ตามรอยเส้นทางกาแฟที่ไร่บรูฮู Bruju Finca ในแหล่งปลูกกาแฟที่สำคัญที่สุดของเม็กซิโก

Nothing is as important as passion. No matter what you want to do with your life, be passionate.

Jon Bon Jovi

แต่ละคนมีความชื่นชอบหลงใหลแตกต่างกัน เมื่อออกเดินทาง ก็มักจะตามรอยหรือตามหาสิ่งที่ตนเองสนใจเหล่านั้น

ครั้งหนึ่งขณะกำลังเริ่มปีนภูเขาคินาบาลู (Kinabalu Mountain) แห่งประเทศมาเลเซีย (Malaysia) อันเลื่องชื่อว่าสวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมพบนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มหนึ่ง พวกเขาเป็นนักดูนก และไม่ได้สนใจปีนป่ายให้ถึงยอด ต่างพากันแบกกล้องเลนส์ยาวคนละตัวสองตัว สนุกสนานกับการได้เห็นนกชนิดใหม่ๆ เดินกันแค่บริเวณเชิงเขา ไม่กระตือรือร้นอยากพิชิตยอดเขาเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปแต่อย่างใด

น้องอีกคนหนึ่งที่รู้จักกันสนใจพืชผักผลไม้ทางทวีปอเมริกากลางและใต้มาก ถึงกับบอกว่าหากมีโอกาสได้ไปเยือนต้องสำรวจสิ่งเหล่านั้นให้ได้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการอยากไปเยือนดินแดนแถบนี้ ติ่งเกาหลีมักไปตามดูสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ที่ตนเองชื่นชอบเมื่อไปเยือนเกาหลีใต้ (South Korea) คนบ้าไวน์มักไม่พลาดไปร่วมทัวร์ชิมไวน์เมื่อไปถึงบอร์โด (Bordeaux) ของฝรั่งเศส (France) หรือถ้าหากพูดถึงประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) แล้ว ก็มักเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จึงดึงดูดคนที่ชอบเดินป่า ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้จุ่มจ่อมตัวเองในธรรมชาติ

กรณีของผม สนใจเรื่องกาแฟมาก เมื่อไปถึงพื้นที่ตอนกลางและภาคใต้ของประเทศเม็กซิโก (Mexico) รู้ว่าเป็นดงกาแฟ จึงพยายามหาโอกาสทำความรู้จักแหล่งกาแฟแถบนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยใช้วิธีค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ไม่ก็ใช้วิธีสังเกตหรือพูดคุยสอบถามคนท้องถิ่น

เมื่อไปถึงเมืองวาฮากา (Oaxaca City) เดินไปมาในตัวเมืองก็สะดุดตาร้านกาแฟเจ้าหนึ่งซึ่งมีสาขามากกว่าทุกยี่ห้อ ร้านนี้ชื่อ Café Brujula หนึ่งในสาขาเป็นโรงคั่วและครัวทำเบเกอรี่ด้วย ผมคิดว่าน่าจะมีอะไรพิเศษ จึงแวะไปทุกวัน สั่งเมนูกาแฟสลับกันไป เริ่มคุยกับบาริสต้า ได้พบกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นชายวัยกลางคนอเมริกันชื่อไคล์ (Kyle) พื้นเพเป็นครูสอนหนังสือมาก่อน ต่อมาเปลี่ยนอาชีพเป็นมือคั่วกาแฟประจำร้านกาแฟในเมืองที่ตนเองอาศัยอยู่ คลุกคลีอยู่ในวงการกาแฟได้พักใหญ่ก็ตัดสินใจย้ายไปเม็กซิโก ได้ภรรยาเป็นคนที่นี่ แล้วเริ่มทำร้านกาแฟในปี 2006 นับเป็นร้านกาแฟเน้นคุณภาพแห่งแรกของเมืองนี้ เคยเผชิญและผ่านวิกฤติเศรษฐกิจการเมืองหลายรอบ ครั้งล่าสุดคือพิษโควิดหยุดโลกนั่นเอง แต่ก็รอดมาได้ด้วยการทำงานเป็นทีม ปัจจุบันขยายกิจการเป็น แปดสาขาแล้ว และได้เริ่มทำไร่กาแฟเมื่อราวหกปีก่อนด้วยเช่นกัน

ไม่แน่ใจว่าคุยกันถูกคอหรือว่าอย่างไร เมื่อถามว่าพอจะเป็นไปได้ไหมที่จะไปเยี่ยมชมไร่กาแฟ ไคล์ตอบตกลง

เรานัดแนะวันเวลากัน ออกเดินทางไปยังไร่กาแฟซึ่งอยู่ที่พลูมา ฮิดาลโก (Pluma Hidalgo) ห่างออกไปสองร้อยกิโลเมตรเศษ ใช้เวลาขับรถห้าชั่วโมง ละแวกดงดอยแถวนี้มีชื่อเสียงด้านกาแฟมานานแล้ว เป็นแหล่งกาแฟสำคัญแห่งหนึ่งของเม็กซิโก อาราบิก้าสายพันธุ์ทิปิก้าซึ่งปรับตัวเข้ากับพื้นที่ได้ดีได้รับการเรียกชื่อเสียใหม่ว่าพันธุ์พลูมาตามชื่อหมู่บ้าน คล้ายพันธุ์บลูเมาเท่นจากประเทศจาไมกา (Jamaica) ซึ่งเป็นพันธุ์ทิปิก้าที่เรียกชื่อตามภูเขาของที่นั่นนั่นเอง

สภาพอากาศยังส่งเสริมความโดดเด่นให้กาแฟที่มาจากแหล่งนี้มากด้วย เพราะห่างจากชายทะเลเพียงสี่สิบกิโลเมตร ไอน้ำผสมไอเกลือลอยตัวจากทะเล กลายเป็นเมฆหมอกพัดขึ้นมา ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพื้นที่นี้ มีสภาพเป็นป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์

บนดอยแถบพลูมา ฮีดาลโกมีไร่กาแฟมากมาย เจ้าของไร่ทั้งหลายมีตั้งแต่รายใหญ่ ครอบครองพื้นที่กันหลายพันไร่ขึ้นไป หรือขนาดกลางอย่างไร่บรูฮู (Bruju Finca) ซึ่งกว้างประมาณสามร้อยไร่ ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปปลูกกันคนละหย่อม ขนาดไม่เกินสิบไร่ นักท่องเที่ยวทั้งเม็กซิกันและคนต่างชาตินิยมมาเที่ยวเพื่อชิมกาแฟและเที่ยวเชิงเกษตรกัน เรือสำราญมักจัดโปรแกรมพาผู้โดยสารมาเทียบท่าที่เมืองวาตุลโก (Huatulco) แล้วโดยสารรถบัสขึ้นมาชมกระบวนการผลิตกาแฟ

อันที่จริง ไคล์ซื้อไร่กาแฟต่อจากครอบครัวหนึ่งซึ่งเคยทำอาชีพนี้มาเป็นร้อยปี แต่ปัจจุบันลูกหลานไม่มีใครสืบต่ออีกต่อไป เขาจึงรับช่วงต่อลมหายใจให้มัน ไร่บรูฮูตั้งอยู่ที่ความสูง 1,300 – 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดังนั้นกาแฟที่ผลิตได้จากที่นี่จึงจัดเป็นเมล็ดที่ภาษากาแฟเรียกว่า SHB หรือ Strictly High Beans ถ้าเก็บผลสุกนำมาแปรรูปดี ก็จะได้กาแฟคุณภาพสูง เพราะเมล็ดสะสมสารอาหารซึ่งส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติไว้มากกว่ากาแฟซึ่งปลูกในพื้นที่ต่ำ สองปีที่แล้วไคล์และทีมทำการแปรรูปกาแฟจากไร่นี้แล้วส่งเข้าประกวดเป็นครั้งแรก ผลปรากฎว่าได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ห้าจากการประกวดสุดยอดกาแฟเม็กซิโก (Cup of Excellence) ประจำปี 2021 โดยกาแฟที่ส่ง คืออาราบิก้า สายพันธุ์เกชา แปรรูปด้วยวิธีตากแห้งทั้งผล ได้คะแนนสูงถึง 89.53 ซึ่งถือว่าสูงมาก นับว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านกาแฟในประเทศนี้

แนวคิดในการทำงานของไคล์เองน่าสนใจ เขารับพนักงานเข้ามา ฝึกฝนให้ทุกคนเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไวต่อความต้องการของลูกค้า เขาทำหน้าที่พี่เลี้ยงและยอมปล่อยให้ลูกน้องได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ความเป็นกันเองก็เป็นอีกคุณลักษณะดี ทำให้คนที่เข้ามาทำงานที่นี่อยู่กับเขาได้นาน

สำหรับการดูแลจัดการไร่ เขายกให้อัลเฟรโด (Alfredo) เด็กหนุ่มรุ่นใหม่จบการศึกษาโดยตรงด้านการเกษตร สาขาพืชสวน ให้รับผิดชอบ การเอาคนที่มีความรู้ความชำนาญตรงด้านมาทำงานย่อมเอื้อให้งานประสบความสำเร็จได้มากกว่า เพราะเป็นระบบ รวมถึงนำศาสตร์เข้ามาใช้เต็มที่ในการเพาะปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยวิธีอินทรีย์ คำนวณส่วนผสมของปุ๋ยอินทรีย์ให้เหมาะสมต่อต้นกาแฟ นำเอาของเหลือทิ้งจากร้านกลับคืนมาสู่ไร่เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ อนาคตหวังจะให้เป็นกิจการที่สามารถหมุนเวียนทุกอย่างให้อยู่ในวงจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สายพันธุ์หลัก ณ ปัจจุบันที่ปลูกคือเกชา ซึ่งโดดเด่นด้านรสชาติอยู่แล้ว หน้าฝนปีนี้พวกเขาจัดการย้ายต้นกล้าจากเรือนเพาะชำ เป็นสายพันธุ์พลูมาซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่ เริ่มนำไปลงปลูก รออีกสามสี่ปีก็จะได้ผลผลิตแล้ว

ไคล์พูดได้อย่างน่าคิดว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการทำไร่กาแฟ คือการให้คนอายุน้อยทำงานนี้ เพราะมีพลังเรี่ยวแรงเยอะ ลุยงานได้มากกว่า อีกอย่างคือการเพาะต้นกล้าและปลูกกาแฟรุ่นใหม่ๆ เพราะต้นกาแฟให้แข็งแรงกว่า ให้ผลผลิตดีกว่าต้นกาแฟเก่าทั้งหลาย

พบปะ ได้ทำความรู้จักกาแฟแบรนด์นี้ ได้แรงบันดาลใจและเรียนรู้หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างจากหัวเรืออย่างไคล์

เพื่อนคนหนึ่งน่าจะสังเกตพฤติกรรมบ้ากาแฟของผมมาได้พักใหญ่แล้ว อาจสงสัย เมื่อพบกัน จึงถาม “ผมว่าคุณก็รู้เรื่องอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับกาแฟตั้งเยอะตั้งแยะแล้วนะ ตกลงว่าคุณจะเอาประสบการณ์พวกนั้นไปทำอะไรครับ” ผมหัวเราะ ไม่ได้ตอบตรงคำถาม แต่เลี่ยงบอกไปว่า การเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุดครับ 

AUTHOR