สืบเนื่องจากอาทิตย์ก่อนๆ เราบินลัดฟ้าตามวง Plastic Plastic ทัวร์คอนเสิร์ตต่างแดนครั้งแรกของพวกเขาไกลถึงโตเกียว (ถ้ายังไม่ได้อ่าน จิ้มตรงนี้จ้า) ความพิเศษของทัวร์ครั้งนี้คือเราได้ บอล–ต่อพงศ์ จันทบุบผา มือกีตาร์รุ่นใหญ่จากวง Scrubb ผู้บริหารค่าย What the Duck ต้นสังกัดของวงสองพี่น้องให้เกียรติเป็นไกด์พาตะลุยโตเกียวด้วยตัวเขาเอง
ตลอดสิบกว่าปีที่โลดแล่นในวงการดนตรี บอลมีประเทศญี่ปุ่นเป็นเหมือนที่พักกายพักใจจากการงาน เจ้าตัวจึงช่ำชองและคุ้นชินกับสถานที่และย่านต่างๆ ในโตเกียว ชนิดที่ว่าเดินเล่นในชิบูย่าแบบไม่ต้องใช้ google map ก็ทำได้ คนรอบตัวเขาว่ามาอย่างนั้น
สิ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดห้าหกวันที่นู่นคือ บอลเป็นเจ้าพ่อแห่งการช้อปปิ้ง ไหนๆ ก็มีโอกาสเป็นลูกทัวร์ของเขาทั้งที เราลิสต์ 5 ร้านไฮไลต์ที่เขาแวะมาเก็บไอเทมทุกครั้งเมื่อมาโตเกียว
จะมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านเครื่องดนตรี และร้านอาหารน่าสนใจร้านไหนบ้าง ผูกเชือกรองเท้าให้แน่นแล้วเดินตามมาเลย
REGATTE
category : หมวกแฮนด์เมด
location : Harajuku
นอกจากนักร้องนำคู่หูจะใส่หมวกหรือไม่ก็ผูกผ้าจนเป็นลุคที่เราชินตาแล้ว บอลเองก็ชอบใส่หมวกเหมือนกัน พักหลังๆ เราเห็นบอลสวมหมวกทรง fisher boy อยู่แทบตลอด (ตอนขึ้นปก a day 213 ฉบับ Scrubb เจ้าตัวก็ใส่) หลายๆ ใบมีที่มาที่ไปจากร้านหมวกแฮนด์เมดที่เรายืนอยู่ด้านหน้านี้
“เราเจอร้านนี้โดยบังเอิญ เดินเข้ามาดูครั้งแรกก็ชอบนะ แต่ก็ยังไม่กล้าซื้อทันทีเพราะคิดว่าแบรนด์อื่น ร้านอื่นๆ น่าจะมีทรงนี้ขายเหมือนกัน ปรากฏว่าเดินไปเจอแบรนด์อื่นเขาก็ทำทรงนี้จริงนะ แต่พอหยิบดูแล้วยังไงก็ไม่สวยเท่า เนื้อผ้าคนละแบบและราคาก็แพงกว่ามาก
“ไม่มีแบรนด์ไหนทำหมวกทรงนี้ออกมาได้เหมือนเขา ก็เลยตัดสินใจกลับมาเดินหาร้านนี้อีกตอนกลับมาโตเกียวอีกครั้งหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นเวลามาโตเกียวทีไรเราจะแวะมาดูหมวกของร้านนี้เสมอ จริงๆ ราคามันก็ไม่ได้ถูกมาก แถมแบรนด์นี้ไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ดัง แต่ถ้าเทียบกับดีไซน์และคุณภาพที่ได้ เราว่าหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วล่ะ”
ECHIGOYA MUSIC
category : ร้านซินทิไซเซอร์และเครื่องอัดเสียงมือสอง
location : Shinjuku (เยื้องกับ Tower Records)
“มาโตเกียวถ้าไม่แวะร้านแฟชั่นเราก็แวะแค่ร้านเครื่องดนตรีนี่แหละ” คนในทริปพยักหน้าหงึกหงัก เพราะหนึ่งสัปดาห์ที่เราอยู่ที่นี่ ไม่มีวันไหนที่บอลไม่แวะไปร้านขายเครื่องดนตรี
เมื่อหนุ่มสาวชาวนิปปอนฟอร์มวงดนตรีเป็นงานอดิเรก ด้วยจำนวนประชากรที่เยอะสุดๆ ไม่แปลกเลยที่อัตราการซื้อ-ขายเครื่องดนตรีก็เลยเยอะตาม ไม่ว่าจะเดินไปย่านไหนเราจะเจอร้านขายเครื่องดนตรีได้ไม่ยาก
“ร้านขายเครื่องดนตรีมือหนึ่งในโตเกียวมีเยอะมาก แต่เราจะชอบไปร้านที่เป็นมือสองเพราะยังไงราคาก็ถูกกว่าซื้อมือหนึ่งแน่ๆ อีกเหตุผลคือมีตัวเลือกเยอะกว่า บางที่ก็มีของหายาก อย่างเช่นอันนี้ (ชี้ไปยังแผงอุปกรณ์เอฟเฟกต์แผงใหญ่เบิ้ม) นักดนตรีมาเห็นนี่ตาลุกวาวแน่ๆ”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินวนรอบร้าน สำรวจหาเครื่องไม้เครื่องมือที่อาจจะนำไปใช้ในการบันทึกเสียงเพลงสำหรับศิลปินที่เขาดูแลอยู่หรือไม่ก็เก็บไว้ใช้กับวงตัวเอง ความรู้สึกของนักดนตรีที่อยู่ในร้านเครื่องดนตรีคงเหมือนกับการได้อยู่ท่ามกลางขุมทรัพย์ที่มีทั้งของมีค่าและของเล่นน่าสนุกยังไงยังงั้น
Tonkotsu Ramen Hakata Furyu
category : ราเมนกันตาย
location : Shibuya
หลังจากเดินช้อปกระหน่ำทั้งวัน บอลพาเราแวะร้านราเมนที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นของเขาแนะนำให้รู้จักเมื่อหลายปีก่อน จนวันนี้กลายเป็นร้านราเมนเจ้าประจำไปแล้ว เหตุผลที่เจ้าตัวชอบร้านนี้เอามากๆ คือ เป็นร้านราเมนที่คนญี่ปุ่นทานกันจริงๆ
“ร้านนี้เป็นร้านราเมนทงคตสึ (ราเมนที่ราดด้วยน้ำซุปเข้มข้นที่เคี่ยวจากกระดูกหมู) ต้นตำรับมาจากฟูกูโอกะ เป็นร้านราเมนธรรมดาๆ ที่คนไทยไม่รู้จักแน่ๆ เราชอบแวะมากินเพราะว่ามันอร่อยจริงๆ เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยคือต้องใส่พริกแห้งและกระเทียมที่เขามีให้บนโต๊ะลงไปด้วย รสชาติมันจะถูกปากคนไทยมากขึ้น”
B JIRUSHI YOSHIDA
category : กระเป๋า
location : Daikanyama
เรื่องมีอยู่ว่าแบรนด์ไลฟ์สไตล์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่นที่บอลชอบเอามากๆ อีกแบรนด์หนึ่งก็คือ BEAMS ซึ่งไม่นานมานี้ BEAMS ได้ทำแบรนด์คอลแลปกับเจ้าของแบรนด์ PORTER และใช้ชื่อแบรนด์คอลแลปว่า B JIRUSHI YOSHIDA
“จริงๆ เราชอบกระเป๋ามาก มีคนแนะนำว่ามาที่นี่ก็ต้องซื้อกระเป๋า PORTER พอมาดูแล้วก็ชอบได้กระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ทำงานก่อน มาอีกครั้งก็ได้เป้อีกใบ พอได้ยินว่า BEAMS กับ PORTER คอลแลปกันเราเลยสนใจมาก เพราะ BEAMS เขาทำดีไซน์เท่อยู่แล้ว ส่วน PORTER ก็คุณภาพการตัดเย็บดีมากๆ จากกระเป๋าทำงานธรรมดาก็ดูมีไลฟ์สไตล์วัยรุ่นขึ้นมาหน่อย ใส่ไปเที่ยวก็ได้ ใส่ไปทำงานก็ดูเท่ไม่เบา”
SENSE OF PLACE by URBAN RESEARCH
category : เสื้อผ้าแฟชั่น
location : Harajuku
ใครที่มาช้อปที่ญี่ปุ่นบ่อยๆ เราเชื่อว่าน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับแบรนด์แฟชั่น URBAN RESEARCH จากโอซาก้ากันเป็นอย่างดี SENSE OF PLACE คือแบรนด์ลูกที่ขยับขยายออกมา แถมมีสาขาทั่วญี่ปุ่นราวๆ 40 สาขา สาขาที่หนุ่มมือกีตาร์พาเรามาเยือนวันนี้คือสาขาฮาราจูกุ
“เราว่าเสื้อผ้าร้านนี้ดีไซน์และคัตติ้งสวยมากเลย ราคาไม่แพงมาก เสียดายที่เขาไม่เข้ามาขายที่เมืองไทยเพราะงั้นมาโตเกียวทีไรเราจะแวะมาที่นี่แล้วก็ได้เสื้อผ้าใหม่ติดตัวกลับไปเสมอ ดูอย่างเสื้อยืดตัวนี้ (กางเสื้อยืดสีดำแขนสามส่วน) มันจะมีดีไซน์บางอย่างที่ทำให้รู้ว่า เออ มันไม่ใช่เสื้อยืดธรรมดานะ แขนมันต่างจากชาวบ้าน ดูเผินๆ เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่เรียบๆ แต่มันมีกิมมิก มีดีไซน์เล็กๆ น้อยๆ ที่คนชอบแต่งตัวจะสนุกกับมัน”
เห็นจำนวนเสื้อผ้าที่ขาช้อปคนนี้ถืออยู่ในมือคงเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขาปลื้มปริ่มห้วงเวลานี้มากขนาดไหน
