“อยากกินบอนชอน”
“กินบอนชอนกันไหม”
“หิวบอนชอน”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจที่ชื่อ ‘บอนชอน’ เริ่มแทรกเข้าไปอยู่ในบทสนทนาของคนไทย แน่นอนว่าชื่อนี้ไม่ได้หมายถึงไก่ทอดทั่วไป แต่ต้องเป็นไก่ทอดสไตล์เกาหลีหนังบางกรอบ ซึ่งมาพร้อมรสชาติซอสเฉพาะตัวที่ไก่ทอดเจ้าไหนก็ไม่สามารถเลียนแบบได้ นี่สิถึงจะเรียกว่าบอนชอน
แต่นอกเหนือจากรสชาติไก่ทอดที่เป็นลายเซ็นเฉพาะตัวแล้ว เราก็อยากนำเสนอ 16 เรื่องเล่าที่ต่อให้เป็นคนที่กินบอนชอนทุกวันก็คงยากที่จะรู้ และจะทำให้การกินบอนชอนครั้งถัดไปสนุกและน่าตื่นเต้นกว่าที่เคย แต่ก่อนจะเริ่มข้อแรก ขอแนะนำให้เตรียมสั่งบอนชอนรอไว้ก่อนเลย เพราะอ่านจบแล้วรับรองว่า ‘หิวบอนชอน’ แน่นอน
01 ออกตามหารสชาติที่ใช่
ก่อนตัดสินใจนำเข้าแฟรนไชส์บอนชอน ทางผู้นำเข้าแบรนด์ก็ได้ออกตระเวนชิมไก่ทอดเกาหลีหลากหลายแบรนด์ในหลายประเทศ เพื่อตามหารสชาติที่เป็นอันดับหนึ่งเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น ซึ่งบอนชอนก็ไม่เคยทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง เพราะจากวันแรกจนวันนี้บอนชอนก็ยังคงเป็นธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
02 ศึกของ 2 รสชาติ
ไก่ทอดรส Soy Garlic และ Hot คือสองรสชาติซิกเนเจอร์ของบอนชอนที่มีมาตั้งแต่เปิดร้านแรกสาขาปูซาน และได้รับคะแนนนิยมตีคู่กันมาตลอด แม้แต่ในประเทศไทยเองก็มียอดขายต่างกันไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ โดยตำแหน่งผู้ชนะตกเป็นของรส Soy Garlic นั่นเอง
03 ใครๆ ก็กินบอนชอน
ถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์บอนชอนจะดูเหมือนร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่เจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น แต่จริงๆ แล้วอีกหนึ่งลูกค้ารายใหญ่ (แต่ตัวเล็ก) ก็คือเด็กๆ ที่ติดใจความกรุบกรอบและการปรุงสดใหม่ของไก่ทอดบอนชอน คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถพาเด็กๆ มาทานได้อย่างสบายใจ (ลูกค้ากลุ่มนี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Soy Garlic ทำคะแนนชนะ Hot อีกด้วย!)
04 กินเมื่อไหร่ก็กรอบเสมอ
ไม่ว่าจะสั่งไก่ทอดบอนชอนมากินที่ร้านหรือสั่งมากินที่บ้าน สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือรสสัมผัสกรุบกรอบในทุกครั้งที่กัด ซึ่งเป็นเคล็ดลับจากการทอดแบบรีดน้ำมัน เพื่อไม่ให้เหลือชั้นของน้ำมันใต้ผิวหนังไก่ แล้วจึงทาซอสเคลือบเอาไว้ด้านนอก ทำให้หนังไก่คงความกรอบ ในขณะเดียวกันเนื้อไก่ก็ยังชุ่มฉ่ำ เป็นเอกลักษณ์ของไก่ทอดบอนชอนที่ยากจะเลียนแบบ จนครองใจคนไทย
05 ความลับของปีกไก่บอนชอน
จากเมนูที่ได้รับการขนานนามว่า Best Wings in America แน่นอนว่าเมนูปีกไก่ทอดของบอนชอนก็ครองตำแหน่งผู้ทำยอดขายสูงสุดในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งความลับที่ทำให้ส่วนปีกบนและปีกกลางนี้อร่อยเป็นพิเศษก็คือ สัดส่วนของเนื้อที่พอดีกับหนังไก่กรุบกรอบ ไม่ว่าจะกัดไปกี่คำก็ได้รสชาติซิกเนเจอร์ซอสของบอนชอนทุกคำ
06 การันตียอดขาย
ทุกวันนี้บอนชอนประเทศไทยมียอดขายไก่ทอดอยู่ที่ราวๆ 90,000 ชิ้นต่อวัน (ยังไม่นับรวมเมนูอื่นๆ ต่างหาก)
07 เมนูใหม่ ท้าให้ลอง
บอนชอนคือหนึ่งในแบรนด์ที่มีการปล่อยเมนูพิเศษออกมาอย่างสม่ำเสมอ และแทบทุกครั้งที่เปิดตัวเมนูเหล่านั้นก็จะกลายเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง ด้วยความครีเอทีฟ แปลกใหม่ น่าลอง ซึ่งกระบวนการพัฒนาเมนูเหล่านี้ของบอนชอนก็คือ การจับตาดูกลุ่มลูกค้าของตัวเองว่าช่วงนี้ทุกคนกำลังอินกับโปรดักต์อะไร รสชาติแบบไหน แล้วจึงหยิบจับสิ่งนั้นมาต่อยอดให้เป็นเมนูในสไตล์ของบอนชอนอีกทีหนึ่ง
08 เสียงจากลูกค้าท้าให้ทำ
ในทางกลับกัน ลูกค้าบอนชอนเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ หลายครั้งที่ฟีดแบ็กของคนที่เข้ามาทานจุดประกายให้เกิดเมนูใหม่ๆ ขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ หนังไก่ทอดบอนชอน ที่ลูกค้าจำนวนมากเรียกร้องให้ทำออกมาขาย เพราะไม่ว่าใครที่ได้มาทานก็ต้องติดใจส่วนนี้กันทั้งนั้น บอนชอนจึงตัดสินใจพัฒนาเมนูหนังไก่ทอดและบรรจุเป็นหนึ่งในเมนูเฉพาะของบอนชอนสาขาประเทศไทย
09 THAILAND ONLY
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบอนชอนประเทศไทยที่ประเทศไหนก็สู้ไม่ได้คือ การหยิบเอาเมนูไทยๆ มาเบลนด์กับรสชาติไก่ทอดไสตล์เกาหลี ทั้งการเพิ่มเมนูข้อไก่ทอดคลุกซอสซิกเนเจอร์ของบอนชอน หรือแม้แต่เมนูผัดวุ้นเส้นเกาหลีแท้ๆ อย่างสไปซี่จับเช ก็มีการเพิ่มรสเผ็ดด้วยพริกขี้หนูซอย พร้อมโปะไข่ดาวเยิ้ม ให้ถูกจริตคนไทยกันแบบสุดๆ
10 มีไก่ทอดก็ต้องมีข้าวเหนียว
สำหรับคนไทยแล้ว ข้าวเหนียวกับไก่ทอดคือของคู่กัน ทำให้ลูกค้าบอนชอนส่วนมากเลือกสั่งข้าวเหนียวเป็นเครื่องเคียงกันแทบทุกโต๊ะ จนข้าวเหนียวกลายเป็นเมนูเครื่องเคียงที่ทำยอดขายอันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
11 คู่ต่อสู้ของเมนูไก่
เมนูที่ทำคะแนนยอดนิยมเป็นอันดับสองรองจากไก่ทอดบอนชอน ได้แก่ ซุปซุนดูบู หรือซุปเต้าหู้กิมจิ ที่มีรสชาติจัดจ้าน ตอกไข่ไก่เสิร์ฟกันแบบสดๆ ในหม้อร้อนสไตล์เกาหลี ความพิเศษอีกอย่างของเมนูนี้คือ ลูกค้าสามารถเลือกท็อปปิ้งได้เองตามใจชอบ ทั้งชีส หอยนางรมญี่ปุ่น ซีฟู้ด ไส้กรอกหมู แต่ท็อปปิ้งที่ขายดีต้องยกให้แป้งต๊อกและเบคอน
12 เหมือนไก่ทอด แต่ไม่ใช่ไก่ทอด
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าบอนชอนมีเมนูที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่กินไก่แต่อยากลิ้มลองรสชาติซอสซิกเนเจอร์ นั่นก็คือเมนูปลาทอดบอนชอนที่กรอบอร่อยไม่แพ้กัน และสำหรับแฟนคลับไก่ทอดคนไหนที่เบื่อจะทานไก่แล้วก็เปลี่ยนมาลองทานปลาได้เช่นกัน
13 ความดีงามของชาบาร์เลย์
กลิ่นหอมของชาบาร์เลย์บอนชอนคือเอกลักษณ์เฉพาะของเครื่องดื่มเมนูนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือ ถึงจะมีชื่อเรียกว่าชาก็จริง แต่ชาบาร์เลย์นั้นไม่มีคาเฟอีนอยู่เลย ทำให้เมนูนี้เป็นเครื่องดื่มที่เด็กๆ ดื่มได้ รวมถึงคนที่ต้องหลีกเลี่ยงคาเฟอีนเช่นกัน
14 มีอะไรอยู่ในร้าน
ที่บอนชอนทุกสาขาจะเต็มไปด้วยตัวอักษรสีดำเรียงราย ซึ่งมาจากคำที่ลูกค้าและสื่อต่างๆ ใช้เพื่อบรรยายไก่ทอดของบอนชอน ไม่ว่าจะเป็น worth the wait, fresh hot chicken หรือ best wings ever! และสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ไปทานบอนชอนที่ร้าน บอนชอนก็ไม่ลืมที่จะเอาคำบรรยายเหล่านั้นไปเป็นดีไซน์บนกล่องไก่ทอดแบบเทคโฮม เพื่อช่วยย้ำเอกลักษณ์ของไก่ทอดบอนชอนให้ชัดเจนทั้งสองทาง
15 กินบอนชอนพร้อมชมวิว
สำหรับใครที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์กินไก่ทอดบอนชอนพร้อมกับชมวิวไปด้วย ขอแนะนำให้ลองไปบอนชอน สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เพราะที่สาขานี้มีโต๊ะเอาต์ดอร์ที่เหมาะสำหรับการนั่งชมวิวกรุงเทพฯ นับเป็นอีกหนึ่งกิมมิกสนุกๆ ในร้านบอนชอน ที่ไม่ว่าจะไปทานสาขาไหนก็จะเห็นความแตกต่างของคอนเซปต์การออกแบบร้านอยู่เสมอ แม้ว่าจะใช้โทนสีและวัสดุเดียวกันเพื่อคงอัตลักษณ์ของแบรนด์ แต่ในส่วนของดีไซน์นั้นไม่มีสาขาไหนที่ซ้ำกันเลย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป
16 เน้นขายไก่ ไม่ใช้พรีเซนเตอร์
การใช้ดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์นั้นเรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดแบบมาตรฐานของร้านขายไก่ทอดเกาหลีเลยก็ว่าได้ แต่บอนชอนกลับมองเรื่องนี้แตกต่างกันออกไป เพราะบอนชอนต้องการเน้นคุณภาพของอาหารเป็นจุดสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหาร หน้าตา และมาตรฐานที่ได้คุณภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีพรีเซนเตอร์เป็นสื่อกลาง ด้วยเหตุนี้บอนชอนจึงทุ่มเทให้กับการคิดค้นเมนูใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากที่สุด