8 เรื่องราวของแบรนด์ซุปไก่สกัด จากผลิตภัณฑ์สุขภาพสู่อีกแรงสนับสนุนของอเล็กซ์ เรนเดลล์

8 เรื่องราวของแบรนด์ซุปไก่สกัด จากผลิตภัณฑ์สุขภาพสู่อีกแรงสนับสนุนของอเล็กซ์ เรนเดลล์

Highlights

  • เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่แบรนด์ซุปไก่สกัดแนะนำตัวกับท้องตลาด ในวันแรกพวกเขาเลือกใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นไอคอนในแต่ละยุคในการบอกกับผู้บริโภคว่า พวกเขาคือเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพที่ทานได้ทุกวัน หลักการนี้ประสบความสำเร็จจนพวกเขาใช้แนวทางนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
  • อเล็กซ์ เรนเดลล์ คือพรีเซนเตอร์คนล่าสุดของพวกเขา การมาร่วมมือกันครั้งนี้เกิดจากความเชื่อที่ทั้งแบรนด์ซุปไก่สกัดและอเล็กซ์มีเหมือนกัน นั่นคือความเชื่อในการลงมือทำจริงอย่างจริงใจในการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง ตั้งแต่ตัวเองไปจนถึงภาพใหญ่อย่างสิ่งแวดล้อมในสังคม

ในแง่ของตัวเลขยอดขายคงสามารถพูดได้ว่า แบรนด์ซุปไก่สกัดคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์บนท้องตลาดที่ประสบความสำเร็จมาเกือบ 30 ปี

ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้พวกเขาคือ ‘ผู้นำตลาด’ ซุปไก่สกัดเสมอมา ไม่เคยตกจากบัลลังก์สักครั้ง แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยง่าย พวกเขาต้องผ่านช่วงแนะนำตัว ทำความรู้จัก สร้างความเป็นมิตร และรักษาความเป็นตัวเองกับคนไทยในแต่ละยุคสมัยมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเช่นกัน เพื่อทำให้ตัวเองยังคงยืนหนึ่งท่ามกลางวันเวลาที่หมุนไป 

ดูจากพรีเซนเตอร์คนแรก เต๋อ–เรวัต พุทธินันทน์ กับพรีเซนเตอร์คนปัจจุบันอย่าง อเล็กซ์ เรนเดลล์ ก็ได้ ว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ต่างกันขนาดไหน

ดังนั้นในโอกาสนี้เราจึงถือโอกาสเท้าความเรื่องราวกับทีมแบรนด์ในประเทศไทยเสียหน่อย จากวันนั้นจนถึงวันนี้พวกเขาทำยังไงบ้างเพื่อยืนระยะความสำเร็จ

บิดฝาไปทางขวา ให้เสียง ‘แคร็ก’ ดังขึ้นมา

ถ้าพร้อมแล้วก็ยกกระดกดื่ม

01 “อาหารช่วยเสริมสุขภาพร่างกาย พลังงาน และความสดใสให้คุณ”

ถ้าเปรียบเป็นการเจอกันครั้งแรก คำกล่าวในโฆษณาตัวแรกๆ ของแบรนด์ซุปไก่สกัดคงเปรียบเหมือนการแนะนำทำความรู้จัก โฆษณาตัวแรกของแบรนด์ซุปไก่สกัดออนแอร์ครั้งแรกเมื่อ 33 ปีที่แล้วโดยมีเต๋อ–เรวัต พุทธินันทน์ เป็นพรีเซนเตอร์ นั่นคือการเน้นการพูดถึงการเสริมพลังงานและสภาวะทางอารมณ์ สะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาตั้งใจในเวลานั้น นั่นคือหนุ่มสาววัยทำงานที่รักในสุขภาพของตัวเอง ยิ่งเมื่อผสมกับงานวิจัยที่เริ่มมากขึ้นตามยุคสมัย คนทั่วไปจึงเปลี่ยนการรับรู้ต่อซุปไก่สกัดว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไปโดยปริยาย

02 แตะตลาดแมสด้วยไอคอนของยุคสมัย

ในปี 2537 แบรนด์ได้ทุ่มทุนผลิตโฆษณาตัวใหม่โดยดึงซูเปอร์สตาร์ในยุคนั้นอย่าง เจ เจตริน และ โจ จิรายุส พี่น้องตระกูลวรรธนะสิน มาเป็นพรีเซนเตอร์ ครั้งนี้พวกเขาเลือกนำเสนอผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภคอีกแบบผ่านความสัมพันธ์ของพี่น้อง นั่นคือการพรีเซนต์ว่าแบรนด์ซุปไก่สกัดเป็นเครื่องดื่มทดแทนความห่วงใย การมอบแบรนด์ให้แก่กันแสดงออกถึงความห่วงใยสุขภาพของอีกฝ่าย และผลกระทบจากสิ่งที่พวกเขาร่วมสร้างนี่เองที่ทำให้เกิดค่านิยมใหม่ๆ ขึ้นในสมัยนั้น

03 ของขวัญเยี่ยมคนป่วยกับ ‘แบรนด์วันละ 1 ขวด’

เมื่อภาพลักษณ์เรื่องสุขภาพผสมกับความเป็นมนุษย์ในแง่ความห่วงใย เสริมด้วยวัฒนธรรมไทยที่ให้ความสำคัญกับของฝาก ในวันหนึ่งแบรนด์ซุปไก่สกัดก็ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นจะรู้สึกไปในทางบวกโดยปริยาย แต่นั่นนำมาซึ่งข้อจำกัดอีกอย่างที่พวกเขาเล็งเห็น นั่นคือคนเราไม่ได้ป่วยกันทุกวัน ดังนั้นในปี 2543 แบรนด์ซุปไก่สกัดจึงตัดสินใจดึงนาวิน ต้าร์ ศิลปินชื่อดังในยุคนั้น มาบอกเล่าสิ่งใหม่ที่พวกเขาอยากจะสื่อ นั่นคือโฆษณาที่ว่าด้วยชีวิตประจำวันของเขาที่ต้องทานแบรนด์ซุปไก่สกัดวันละ 1 ขวด ในแง่หนึ่งโฆษณานี้จึงเป็นเหมือนภาพลักษณ์ใหม่ที่แบรนด์อยากพาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ไปถึง นั่นคือไม่ใช่แค่การเป็นเครื่องดื่มสำหรับบางวาระ แต่เป็นเครื่องดื่มที่ต้องทานทุกวัน 

04 ต่อยอดความสำเร็จและการรับรู้ของคน

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาแบรนด์ซุปไก่สกัดยังคงบอกเล่าเรื่องราวความตั้งใจของตัวเองผ่านโฆษณาและกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และในปีนี้ก้าวต่อไปในการบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาคือ การร่วมมือกับพรีเซนเตอร์คนใหม่–อเล็กซ์ เรนเดลล์

ว่ากันตามตรง ถ้าดูจากพรีเซนเตอร์ที่แบรนด์เลือกตลอดหลายปีที่ผ่านมา อเล็กซ์ เรนเดลล์ มีทั้งความเหมือนและความต่างกับภาพจำเหล่านั้นอยู่เหมือนกัน ถ้าดูผิวเผินในวันที่อเล็กซ์ตอบรับเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ สปอตไลต์ในวงการอาจไม่ได้สาดส่องเขาเหมือนกับพรีเซนเตอร์หลายคนก่อนหน้า ถึงแม้เขาทำอาชีพนักแสดงมานาน แต่สิ่งที่เขา ‘ทำ’ นอกกล้องมากกว่าที่ทำให้เกิดการร่วมมือกันครั้งนี้ 

05 เพื่อคน เพื่อสังคม และเพื่อโลกใบนี้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบทบาทใหม่ของอเล็กซ์กับการเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (EEC Thailand) พาให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะนักพัฒนาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

องค์กรที่เขาร่วมสร้างขึ้นนี้มีเป้าหมายในการส่งเสริมให้สังคมมีความรู้และความเข้าใจต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรทางวัฒนธรรมร่วมกัน ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า ‘สิ่งแวดล้อมศึกษา’ ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาพาหลายกลุ่มคนไปศึกษาธรรมชาติมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว พวกเขาพัฒนาไปไกลมากจนอาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการได้พื้นที่ในสื่อระดับโลกอย่าง CNN หรือการที่อเล็กซ์ได้ไปพูดถึงปัญหานี้ในเวที UN สปอตไลต์อีกแบบเริ่มส่องมาที่ตัวเขา และเมื่อสิ่งเหล่านี้ผสมกัน แบรนด์และอเล็กซ์จึงได้มาร่วมงานกันในที่สุด

 

06 ตอบแทนความดี

ด้วยเทรนด์สิ่งแวดล้อมและปัญหาของโลกที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทีมแบรนด์ได้เล็งเห็นสิ่งนี้เช่นกันและเลือกแสดงออกผ่านกระบอกเสียงที่พวกเขาเห็นว่ามีคุณค่า จากการสนทนากับทีมแบรนด์ของประเทศไทย พวกเขาเล่าให้เราฟังว่านอกจากเหตุผลในแง่ภาพจำของอเล็กซ์ที่ตรงกับสิ่งที่แบรนด์อยากเน้น การเลือกอเล็กซ์มาเป็นพรีเซนเตอร์ในครั้งนี้เกิดจากความตั้งใจของพวกเขาเองด้วยที่อยาก ‘สนับสนุน’ สิ่งที่อเล็กซ์ทำ แบรนด์อยากเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการประชาสัมพันธ์ให้คนเห็นถึงปัญหาและเป็นลมใต้ปีกที่ส่งต่อให้อเล็กซ์ได้เปลี่ยนแปลงสังคมอย่างที่เขาตั้งใจ

07 Inspiration Talk บ่งบอกความคิด

ก่อนหน้าที่โฆษณานี้จะออนแอร์ อเล็กซ์ได้ร่วมงานกับแบรนด์ซุปไก่สกัดมาแล้วในงาน Brand’s Summer Camp ครั้งนั้นเขามาเป็นสปีกเกอร์พูดให้กำลังใจน้องๆ ที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยในหัวข้อ ‘สร้างคุณค่าตัวเองให้แข็งแรง’ ในวันนั้นเขาพูดถึงเรื่องราวชีวิตและการเริ่มต้น EEC Thailand ในวันที่ไม่มีใครเชื่อ

ถ้อยคำบางส่วนของอเล็กซ์ในวันนั้นว่าไว้ว่า “เราไม่รู้หรอกว่าวันข้างหน้าเราจะเป็นอะไร เราจะโตขึ้นไปเป็นอะไร ทิศทางของชีวิตจะพาไปทางไหน แต่เหมือนกับต้นไม้ ถ้าจะเติบโตขึ้นเราต้องการรากฐานที่แข็งแรงให้กับชีวิตของเรา อย่างผมก็เข้าวงการตั้งแต่ 4 ขวบ ทุกวันนี้ผมอายุ 29 ปี สิ่งที่ผมได้จากวงการคือผมมี life skill ที่ดีมากมาย มันทำให้ผมต่อยอดมาทำ EEC Thailand แบบทุกวันนี้ได้ และทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญในชีวิตคือคุณต้องคิดบวก ทำงานให้หนัก และทำสิ่งที่อยากทำให้เป็นจริงให้ได้” 

08 เพราะเราเชื่อในสิ่งเดียวกัน

แม้จะเริ่มต้นร่วมงานจากสิ่งที่เห็น แต่จากการทำงานร่วมกันในฐานะแบรนด์กับพรีเซนเตอร์ ทั้งแบรนด์และอเล็กซ์ต่างลงความเห็นว่าสุดท้ายพวกเขาล้วนเชื่อในสิ่งเดียวกัน นั่นคือการเริ่มทำอะไรก็ตามให้ดีขึ้นด้วยตัวเอง เริ่มต้นทำสิ่งเหล่านั้นด้วยหัวใจที่จริงใจและบริสุทธิ์ใจ เพราะในโมงยามที่ยังไม่ถึงความสำเร็จ ความจริงใจที่มีต่อตัวเองจะเกิดเป็นพลังให้เราก้าวข้ามผ่านวันเวลายากๆ เหล่านั้นไปได้

เหมือนกับอเล็กซ์ที่เชื่อว่าโลกจะดีขึ้นได้ EEC Thailand จึงเกิดขึ้นตามมา และเหมือนกับแบรนด์ที่เชื่อในผลิตภัณฑ์ของตัวเองเสมอมา พวกเขาทั้งคู่จึงประสบความสำเร็จมาได้จนถึงตอนนี้

AUTHOR

ILLUSTRATOR

erdy

นักวาดภาพประกอบคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันว่าจะรวย จะรวย จะรวย