‘เคลียร์ทุกความกังวล’ โฆษณาที่จะพาเราไปสำรวจเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้ง่ายของ เจ–ชนาธิป สรงกระสินธ์

‘เคลียร์ทุกความกังวล’ โฆษณาที่จะพาเราไปสำรวจเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้ง่ายของ เจ–ชนาธิป สรงกระสินธ์

Highlights

  • แมสซี่เจหรือชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทยและกองกลาง Consadole Sapporo ซึ่ง J.League ฤดูกาล 2018/19 ที่ผ่านมาเขาได้รับเลือกเป็น 1 ใน 11 นักเตะยอดเยี่ยม
  • นอกจากความรักและแพสชั่นในฟุตบอลแล้ว แรงผลักดันหรือปัจจัยอะไรที่พาให้เขามาถึงวันนี้ โฆษณาเคลียร์ด้านล่างนี้ ชวนคุณไปหาคำตอบ

ต่อให้ไม่ใช่คอกีฬา แต่เชื่อว่านาทีนี้ย่อมไม่มีใครไม่รู้จัก เจ–ชนาธิป สรงกระสินธ์

ไม่ว่าจะในฐานะผู้เล่นตัวหลักของทีมชาติไทย หรือกองกลางตัวอันตรายแห่ง Consadole Sapporo ด้วยสุดยอดทักษะที่หาตัวจับได้ยากนี้ ไม่เฉพาะแต่คนไทย หากกองเชียร์ญี่ปุ่นเองก็ยังให้การยอมรับในลวดลายของเขา

ในวันที่ใครๆ ต่างก็ยกให้ชนาธิปเป็นนัมเบอร์วัน แต่กว่าที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นสุดยอดนักเตะอย่างทุกวันนี้ ชีวิตของเขาเองก็ต้องพบเจออุปสรรคที่จำเป็นต้องข้ามผ่าน แต่อะไรกันบ้างคือขวากหนามเหล่านั้น?

โฆษณาชิ้นล่าสุด CLEAR จะพาเราย้อนกลับไปสำรวจเส้นทางการเติบโตของซูเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนังไทยที่ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด

ด้วยมีพ่อที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอล ชนาธิปเริ่มต้นซ้อมบอลตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ในขวบวัยที่เด็กคนอื่นๆ อาจยังสนุกกับการวิ่งเล่นไล่จับ หากทุกๆ วันของชนาธิปคือการฝึกฝนทักษะกับลูกฟุตบอลซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น โดยมีพ่อผู้เอาจริงเอาจังเป็นดั่งโค้ชคนแรกในชีวิต

แม้ว่าใจหนึ่งจะสนุกกับการเลี้ยงเตะลูกกลมๆ แต่เด็กชายชนาธิปเองก็สับสน เพราะไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องฝึกซ้อมเรื่อยๆ อย่างนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน แต่เพราะอนาคตยังห่างไกลและยากเกินจะมองเห็น สิ่งที่ชนาธิปทำได้จึงมีเพียงการตื่นเช้าขึ้นมาฝึกฝนกับพ่อของเขาซ้ำๆ เป็นประจำทุกวันในฐานะกิจวัตรสำคัญของชีวิต

แต่เมื่อฟุตบอลคือกีฬาที่เล่นกันเป็นทีม ก็ย่อมจะถึงวันที่การฝึกซ้อมกับพ่อเพียง 2 คนย่อมไม่พออีกต่อไป ชนาธิปจึงได้เริ่มต้นฝึกซ้อมฟุตบอลร่วมกับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ทว่าด้วยร่างกายที่เล็กกว่าใครเพื่อน ไม่เพียงแต่เขาจะต้องกัดฟันพยายามขึ้นหลายเท่าตัวเท่านั้น หากยังต้องทนฟังคำดูถูกเหยียดหยามที่มีแต่จะบั่นทอนกำลังใจอยู่เรื่อยๆ

วันไหนทีมแพ้ ชนาธิปคือเบอร์หนึ่งที่จะตกเป็นขี้ปาก วันไหนทีมเล่นไม่ดี ชนาธิปคือตัวหลักที่จะโดนถากถาง

แม้กระทั่งทุกวันนี้ที่เขาจะพิสูจน์ตัวเองแล้วว่า ความสามารถด้านฟุตบอลไม่ได้เป็นสองรองใคร ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าคำดูถูกเหยียดหยามจะหายไป หากกลับยังปรากฏให้เห็นเป็นช่วงๆ บนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาดร่างกาย หรือการที่เขาเป็นนักกีฬาไทยที่ไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศ

บ่อยครั้งในชีวิต คำดูถูกก็เป็นดั่งกับดักที่กักขังเราให้จมปลักอยู่กับที่ บ่อยครั้งในชีวิต คำเหยียดหยามก็ทำให้สงสัยต่อตัวเองเต็มทีว่า เราจะทำได้จริงเหรอ?

เขาไม่ปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นมาทำร้าย แต่เปลี่ยนมันให้เป็นความแข็งแกร่งและแรงผลักดัน ทลายทุกความกังวลและมุ่งทำประตูอย่างไม่ลดละ คำดูถูกทำอะไรเขาไม่ได้ และแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้สูงเหมือนนักฟุตบอลคนอื่นๆ ทว่าก็ไม่มีใครตั้งคำถามกับความสามารถของชนาธิปอีกต่อไป

ปัจจุบันไม่เพียงแต่ชนาธิปจะกลายเป็นนักเตะไทยตัวท็อป หากเขายังได้รับการยอมรับในประเทศญี่ปุ่นถึงขนาดติด 1 ใน 11 นักเตะยอดเยี่ยม J.League ฤดูกาล 2018/19 ที่ผ่านมา

เพราะไม่เคยหยุดฝึกซ้อมและไม่เคยปล่อยให้คำดูถูกมาสร้างความกังวล เส้นทางชีวิตของเจ ชนาธิป คือตัวอย่างที่ชัดเจน ที่ CLEAR อยากสนับสนุนให้ทุกคนก้าวข้ามความท้าทายและทลายทุกความกังวลของตัวเอง
ไม่จำเป็นว่าเราต้องหลงใหลในฟุตบอลหรือเป็นนักกีฬาทีมชาติเหมือนเจ แต่ชีวิตของเราทุกคนต่างก็มีกำแพงและอุปสรรคที่ต่างกันไป ก็อย่างที่ประโยคสุดท้ายซึ่งเจกล่าวไว้
“จะหยุด หรือจะก้าวต่อ มันอยู่ที่เราเท่านั้น”

AUTHOR