‘Based on True Stories’ นิทรรศการภาพวาดมากสีสัน สร้างจากเรื่องจริงและสิ่งที่ชอบของ Juli Baker & Jaruwat

Highlights

  • 'Based on True Stories' คือนิทรรศการภาพวาดของ Juli Baker & Summer หรือ ป่าน-ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา และ Jaruwat หรือ เตว-จารุวัฒน์ น้อมรับพร สองศิลปินเพื่อนซี้ที่ต่างเคยมีนิทรรศการเดี่ยวของตัวเองมาแล้ว
  • ชื่อนิทรรศการมาจากคาแร็กเตอร์ของทั้งคู่ที่มักหยิบเรื่องราวในชีวิตจริงมาใส่ในภาพวาด แล้วเติมแต่งด้วยจินตนาการสีฉูดฉาด
  • มองเผินๆ งานหลากสีสันของ Juli Baker และ Jaruwat อาจดูคล้ายกัน แต่หากมองให้ละเอียด งานของพวกเขาแตกต่างกันอยู่พอตัว ทั้งที่ที่ชอบไป เฉดสีที่ระบายลงไปในงาน ไปจนถึงเรื่องราวกระทบใจ

เพียงเดินเข้าไปในนิทรรศการ ‘Based on True Stories’ ของ Juli Baker & Summer และ Jaruwat เราก็เหมือนโดนสีสันซัดสาดเข้ามาทันที

ใครเป็นแฟนคลับของสองศิลปินอยู่แล้วคงไม่แปลกใจเพราะงานเพนต์ติ้งของทั้งคู่นั้นประกอบขึ้นจากเฉดสีนับไม่ถ้วนที่แต่งแต้ม ป้ายปาดอย่างฉูดฉาดอยู่บนผืนผ้าใบ จนเมื่อมองไกลๆ ก็คลับคล้ายว่าจะแยกงานของ Juli กับ Jaruwat ไม่ออก แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ เรากลับเห็นความต่างที่แทรกตัวอยู่ระหว่างเม็ดสีสดใส

“งานเราไม่ได้ทาบกันสนิทนะ เราก็เป็นแค่คนที่รู้จักกัน เป็นเพื่อนกัน” Jaruwat หรือ เตว–จารุวัฒน์ น้อมรับพร อธิบายระหว่างที่เขาและ ป่าน–ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา หรือที่เรารู้จักดีในชื่อ Juli Baker & Summer พาเราเดินดูภาพวาดภายในงานแบบสบายๆ

แม้ป่านและเตวจะสนิทสนมกันเป็นทุนเดิม แต่ต้นไอเดียของการจัดงานแสดงภาพวาดคู่กันเป็นครั้งแรกกลับมาจากทาง Yelo House แกลเลอรีย่านสนามกีฬาแห่งชาติ ที่ติดใจภาพวาดมากสีสันจนออกปากชวนให้ทั้งคู่มาจัดนิทรรศการคู่กัน

“ตอนแรกพวกเราก็ยังไม่รู้ว่าต้องวาดอะไร คุยกันอยู่หลายครั้งก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องคอนเซปต์ สุดท้ายเราก็เลยกลับไปวาดงานของตัวเอง แล้วเอามากางดูว่าคอนเซปต์คืออะไร” เตวเล่าถึงจุดเริ่มต้นชวนปวดหัว ก่อนป่านจะเสริมถึงช่วงเวลาแห่งคลี่คลายเมื่อพวกเขาเอางานที่แยกกันไปวาดมากางดูร่วมกัน

“เราว่าเรากับพี่เตวชอบวาดเรื่องทั่วๆ ไปที่เจอในชีวิตประจำวัน พอมาวางมันก็มีจุดร่วมเป็นคน เป็นสถานที่สวยๆ แล้วก็มีสิ่งที่ชอบคล้ายๆ กัน เช่น สีสันหรือลวดลาย”

คอนเซปต์ Based on True Stories จึงเกิดขึ้นตั้งแต่วันนั้น และก็เช่นเดียวกับภาพยนตร์ที่จั่วหัวด้วยข้อความเดียวกันทั้งหลาย แม้ภาพวาดของทั้งสองจะตั้งต้นจากสิ่งที่มีอยู่จริงแต่ก็ถูกเติมแต่งด้วยองค์ประกอบอื่นๆ จนออกมาเป็นภาพวาดที่แขวนเรียงราย ให้ผู้มาชมได้ทายสนุกๆ ว่าองค์ประกอบไหนบ้างที่เกิดขึ้นจริง และสิ่งไหนที่ถูกเติมเข้าไปให้เต็ม

True Stories และสีจัดจ้านคือจุดร่วมอันแน่นหนาที่ร้อยเรียงงานของ Juli Baker และ Jaruwat เข้าไว้ด้วยกัน แต่นอกจากองค์ประกอบเหล่านั้นแล้ว ทั้งคู่ก็ส่ายหน้ายืนยันว่าตัวตนของพวกเขาไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ตั้งแต่สถานที่ที่ชอบ ข้าวของที่ใช้ ไปจนถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่เข้ามากระทบใจ

แต่งานของทั้งคู่จะแตกต่างเหมือนกันอย่างไร เราอยากชวนให้มาเดินดูในนิทรรศการด้วยตัวเอง


6 ภาพวาดจากเรื่องจริงที่ Juli Baker และ Jaruwat อยากแนะนำ

01 Summer in Paris, 2018
by Juli Baker and Summer

“รูปนี้คือซีนที่เรากำลังถ่ายรูปแม่ที่ปารีส ตอนแรกเราวาดแล้วมันเหมือนเกินไป เรารู้สึกว่ามันไม่สวยเราก็เลยทิ้งไว้ก่อนแล้วไปวาดภาพอื่น พอวาดรูปนั้นเสร็จเราหันมาเห็นรูปนี้ก็รู้ว่าเราจะใส่สีชมพูเข้าไป เพราะเราชอบแบ็กกราวนด์ข้างหลังแล้ว พอเอากลับมาทำใหม่เป็นแบบนี้ ใส่กรอบรูปแบบที่เราไม่เคยใส่เข้าไปเราก็ชอบ มันแปลกใหม่ดีสำหรับเรา

“ภาพบางชิ้นของเราในนิทรรศการนี้ก็จะหยาบขึ้น ปกติเราจะใส่รายละเอียดลงไปมากกว่านี้ ส่วนวิธีการวาดเราใจเย็นลง ไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องรีบทำให้เสร็จ เราเลยได้ทดลองงานแบบแปลกๆ ที่เราไม่เคยวาด จริงๆ ภาพที่ใส่รายละเอียดเรายังชอบอยู่นะ เราไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนตัวเอง เราแค่ลองทำอย่างอื่นบ้าง ทำที่เราแฮปปี้ ยังไงงานมันก็เป็นเราอยู่แล้ว”


02 Red Flowers
by Jaruwat

“เราชอบรูปนี้เพราะว่าช่วงที่วาดเรากำลังตัน ไม่รู้จะวาดอะไร ก็เลยลงบีทีเอสแถวๆ สะพานตากสิน แล้วก็เดินเล่นจากเจริญกรุงช่วงท้ายๆ หลงไปเรื่อย จนไปเจอร้านอาหารไทยแถวสาทรใต้ เข้าไปแล้วก็โอ้โห เห็นสีน้ำเงินแบบนี้เลย แต่ผนังไม่ใช่สีแดงนะ พอเห็นสีน้ำเงินแบบนี้เราก็รู้สึกว่าต้องวาดร้านนี้แล้ว ระหว่างนั่งรอผัดไทย เราก็สเกตช์ฉึบฉับๆ จนเสร็จ แล้วก็เติมดอกไม้ เติมแจกัน แก้สีให้ถูกจริต มันง่าย แต่มันเกิดขึ้นแบบปะทะเราดี

“ส่วนมากงานที่เห็นมักจะมาจากสเกตช์ที่เราวาดในที่ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะไปทำงาน เราชอบเดินเล่นไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมาย เราคิดว่ามันคงเป็นความสบายใจ แต่เราไม่ชอบวาดร้านที่สวยๆ เพราะเรารู้สึกว่ามันเสร็จไปแล้ว อย่างพวกคาเฟ่ที่เปิดช่วงหลังๆ มานี้เขาก็จัดมาซะสวยเลย มีต้นไม้ ดอกไม้ ไฟนีออน มันเสร็จไปแล้วอะ เราชอบนั่งร้านที่มันเก่าๆ ง่ายๆ มากกว่า”


03 René
by Juli Baker and Summer

“รูปที่เราวาดเป็นเรื่องที่เราเจอมา เช่น ตอนไปเที่ยว หรือในชีวิตประจำวัน อย่างรูปนี้ที่เราชอบมาจากซีนตอนเรากำลังเดินเล่นที่โรม อิตาลี คือตรงแถบเมืองเก่า ใกล้ๆ โคลอสเซียมมันจะมีต้นไม้เป็นพุ่มใหญ่ๆ เหมือนงานของ René Magritte ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าแบบช่วงซัมเมอร์ แล้วอยู่ดีๆ กล้องฟิล์มเราก็ถ่ายเอง กลายเป็นรูปหน้าเราแบบนี้พอดี เราก็เลยเอามาวาด”

“จริงๆ  เราไม่ได้วาดภาพเหมือนแบบเรียลลิสติกนะ บางอันเราก็แต่งเติมเข้าไป ไม่ได้มีอยู่จริง หรืออย่างคนที่อยู่ในรูปก็ไม่มีตัวตน เป็นใครก็ไม่รู้เหมือนกัน แม้แต่รูปที่วาดจากภาพที่กล้องเผลอถ่ายเราก็เป็นใครไม่รู้ ไม่ใช่เรา เราเลยมักจะตั้งชื่อให้ตัวละครในรูปเล่นๆ อย่างรูปนี้เราเรียกว่า Yayoi (หัวเราะ)”


04 Asia Hotel Lounge
by Jaruwat

“ชิ้นนี้เป็นรูปเพื่อนเราในโรงแรมเอเชีย วันนั้นเราไปดื่มค็อกเทลกันแล้วมันก็ทำท่านี้ เราก็เลยสเกตช์ไว้ แค่นั้นเลย สบายมาก สเกตช์ก็ไม่มีสีอะไรเลย เราเลยจดไว้ว่าตรงไหนสีออะไร แล้วเราก็วาดแก้วที่บ้านเราเติมเข้าไป เติมหมวกเรา เปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงแบบที่เราชอบ เปลี่ยนสีเสื้อ แต่ทั้งหมดมันก็คือเพื่อนเราในคืนวันนั้น มันง่ายแล้วมันก็เป็นส่วนตัว แต่อย่างว่า งานเราส่วนใหญ่ก็เป็นงานที่เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว

“คืนนั้น พอดื่มเสร็จเราจำได้ว่าเราเมานิดๆ ก็เลยร้องเพลงเกาหลีแล้วก็เต้นไปจนถึงทางออกหน้าโรงแรม แหกปากร้องจนถึงหอเพื่อน แล้วก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน มันง่ายๆ อะ พอเราอยู่กับเพื่อนที่เราสบายใจด้วยเราก็ทำอะไรก็ได้”


05 & 06 Juli Baker and Jaruwat
by Jaruwat and Juli Baker

ป่าน : สองรูปนี้เป็นรูปที่พี่เตววาดป่าน ป่านวาดพี่เตว ซึ่งเราจะแลกกัน

เตว : ซึ่งมันก็ยังอยู่ในคอนเซปต์ Based on True Stories นะ เพราะในรูปเราไปกินข้าวกันที่ร้านโถพลู ที่จตุจักร

ป่าน : ของป่านก็เป็นร้านโถพลูเหมือนกัน มัน มันเป็นร้านอาหารที่ป่านกินตั้งแต่เด็ก แต่ป่านเปลี่ยนสีเลยไม่เหมือน เราไม่ได้นัดกันด้วยนะว่าจะวาดรูปร้านนี้ อาจจะเพราะเป็นร้านล่าสุดที่ไปกินด้วยกันก่อนวาดภาพ

เตว : แต่ท่าที่ป่านโพสต์เรามาสเกตช์ที่นี่นะ

ป่าน : เราโพสต์ให้พี่เตว เลียนแบบท่าในภาพของ Matisse

เตว : แค่นั้นเลย งานไม่มีเบื้องหลังซับซ้อน ไม่มีการเมือง (หัวเราะ)

นิทรรศการ Based on True Stories by Jujli Baker and Jaruwat จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม – 23 กันยายน ที่ Yelo House ในงานมีรูปภาพจัดแสดงอีกมาก ใครชอบงานสีสันจัดจ้านไม่ควรพลาด

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

ช่างภาพนิตยสาร a day ที่เพิ่งมีพ็อกเก็ตบุ๊กเล่มใหม่ชื่อ view • finder ออกไปเจอบอลติก ซื้อสิ ไปซื้อ เฮ่!