เมืองไทยไม่มีหิมะ
ไม่ต้องให้กรมอุตุนิยมวิทยาหรือตำราเล่มไหนมาบอก ทุกคนก็คงรู้กัน เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องแสงแดดและอากาศร้อน แถมยังมีอุณหภูมิที่แทบจะไม่ต่างกันตลอดทั้งปี อย่าว่าแต่หิมะ เพราะแค่ถ้าไม่มีห้องแอร์ เสื้อกันหนาวที่มีก็คงแขวนอยู่เฉยๆ ในตู้จนหยากไย่แทบขึ้น
เพราะอย่างนี้ ทันทีที่เห็นภาพวาดสีน้ำทิวทัศน์เมืองไทยที่แสนคุ้นเคยแต่กลับปกคลุมไปด้วยหิมะ เราจึงรู้สึกตื่นตาตื่นใจ สนุกกับการจินตนาการตามและนั่งมองรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ที่ยืนผิงไออุ่นจากกองไฟเพื่อคลายหนาว แก๊งน้องหมาหน้าร้านสะดวกซื้อในเสื้อกันหนาวสีสดใส ร้านกาแฟรถเข็นที่ขายดิบขายดีเพราะมีเครื่องดื่มอุ่นๆ พร้อมเสิร์ฟ ร่มสองสีที่เห็นบ่อยในตลาดถูกปกคลุมด้วยหิมะ ฯลฯ จนเราสงสัยว่าใครกันที่เป็นคนวาดภาพเหล่านี้ขึ้นมา
เมื่อลองสืบหา เราก็พบว่าภาพเหล่านี้มีชื่อคอลเลกชั่นว่า Snowy Bangkok เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทชื่อกวนไม่แพ้ภาพ นั่นคือ Bangkok Snow Removal หรือ บริษัทกำจัดหิมะในกรุงเทพฯ โดยมี Dr. Tim Cornwall เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของไอเดียตั้งต้น ก่อนจะได้ศิลปินสีน้ำอย่าง Caroline Seiller มาช่วยถ่ายทอดไอเดียให้ออกมาเป็นภาพวาด
เพราะอยากรู้จักให้มากขึ้นว่า Bangkok Snow Removal เป็นใครมาจากไหน เบื้องหลังภาพวาดแปลกตานี้คืออะไร ทำไมบอกจะกำจัดหิมะ แต่ดันเอาหิมะมาเติมเสียเอง เราจึงนัดคุยกันกับทิม และส่งอีเมลคุยกับแคโรไลน์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย
ช่วยแนะนำตัวกับผู้อ่านหน่อย
ทิม : ผมชื่อทิม คอร์นวอลล์ มาจากเมืองออตตาวา แม้ไม่ได้เป็นเมืองที่เย็นที่สุดแต่ก็เป็นเมืองที่มีหิมะเยอะที่สุดเมืองหนึ่งในแคนาดา ผมไม่ชอบอากาศหนาวเท่าไหร่เลยย้ายไปสอนหนังสือที่ญี่ปุ่น ก่อนจะบินมาที่ไทย ตอนนั้นเป็นช่วงก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งพอดี ถึงตอนนี้เราก็ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมาแล้ว 2 ครั้ง, รัฐประหาร 2 ครั้ง, น้ำท่วมใหญ่ แล้วก็ประท้วงต่างๆ ผมอยู่ที่นี่มา 21 ปี ประเทศไทยน่าตื่นเต้นมาก คาดเดาอะไรไม่ได้เลย
ตอนนี้ผมทำอะไรหลายอย่าง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ จัดอบรมการพูด เป็นสมาชิกสโมสรโรตารี แล้วก็แน่นอนว่าทำ Bangkok Snow Removal ด้วย
แคโรไลน์ : ฉันชื่อแคโรไลน์ เซย์แยร์ เป็นจิตรกรและนักวาดภาพประกอบ มาจากปารีสค่ะ ที่นั่นไม่ได้มีหิมะมากนัก แต่ก็ชอบไปเล่นสกีที่เทือกเขาแอลป์ในหน้าหนาว เคยอยู่เมืองไทยเป็นเวลา 5 ปี แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่เมืองมาร์แซย์กับสามีและลูก 2 คน
Bangkok Snow Removal ตั้งต้นมาจากไหน
ทิม : ผมเห็นว่าในกรุงเทพฯ จะมีธุรกิจที่เปิดขึ้นมา เช่น นวดแผนไทย ขนมปัง บะหมี่ พอบูม รายได้ดี จากนั้นอีกหกเดือนต่อมาก็จะมีธุรกิจประเภทเดียวกันเกิดขึ้นมาอีก 500 แห่ง แล้วทุกคนก็จะพากันปิดตัว ก่อนจะมีอย่างอื่นเข้ามาบูมแทน ผมกับเพื่อนเลยนั่งคิดกันว่าจะมีอะไรในกรุงเทพฯ ที่ทำแล้วจะไม่มีวันโดนก๊อบปี้บ้าง เลยคิดขึ้นมาว่า บริษัทกำจัดหิมะไง เพื่อนก็บอกว่าไอเดียดี
แต่ประเทศไทยไม่มีหิมะนะ
ทิม : แปลว่าธุรกิจเราทำหน้าที่ได้ดีนะ เราไม่เคยโดนใครร้องเรียนว่าเราทำหน้าที่บกพร่องเลยตั้งแต่เปิดบริษัทมา
แล้วในเวลาหิมะไม่ตกคุณทำอะไร
ทิม : เราพยายามทำสิ่งที่คนน่าจะชอบ ดึงดูดให้คนสนใจ ตอนแรกสุดเราพยายามทำใบประกาศนียบัตรสวยๆ เหมือนอย่างใบหุ้น (stock certificate) สมัยก่อน มีปั๊มนูน แต่มันก็ขายได้ไม่ดีเท่าไหร่เลยเปลี่ยนมาทำเสื้อยืดออกงาน แต่ก็ยังไม่ค่อยมีคนสนใจ
แล้วไอเดียภาพวาดกรุงเทพฯ ที่มีหิมะมาจากไหน
ทิม : ตอนนั้นผมทำงานอยู่ในออฟฟิศ มีพนักงานแผนกกราฟิกคนหนึ่งแปะภาพถ่ายสมาคมสโมสรอังกฤษ กรุงเทพฯ (The British Club Bangkok) ที่รีทัชหิมะมาปกคลุม นั่นเป็นช่วง 12 ปีก่อน เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเหมือนทุกวันนี้ มันเลยทำให้ผมประทับใจและเก็บไอเดียไว้มาตลอด หลังจากนั้นผมไปเจอกับศิลปินชาวไทยที่ขายโปสต์การ์ดใบละ 10 บาทที่บันไดเลื่อนรถไฟฟ้าหมอชิต เลยขอให้เขาลองมาวาดสถานีรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ แต่ละสถานีให้ เป็นภาพทิวทัศน์ปกติภาพหนึ่ง ภาพที่มีหิมะตกอีกภาพหนึ่ง แล้วเราก็เอามาทำของ เช่นโปสต์การ์ด ปฏิทิน เสื้อยืด กระเป๋า แต่ไม่นานเขาก็ไปเรียนต่อ เราจึงได้แคโรไลน์มารับช่วงต่อแทน
ทั้งสองคนรู้จักกันได้อย่างไร
ทิม : มีเพื่อนรู้ว่าผมกำลังมองหาศิลปิน เลยแนะนำให้เรารู้จักกัน ตอนนั้นแคโรไลน์อาศัยอยู่ที่นี่ เราเลยได้ร่วมงานกัน ผมชอบสไตล์งานของเธอมาก
แคโรไลน์ : ตอนแรกที่ได้ยินไอเดียของทิมที่ใส่หิมะลงไปในเมืองก็รู้สึกว่ามันประหลาดมาก แต่ก็ขำ แล้วก็รู้สึกว่ามันก็แปลกใหม่ดี ฉันชอบที่คอนเซปต์มันไม่เหมือนทั่วไป
ทำงานร่วมกันอย่างไร
ทิม : ผมจะบอกเธอว่าอยากได้องค์ประกอบอะไร อยากเห็นอะไรในภาพ ที่เหลือก็ปล่อยให้แคโรไลน์วาดได้ตามใจชอบเลย เช่น ผมอยากได้รถเข็นผลไม้ที่เห็นผลไม้ในตู้ชัดๆ อยากได้วินมอเตอร์ไซค์ อยากได้ร้านดอกไม้ เป็นต้น ส่วนแคโรไลน์ก็วาดเด็กๆ กำลังเล่นกวาดแขนให้เป็น snow angel
แคโรไลน์ : ทิมจะให้ไอเดีย จินตนาการว่าถ้าหิมะตกในกรุงเทพฯ จะเป็นอย่างไร อย่างรถตุ๊กๆ ที่มีล้อแบบรถสโนว์โมบิล อันนี้จะเป็นไอเดียทิม บางอย่างก็เกิดจากการคุยไอเดียกัน เราทั้งสองคนต่างก็เห็นด้วยว่าต้องมีหมาใส่เสื้อกันหนาว เพราะมันเป็นอะไรที่ไทยมาก พอคุยกันเสร็จฉันก็จะตีความต่อ ใส่องค์ประกอบต่างๆ หรือเลือกวาดสถานที่ที่ฉันชอบในกรุงเทพฯ
ในฐานะศิลปิน ภาพไหนคือภาพที่คุณชอบมากที่สุด
แคโรไลน์ : ฉันชอบภาพเรือในแม่น้ำ เพราะมันมีความผูกพันส่วนตัว ฉันชอบนั่งเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเสมอเพราะมันทำให้จิตใจผ่อนคลาย ฉันก็เลยพยายามจะถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาในภาพวาดและการใช้สีด้วยค่ะ
ในภาพต่อๆ ไป อยากใส่อะไรลงไปบ้าง
ทิม : เราคุยกันว่าจะวาดคนขายลอตเตอรี่ แล้วก็อาจจะวาดสถานที่ที่นักท่องเที่ยวรู้จักให้มากขึ้น เช่น พระพรหมที่เอราวัณ เพราะภาพที่มีเป็นภาพที่คนในกรุงเทพฯ คุ้นเคย แต่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ได้เห็น
มาอยู่ไทยนานแบบนี้ คุณคิดถึงหิมะของจริงไหม
ทิม : ไม่ค่อยคิดถึงหรอก สำหรับคนวัยผมการต้องตักหิมะออกจากทางเดินนี่ทำให้ถึงตายได้เลยนะ ผมอายุ 65 ไม่ได้ดูแลรูปร่าง สูบบุหรี่ด้วย มันเหมือนกับการต้องยกกระเป๋าเดินทางน้ำหนัก 10 กิโลกรัมแล้วก็วาง ยกแล้วก็วางอยู่เป็นชั่วโมงๆ เลย
แล้วถ้าหิมะตกเมืองไทยเข้าจริง คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทิม : เอาแค่เวลาฝนตก คุณก็เห็นอุบัติเหตุบนถนนแล้วใช่ไหมล่ะ ทั่วไปเวลาหิมะตกก็ขับรถไม่ยากหรอก แค่ห้ามขับเร็ว แต่จะมีสิ่งที่อันตรายคือน้ำแข็งสีดำ คือคุณจะมองเห็นถนนเหมือนปกติทั้งที่จริงๆ มันมีน้ำแข็งเคลือบอยู่ ถ้าเจอเข้าก็จะสูญเสียการควบคุมรถไปเลย เกิดอุบัติเหตุแน่นอน
แต่ข้อดีก็มีนะ คือคนจะใส่ใจกันและกันมากขึ้น เพราะในวันหิมะตก ถ้าอยู่นอกบ้านหรือหลงทาง อาจเสียชีวิตได้ ที่แคนาดาเราจะไม่ปล่อยให้ใครเดินกลับบ้านคนเดียว ถ้าเราขับรถแล้วเห็นรถจอดอยู่ ก็จะหยุดเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในรถ
ถึงตอนนั้นบริษัทคุณมีมาตรการกำจัดหิมะอย่างไรบ้าง
ทิม : ตอน Bangkok Snow Removal เปิดช่วงแรกๆ ก็เคยมีคนถามเหมือนกัน คำตอบคือผมจะใช้วิธีการแบบญี่ปุ่น คือต่อท่อน้ำร้อนไปตามถนนแล้วฉีดละลายน้ำแข็งตามถนน แต่ไม่ต้องห่วงนะ เพราะถ้ากรุงเทพฯ หิมะตกขึ้นมา แป๊บเดียวก็น่าจะหยุดแล้ว