UMI : ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เดินทางจากงานวิจัยบนหิ้ง สู่เชลฟ์ในห้าง และมือแม่บ้านทุกครัวเรือน

จะดีแค่ไหนถ้าการหลีกหนีการพึ่งพาสารเคมีเป็นไปได้ในชีวิตจริง ?

พอลองนึกกิจวัตรที่เราต้องพึ่งสารเคมีมากที่สุดคงจะหนีไม้พ้นการกำจัดสิ่งสกปรกต่างๆ ตั้งแต่จุดเล็กๆ อย่างครัวเรือนของเรา หรือแม้แต่จุดใหญ่ๆ เช่น การขจัดของเสียในภาคอุตสาหกรรม หลายคนคงถอนหายใจว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆ

แต่ไม่ใช่กับ ดร.วสันต์ อริยพุทธรัตน์ นายกอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพไทย ผู้ก่อตั้งบริษัท KEEEN (คีนน์) เจ้าของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มุ่งตอบโจทย์อุตสาหกรรม ผู้เชื่ออย่างหนักแน่นว่า ‘การใช้ธรรมชาติบำบัดธรรมชาติ’ เป็นสิ่งที่ทำได้จริง จากความสำเร็จกว่า 5 ปีของผลิตภัณฑ์คีนน์ รวมกับความตั้งใจที่อยากให้ลูกค้าภาคครัวเรือนได้ใช้นวัตกรรมทำความสะอาดจากธรรมชาติที่มีคุณภาพบ้าง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์น้องใหม่อย่าง UMI (ยูมิ) ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับครัวเรือนที่ผูกมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น โฟมล้างมือฆ่าเชื้อ, ผ้านาโนฆ่าเชื้อ, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดคราบไขมัน ขจัดกลิ่นอเนกประสงค์, สเปรย์ออร์แกนิกฆ่าเชื้อโรคเป็นต้น หนึ่งในแบรนด์น่าสนใจที่วางขายใน Blue Basket เว็ปไซต์ขายสินค้าเพื่อสุขภาพ

มารู้จักนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมผ่านบทสนทนาของนักวิจัยที่ควบตำแหน่งผู้ประกอบการไปด้วยกัน เพื่อที่ว่าเราจะได้เข้าใจแก่นของสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง bio-organic ให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย

หยิบปัญหามาต่อยอดให้เกิดธุรกิจ

“สมัยทำงานวิจัยปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหิดล เราอยากทำสิ่งที่ตอบโจทย์ธุรกิจอุตสาหกรรมโดยเฉพาะการบำบัดน้ำมันที่ใช้งานแล้วซึ่งเป็นปัญหาด้านค่าใช้จ่าย การใช้สารเคมีมาบำบัดเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปัญหา แต่ขณะเดียวกันมันก็ก่อให้เกิดอีกปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยีชีวภาพถือว่าเป็นทางออกของปัญหา หลังเรียนจบเราหาโอกาสนำเข้าสินค้าที่มีจุลินทรีย์ย่อยน้ำมันจากเมืองนอกเข้ามา เราพบว่าต้นทุนแพงมากๆ เลยอยากลองผลิตเองบ้างแต่ติดปัญหาที่เราไม่มีเครื่องมือในการทำวิจัยเลย”

“เราตัดสินใจเดินไปขอความร่วมมือการทำวิจัยจาก BIOTEC หน่วยงานย่อยของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ต่อยอดงานวิจัยเชิงลึกที่ชื่อว่า ‘การนำจุลินทรีย์ย่อยน้ำมันปิโตรเลียมมาใช้ในเชิงพาณิชย์’ และใช้เวลาพัฒนานวัตกรรมนี้เกือบ 4 ปีจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ย่อยน้ำมันที่เหมาะกับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในนามบริษัท KEEEN และแบรนด์น้องใหม่อย่าง UMI ที่โฟกัสตลาดลูกค้าที่เป็นครัวเรือนตามลำดับ”

สร้างแบรนด์ให้แตกต่างและเหมาะกับการใช้งาน

“ชื่อบริษัทแม่อย่าง KEEEN มีที่มาจากคำภาษาจีนว่า 海金(ไห่-จิน) ‘ไห่’ แปลว่าทะเล ส่วน ‘จิน’ หรือ ‘กิน’ แปลว่าทองคำ ซึ่งพ้องกับคำว่า ‘คิน’ ในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงทองคำเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอีกแบรนด์ของเราก็น่าจะเป็นชื่อที่หมายถึงทะเล ซึ่งตรงกับคำว่า UMI ในภาษาญี่ปุ่น UMI มีจริตของคำที่ดูน่ารักเหมือนกับสุภาพสตรีหรือคุณแม่บ้านที่พร้อมให้การดูแล และการเลือกใช้สีแดงที่สื่อถึงความสดใสและความมุ่งมั่นตั้งใจแสดงภาพที่แตกต่างจากแบรนด์ออร์แกนิกอื่นๆ”

“หลักๆ เราผลิตสารทำความสะอาดสำหรับแบรนด์ KEEEN อยู่แล้ว เพียงแค่ว่าสินค้าของเราไม่เคยอยู่ในตลาดครัวเรือนมาก่อน เราจึงต้องเน้นออกแบบสินค้าใหม่ให้เหมาะสมกับการใช้งานในครัวเรือนมากกว่า เช่น เปลี่ยนขนาดบรรจุภัณฑ์จากถังหรือแกลลอนให้มีขนาดเล็กลงเป็นขวดเล็กๆ ใช้งานง่าย ปรับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้เป็นอัตราส่วนที่พร้อมใช้ สิ่งสำคัญคือเราจะต้องยึดถือมาตรฐานเดียวกัน”

ย่อยงานวิจัยบนหิ้งมาเป็นสิ่งที่จับต้องง่าย

“การเอางานวิจัยมาทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ใช้งานจริงได้ เราต้องมีวงกลม 3 วง วงกลมแรกคือเราต้องรู้ว่าตลาดต้องการอะไร วงกลมที่สองเราต้องมีความคิดริเริ่มในการสร้างสิ่งใหม่ และวงกลมที่สามคือการพัฒนาเทคโนโลยี ถ้าวงกลม 3 วงนี้มาบรรจบกันพอดี สิ่งนี้แหละที่เราจะเรียกว่านวัตกรรม ส่วนใหญ่คนอาจจะคิดว่าถ้าอยากมีนวัตกรรมใหม่ๆ ก็ให้เดินเข้าหา สวทช. แต่จริงๆ ทางนู้นเขาก็จะถามคุณกลับเหมือนกันว่าคุณมีอะไรบ้าง คุณรู้จักตลาดและมีความคิดริเริ่มไหม”

“จุลินทรีย์บนโลกนี้มีหลายชนิดมากตั้งแต่แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ ไวรัส แต่หลักๆ เราเลือกใช้แบคทีเรียสายพันธุ์แท้จากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติย่อยโมเลกุลน้ำมันปิโตรเลียมให้เล็กลง เปลี่ยนจาก oil เป็น non-oil และสุดท้ายก็กลายเป็นคาร์บอนกับน้ำ งานวิจัยทำให้เราเห็นโอกาสในการนำไปใช้เยอะขึ้น โดยเฉพาะการกำจัดมลพิษในสิ่งแวดล้อม เราถอดสูตรนี้มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่น ขจัดเชื้อโรค บำบัดน้ำเสีย”

ตลาดออร์แกนิกไม่ได้มีแค่อาหาร

“ส่วนใหญ่คนอาจจะนึกว่าออร์แกนิกคือตลาดอาหาร ไม่ได้นึกถึงตลาดผลิตภัณฑ์ที่เป็น non-food เลย แบรนด์ของเราก็อยากจะเป็นผู้นำในการบุกเบิกตลาด non-food organic ตอนเปิดตัวเราอาจจะต้องทำงานเรื่องการสื่อสารกันหนักขึ้นหน่อยเพราะผู้บริโภคค่อนข้างสับสนระหว่าง natural, organic จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ของเราคือจุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิตที่สกัดจากสมุนไพร (bio) ที่ผสมกับสารสกัดจากพืช (organic) ที่สามารถขจัดคราบและทำความสะอาดได้ดี เราภูมิใจมากที่จะใช้คำว่า bio-organic เพื่อยืนยันว่าสินค้าของเราทุกตัวผลิตจากพืชหมดเลย”

ผิดพลาด เรียนรู้ และพัฒนาต่อ

“อย่างผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์เป็นตัวแรกที่เราทำออกมา ในขวดนี้มีจุลินทรีย์หนึ่งล้านตัวผสมกับสารสกัดจากข้าวโพด เวลาใช้เราจึงต้องนำไปผสมน้ำก่อน นอกจากจะล้างทำความสะอาดพื้นผิวแล้วยังช่วยขจัดกลิ่นได้ด้วย แต่เชื่อไหมว่าพอเราปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกไปกลายเป็นว่าผู้บริโภคสับสนว่าใช้กับอะไรกันแน่ คงเป็นเพราะรายละเอียดที่บอกบนขวดผลิตภัณฑ์เราอาจจะอธิบายไม่ชัดเจน

“ปีที่ผ่านมาทำให้เราเรียนรู้ว่าเราควรแยกขวดผลิตภัณฑ์สำหรับห้องน้ำและผลิตภัณฑ์สำหรับห้องครัวออกจากกัน รวมทั้งการใช้กลิ่นดอกปีบและกลิ่นขิงเป็นตัวช่วยในการแยกด้วย หรือแม้แต่เรื่องกลิ่นของผ้าทำความสะอาดนาโนที่หลายคนบอกว่าแรงไปเราก็จะปรับให้เป็นกลิ่นที่ลูกค้าโอเคขึ้น

“หลักๆ เราจะต้องปรับฉลากบรรจุภัณฑ์ให้ดูง่ายขึ้น ต่อไปเรามีแพลนนำสินค้าเข้าไปขายในโมเดิร์นเทรดอย่างวิลล่า มาร์เก็ต และกูร์เมต์ มาร์เก็ตก่อนในเดือนมีนาคมนี้ แล้วก็วางขายในตลาดบลู บาสเก็ตตามปกติ“

ชีวิตไม่พึ่งสารเคมีที่เป็นไปได้จริง

“เราเชื่อว่าเป็นไปได้นะ ลองสังเกตรุ่นคุณตาคุณยายพวกเรา ท่านใช้สารเคมีน้อยมากและยังอยู่กันได้ สมัยนี้เราอาจจะอยู่ในยุควัตถุนิยมด้วยคนเลยรู้สึกว่าการอยู่แบบธรรมชาติเนี่ยเป็นเรื่องที่ยากมากเลย แต่เชื่อว่ายุคต่อไปเทคโนโลยีจะถูกนำมาใช้ในชีวิตเรามากขึ้น อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้สิ่งที่เป็นนวัตกรรมไบโอ-ออร์แกนิกถูกนำมาผสมเข้ากับของใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ อย่างแพร่หลายมากขึ้น

“ถ้าอยากให้คนรู้สึกว่านวัตกรรมหรือสินค้าเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่คนสามารถใช้ได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เรื่องนี้เราอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย สมัยนี้สิ่งที่ทำให้โรคเกิดขึ้นเยอะส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เราใช้สารเคมีและสารแอนตี้ไบโอติกกันมากเกินไป สภาพแวดล้อมของคนเมืองเราอาจจะเลือกเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ธรรมชาติได้ยากก็จริง แต่อย่าลืมว่าสิ่งต่างๆ ที่เราใช้ในบ้านสามารถเปลี่ยนมาใช้ของที่เป็นธรรมชาติได้ หนึ่งในความตั้งใจของเราคือการขายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง”

ถ้าให้เลือกแนะนำสินค้าหนึ่งอย่างจะเลือกอะไร

“เราภูมิใจนำเสนอ Odor & Germ Killer Spray เพราะผลิตภัณฑ์ขจัดกลิ่นส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะเน้นการเอากลิ่นหอมไปกลบกลิ่นเหม็น แต่สเปรย์ของ UMI มีคุณสมบัติสามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสทั้งในอากาศและพื้นผิวต่างๆ ได้มากถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ มีส่วนผสมของสมุนไพรและชาเขียวที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม บรรจุในกระป๋อง 30 ml. พกพาง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน”

นวัตกรรมไบโอ-ออร์แกนิก สำหรับครัวเรือน UMI มีให้ซื้อหาที่ Blue Basket ตะกร้าสีฟ้าที่รวมสินค้าเพื่อสุขภาพเพื่อคนช่างเลือก อย่าลืมตามเนื้อหาสินค้าเพื่อสุขภาพดีๆ และวิธีคิดที่น่าสนใจจากเหล่าผู้ประกอบการคนเก่งได้ทุกวันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน ในคอลัมน์ Blue Basket นะ

ภาพ ธนวัฒน์ อัศวชุติพงศ์

AUTHOR