลยเริ่มหันมามองเรื่องความก้าวหน้าในชีวิตการทำงานมากขึ้น สนใจว่าในอีก 5 ปีเราจะเป็นยังไง และคิดว่าไม่น่าจะกลับไปเขียนงานเหวี่ยงๆ ขนาดนั้นได้อีก

พอคิดแบบนี้เราเลยหันกลับมามองบทสนทนาในกลุ่มเพื่อนทั้งหมด 11 คนของเราที่จะคุยเรื่องปัญหาผู้หญิงกันเสมอๆ ตอนสาวๆ เราจะคุยเรื่องอกหัก ทำยังไงให้ได้คนนั้น หรือไปปาร์ตี้ มีเซ็กซ์แล้วเมนส์ไม่มา แต่ช่วงนี้เราไม่ค่อยมองความสัมพันธ์และการมีเซ็กซ์เพื่อความบันเทิงเท่าเดิม แต่มองในเชิงฟังก์ชั่นคือมีเซ็กซ์เพื่อมีลูก เรากับเพื่อนเริ่มคุยกันเรื่องค่าเทอม ค่าคาร์ซีต ค่ารถเข็น จนมาเรื่องเพื่อนที่อยากท้องแต่ไม่ท้องสักทีทั้งๆ ที่ทำทุกวิธีตั้งแต่ไปหาหมอจีน ดูดวง กินยาบำรุง ยกขาหลังมีเซ็กซ์ นับวันไข่ตก จึงเป็นที่มาว่าแล้ว after sex ของคนที่พยายามมีลูกเป็นยังไง ทำไมคนที่พร้อมถึงไม่ท้อง หรือทำไมอัตราการเกิดน้อยลง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาที่เกิดแค่ในประเทศไทยแต่เป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก

จากเรื่องจริงในแชตแก๊งเพื่อนนำมาสู่การสร้างพล็อตในเรื่องยังไงบ้าง 

เราเริ่มจากมองว่านิยายแชตมันต้องมีเวลากำกับจึงนำไปเชื่อมกับเวลาในการมีเซ็กซ์และเวลาการตรวจครรภ์ที่มันสัมพันธ์กัน เช่น เราควรจะตรวจครรภ์ตอนเช้าเพราะเป็นช่วงที่ปัสสาวะเข้มข้นที่สุด หรือมีเซ็กซ์ล่าสุดวันไหน กี่โมง เลยเปิดเรื่องด้วยการให้ตัวละครที่อยากมีลูกที่กำลังยกขาหลังมีเซ็กซ์ตามความเชื่อว่าจะช่วยให้มีลูกง่ายขึ้นเป็นคนทักมาในแชต โดยมีเพื่อนที่เพิ่งกล่อมลูกเสร็จมาตอบขณะที่เพื่อนคนอื่นหลับไปแล้ว 

ด้วยความเป็นนิยายแชตที่ต้องทำให้คนติดตามตลอดเรื่อง จึงไม่จำเป็นต้องมีจุดพีคจุดเดียวเหมือนงานเขียนในขนบแต่มันควรหยอดไปเรื่อยๆ ในเรื่องจึงมีจุดพีคหลายจุด ทั้งเรื่องวิธีการทำให้ท้องบ้าง การป้องกันไม่ให้แท้งบ้าง การบอกผลตั้งครรภ์บ้าง 

พอลองเขียนจริงๆ คิดว่าความยากของนิยายแชตคืออะไร 

ทำยังไงให้บทสนทนานั้นเหมือนคนคุยกันจริงๆ และคุยกันได้อย่างผ่อนคลาย ไม่ซีเรียสเกินไป เพราะจริงๆ ประเด็นนี้มันซีเรียสในหมู่คนที่เขาอยากมีลูก และทำยังไงให้ตัวละครมีบุคลิกชัดเจนผ่านคำพูดที่ใช้เพราะเราไม่สามารถอธิบายบุคลิกลักษณะเขาเหมือนงานเขียนในขนบได้ อาจต้องจดไว้ว่าคนที่มีลักษณะแบบนี้จะชอบพูดแบบไหนเพื่อให้คนอ่านไม่ต้องเลื่อนไปดูว่าคนนี้คือใคร แต่มันไม่ได้ยากมากเพราะเราชอบแชตอยู่แล้ว พอคิดพล็อต หาข้อมูลเรียบร้อยก็เขียนเลย แล้วก็เริ่มสนุกกับการเขียนนิยายแชต  

จากที่ฟังมา สงสัยว่าคุณต้องรีเสิร์ชข้อมูลเยอะแค่ไหนถึงจะเริ่มเขียนจริงจังได้

หลักๆ เรารีเสิร์ชจากเพื่อนในกลุ่มนี่แหละ อย่างเพื่อนคนหนึ่งของเราเคยทำงานในคลินิกผู้มีบุตรยากมาก่อนก็จะมีข้อมูลว่าคนเป็นแม่ต้องห้ามอยู่ใกล้ความร้อนช่วงตั้งท้องแรกๆ เพราะตัวอ่อนจะเซนซิทีฟมาก หรือควรจะปั๊มลูกช่วงไข่ตกอย่างน้อย 3 วันและมากสุด 4 วันเพื่อเพิ่มโอกาสให้อสุจิและไข่ได้ผสมกัน ซึ่งมันเหนื่อยนะการมีเซ็กซ์เพื่อหวังผลเนี่ย กระทั่งเรื่องการกินโฟลิก เราก็รู้มาว่ามันจะช่วยเรื่องพัฒนาการของเด็กในช่วง 3 เดือนแรก แต่ไม่ใช่ว่าท้องแล้วค่อยกินแต่ต้องกินสะสมไว้ เห็นได้ว่าตัวละครที่อยากมีลูกมากๆ ก็บอกว่ากินหลายเดือนแล้วยังไม่เห็นจะมีเลย

นอกจากนั้นก็รีเสิร์ชจากอินเทอร์เน็ตด้วย อย่างเรื่องการยกขาหลังเสร็จกิจก็ไปเจอมาในเพจคลินิกผู้มีบุตรยากหลายเพจ ซึ่งมันไม่ได้มีงานวิจัยรับรองว่าได้ผล แต่แม่ๆ ก็มาคอนเฟิร์มว่าคุณหมอแนะนำวิธีนี้และตอนนี้มีลูกแล้ว และอาการเหมือนคนท้องของตัวละครที่มีลูกยากก็มาจากที่เราไปเจอว่ามันคือภาวะท้องหลอกที่ผู้หญิงเครียดมากจนร่างกายหลั่งฮอร์โมนไปกระตุ้นให้มีอาการเหมือนคนท้อง 

การพยายามมีลูกมันไม่ควรเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอย่างเดียวแล้วใช่ไหม

มีคนบอกว่าการเป็นผู้หญิงถูกลิดรอนสิทธิไปมากแล้ว แต่การเป็นผู้หญิงที่เป็นแม่มันถูกลิดรอนสิทธิไปมากกว่า ด้วยความเชื่อว่าที่ไม่มีลูกสักทีมันเป็นเพราะผู้หญิงบกพร่อง ทั้งที่บางครั้งภาวะมีบุตรยากก็อาจมาจากสเปิร์มที่ไม่แข็งแรงจากการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้หญิงอย่างเดียวที่จะต้องนับวันไข่ตก กินอาหารบำรุงตัวเอง ฉีดยาที่หน้าท้องกระตุ้นไข่ แล้วสะกิดให้ผู้ชายมาทำเหมือนตัวละครในเรื่อง แต่มันควรเป็นกระบวนการที่คนสองคนช่วยกัน

นอกจากประเด็นทางเลือกของชีวิตและหน้าที่การเลี้ยงลูกที่สัมพันธ์กับเพศ เรื่องนี้ยังพูดถึงค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูกบ่อยมาก คุณคิดว่าการมีลูกสัมพันธ์กับเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองไหม

การมีลูกในประเทศเราต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าคลอดลุก ค่าเทอม ค่าบ้าน ค่ารถ ไหนจะเรื่องวันลาของแม่หลังคลอดที่ลาได้แค่ 3 เดือน แล้วเดือนที่ 4 เด็กจะไปอยู่ไหน โฮมแคร์ดีๆ ก็ไม่มี คือคุณต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเพื่อสร้างคนที่พร้อมจะเป็นประชากรที่มีคุณภาพ หรือกระทั่งถ้าคุณทำงานแถวสีลมแต่บ้านอยู่บางบัวทอง กว่าจะถึงบ้านก็สี่ทุ่ม หมดอารมณ์ ทำให้กว่าจะพร้อมจริงๆ ร่างกายก็เลยวัยเจริญพันธุ์ไปแล้ว ดังนั้นการมีลูกกับการเมืองมันจึงสัมพันธ์กันทั้งหมดจนเริ่มกลายเป็นประเด็นสำคัญในการคบหากับใครด้วยซ้ำ เพราะไม่อย่างนั้นมันอาจเป็นปัญหาชีวิตคู่ได้ 

จากบทสนทนาในกลุ่มเพื่อนที่พบเจอจนเป็นนิยายแชตเรื่องนี้ คุณคาดหวังให้คนอ่านได้อะไร

เราว่าสังคมกดดันผู้หญิงค่อนข้างหนักจากการที่เรามีมดลูก หลายคนรู้สึกว่าการมีมดลูกมันเป็นภาระตั้งแต่เรื่องปวดท้องเมนส์แล้วลาไม่ได้ ต้องเสียค่าผ้าอนามัยอีก แถมยังถูกคาดหวังว่าจะต้องเป็นแม่คน สังเกตว่าผู้หญิงจะถูกถามตลอดตั้งแต่ตอนเรียนว่ามีแฟนหรือเปล่า เมื่อไหร่จะแต่งงาน พอแต่งงานก็ถูกถามว่าเมื่อไหร่จะมีลูก ทั้งที่การเป็นแม่มันควรเป็นแค่ทางเลือกหนึ่งของชีวิต ผู้หญิงทุกคนไม่ควรถูกตีตราจากสังคมด้วยเรื่องนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราสร้างตัวละครหลากหลายเพราะเราอยากให้คนอ่านเข้าใจว่าคุณจะเลือกเป็นใครก็ได้

ความใฝ่ฝันสูงสุดของผู้หญิงสมัยนี้คือการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การมีเงินเก็บ การได้ไปท่องเที่ยว การได้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ซึ่งสำคัญกว่าความใฝ่ฝันที่จะเป็นแม่บ้านและมีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนรุ่นแม่ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นแม่หรือไม่ได้เป็นคุณก็ภูมิใจในตัวเองได้ และสามารถส่งต่อคุณค่าเหล่านี้ให้เพื่อนในกลุ่มได้ 

อีกอย่างคือจริงๆ แล้วผู้ชายที่รักงานบ้าน ทำอาหาร และอยากเลี้ยงเด็กมันก็มีอยู่นะ สังคมยุคใหม่ไม่ได้ผูกติดหน้าที่กับเพศอีกต่อไปแล้ว แต่มันขึ้นอยู่กับว่าใครพอใจที่ตรงไหน ทั้งหมดนี้มันเป็นการตกลงระหว่างคู่ว่าเราอยากทำแบบนี้ เธออยากทำแบบไหน 

สุดท้าย คุณคิดว่าตัวเองเป็นตัวละครตัวไหนใน Pregnancy Test 

เมื่อก่อนเราอาจเป็นคนที่จะเลือกใส่ชุดไหนไปหาผู้ชายดี หลังๆ ก็อาจเป็นตัวละครที่ไม่ได้อยากมีลูก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ แต่พอเห็นว่าเพื่อนมีลูกยากเลยเริ่มถามตัวเองว่าอยากมีลูกหรือเปล่า หลังจากเราแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว (2563) ก็เริ่มปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าผ่านไป 6 เดือนแล้วไม่มีลูกก็คงเหมือนตัวละครที่มีภาวะมีบุตรยากแต่คงไม่ได้เครียดขนาดเขา เพราะเราไม่ได้ซีเรียสว่าจะมีหรือไม่มี ถ้าไม่มี เราเลี้ยงหลานก็ได้ แต่ถ้ามีขึ้นมาก็อาจเป็นตัวละครที่มีลูกไปแล้วซึ่งก็น่าสนใจว่าอะไรทำให้คนคนหนึ่งที่เคยแซ่บๆ ไปปาร์ตี้กลายเป็นคนที่ใส่ใจกับการดูแลลูกจนให้ข้อมูลเรื่องการมีลูกกับเพื่อนได้

เมื่อเราโตขึ้นและผ่านช่วงเวลาต่างๆ เราอาจเป็นตัวละครได้ทุกตัวในเรื่องนี้

AUTHOR