วันที่ฉันได้พบกับความรัก

รักแท้คงมีอยู่จริงๆ
แต่คงไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก

ฉันบอกตัวเองไว้แบบนั้น
ที่จริงการอยู่คนเดียวก็สบายดี ถึงแม้จะมีเหงาบ้าง แต่เราควบคุมทุกอย่างในชีวิตเองได้
ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องห่วงใครให้ยุ่งยาก เรายังอยากทำอะไรอีกตั้งมากมาย อย่าเอาความรัก (ที่มักจะ) งี่เง่ามาขวางทางเลย ถึงจะโสดมาแล้ว 5 – 6 ปี ก็ช่างมันเถอะ

ถ้าถามว่าอยากเจอคนแบบไหน
ขอแค่เพียงเป็นคนอบอุ่น ใจดี และใจเย็นก็พอ ฉันอยากได้คนรักเป็นคนแบบนั้น

แต่คนที่รักเราจริงๆ
มีอยู่จริงเหรอ? คนที่ยอมรับในตัวเราได้ และเราก็ยอมรับตัวตนของเขาได้… ไม่น่าเป็นไปได้

ถึงแม้จะฝันถึงงานแต่งงานแสนโรแมนติกและครอบครัวที่แสนอบอุ่นมาเสมอ
แต่เมื่อหันหน้ามามองโลกความเป็นจริงและสิ่งที่ได้รับรู้มาแล้ว
ขอกรอกตาพร้อมกับถอนหายใจยาวๆ หนึ่งที อยู่คนเดียวกับเพื่อนฝูงมันก็ดูลงตัวสำหรับฉันนะ ถ้าไม่เจอคนที่ใช่จริงๆ ฉันจะไม่มีทางเอาตัวเองไปผูกไว้กับใครเด็ดขาด

จนถึงวันนั้น
วันที่ฉันกลับมาจากค่ายอาสา การเป็นประธานค่ายเหนื่อยแบบนี้นี่เอง
แล้วเทอมนั้นก็เรียนยากมากด้วย ถือเป็นเทอมที่หนักจริงๆ
สำหรับเด็กหัวอ่อนเลขแต่ต้องมาเรียนบัญชีอย่างฉัน

“ฮัลโหลๆๆ ทำไรอยู่แกกก”

“ช่วงนี้ยังว่างอยู่ป่าวววว”

“หัวใจน่ะว่างมั้ยยย
จิ๊บๆๆๆ”

เสียงไลน์กรุ๊ปของฉันกับเพื่อน
3
คนเด้งขึ้นมารัวๆ จับใจความได้แบบนั้น

ฉันปรายตาไปมองแล้วกลับมาที่รีพอร์ตที่ต้องรีบปั่นให้เสร็จหลังกลับจากค่าย
คิดว่ารู้อยู่แล้วนะ คงจะหาคนคุยมาให้นั่นแหละ (เคยถามหาไปเมื่อ 2 – 3 เดือนที่แล้ว
ฮ่าๆ)

ฉันนั่งพิมพ์งานที่ค้างสักพักแล้วกดเข้าไปคุย
ก็เป็นอย่างที่คิด มีเพื่อนผู้ชายคนนึงเขาชอบเรา เป็นคนดี
เราน่าจะชอบ อยากให้ลองคุยดู เราก็รับปากไป แต่จริงๆ ตอนนั้นเหนื่อยมาก
ความสนใจเรื่องความรักเป็นศูนย์ เห็นว่าเขาเรียนอยู่ต่างประเทศ
ตอนนี้ปิดเทอมเลยกลับไทย แต่อีก 10 วันก็กลับไปแล้ว คิดว่าคงคุยกันได้แค่ 10 วันนั้นแหละ
เอาสิ ลองดู

คุณคิดว่าการคุยกับคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของโลกเป็นยังไง
การทำความรู้จักกับคนที่เวลาเดินช้ากว่าเรา 6 ชั่วโมง
การติดต่อกันผ่านทางไลน์อย่างเดียว การที่คุณคุยกับเขาทุกวัน
แม้ว่าเค้าจะตื่นตอน 6 โมงเย็นที่ไทย และเราเข้านอนตอนโมงเย็นของอังกฤษ

น่าแปลกที่แม้วิถีชีวิตแทบไม่เหมือนกันเลย
แต่เรามีเรื่องคุยได้ตลอด ฉันเคยคุยกับคนมาบ้างและรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่เราคุยด้วยแล้วจะรู้สึกดี ฉันเป็นคนขี้หงุดหงิด และมันมักจะเกิดขึ้นเสมอเวลาพยายามทำความรู้จักกับคนที่เข้ามาจีบ
ฉันมักจะรู้สึกว่าเขาน่ารำคาญและน่าเบื่อ

มาถึงตอนนี้ เวลา
1 ปีที่ต้องห่างกันได้จบสิ้นลง การคบกันที่การได้อยู่ด้วยกันนั้นน้อยกว่าการอยู่ห่างกัน
ความสัมพันธ์ที่สื่อสารผ่านตัวอักษรและวิดีโอคอลเท่านั้น ถ้าเขาไม่ใช่
แล้วฉันรอทำไม ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร มันรู้สึกดีแต่ก็ทุกข์บ้างในบางที

เขาบอกฉันว่า… มันคือความรัก

ฉันพยายามทำความเข้าใจมันอย่างช้าๆ
ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ฉันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด
ให้คุ้มค่ากับความรักที่ฉันได้พบ

ความรักก็เหมือนผีเสื้อ
ยิ่งไล่ตามก็ยิ่งบินหนี แต่ถ้าเราปล่อยไป ไม่ทันตั้งตัวมันก็จะโผเข้ามา

และความรักก็เป็นสิ่งที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว… ไม่มีใครต้านทานได้

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR