Season : สีสันใหม่ของ Scrubb ในวันที่ไม่ยึดติดความสำเร็จจากอัลบั้มก่อน

ศิลปินแต่ละคนหรือวงมีความถนัดต่างกัน บางคนชอบทำงานใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ละอัลบั้มไม่ซ้ำแนวกันเลย บางคนก็ไม่ได้ทำอะไรใหม่มาก แต่ก็เอาอยู่ทุกครั้ง

Scrubb เป็นศิลปินแบบหลัง เมื่อฟังเพลงใน ‘Season’ อัลบั้มล่าสุดครบทุกเพลง เราย้อนนึกถึงเพลงแรกของสครับบที่เคยฟัง และค้นพบว่าเพลงของสครับบอยู่ในทุกช่วงชีวิตของเรา ตลอดเวลา 18 ปีบนเส้นทางดนตรี พวกเขาเดินทางและเติบโตไปพร้อมกับคนฟัง เช่นเดียวกับอัลบั้มล่าสุดหลังจากห่างหายไป 5 ปี

‘Season’ อัลบั้มชุดที่ 7 คือการเติบโตขึ้นอีกขั้นของพวกเขาที่กล้าคิดและกล้าทดลองทำอะไรใหม่ๆ โดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จจากเพลงก่อนๆ จนเกินไป เราชอบชื่ออัลบั้มนี้ที่มีเสียงคล้องจองกับคำว่า ‘สีสัน’ เพราะหลังจากที่ได้ฟังเพลงในอัลบั้มแล้ว ทุกเพลงต่างเต็มไปด้วยสีสันที่หลากหลายจริงๆ

เราได้กลิ่นอายที่แปลกไปจากอัลบั้มก่อนๆ โดยเฉพาะในส่วนของดนตรีที่แม้ ฟั่น-โกมล บุญเพียรผล อาจจะไม่ได้ลงมาคลุกคลีเต็มตัวหรือช่วยขึ้นเพลงเหมือนอัลบั้มก่อนๆ แต่ได้ ปกป้อง จิตดี จาก Gym and Swim และ Plastic Plastic มาช่วยเป็น Co-producer ต่อยอดและปั้นไอเดียให้เป็นรูปเป็นร่างอีกที อัลบั้มนี้จึงลดความสดใสและคลีนลงไป แต่เพิ่มกลิ่นของ new age ฟุ้งอยู่เบาๆ แต่ละเพลงมีการใช้ดนตรีซินธิไซเซอร์เข้ามาช่วยเยอะขึ้น เราคนฟังอาจจะไม่คุ้นบ้างในทีแรก แต่ถือเป็นการเลือกวิธีเล่าเรื่องที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะทันสมัยแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศของฤดูต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

น่าแปลกที่แม้ว่าดนตรีในอัลบั้มนี้จะมีความใหม่ แต่พอเอามาประกอบรวมกับเอกลักษณ์ด้านเนื้อเพลงที่ใช้คำเรียบง่ายแต่มีความหมายกินใจแล้วกลับเข้ากันดี เหมือนคู่สีตรงข้ามที่กลมกล่อม ให้ความรู้สึก feel good และคงความเป็นสครับบได้ แต่เป็นสครับบที่มีมุมมองโตขึ้นจากเดิมและมีชั้นเชิงมากขึ้น ยังคงความกล้าคิด กล้าลอง ทำให้เราสนุกและเพลินไปการเล่าเรื่องของพวกเขาได้เสมอ

ความน่าสนใจของอัลบั้มนี้อีกอย่างคือ บอลและเมื่อยชวนพี่น้องในวงการเพลงมากมายมาช่วยกันเติมเต็มสีสันในฤดูกาลต่างๆ เช่น ต๊อบ-ธัชพล ชีวะปริยางบูรณ์ (ชนุดม) ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม (Zeal) ปู๋ว-ปิยวัฒน์ มีเครือ (25 hours) วิน-ศิริวงศ์ (Sqweez Animal) ทอย-ธันวา บุญสูงเนิน (The Toys) แถมยังเรียงเพลงตามฤดูกาลที่หมุนเวียนจริงๆ ทั้ง ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูหนาว เวลาที่เปิดฟังรวดเดียวจบ เลยให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟังเพื่อนสักคนอ่านไดอารี่ให้ฟังหลังจากที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน

และนี่คือบางส่วนของเรื่องราวที่เพื่อนคนนั้นเล่าให้เราฟังล่ะ


ดวงตะวัน (Sunny Day)

“แม้โลกทั้งใบนั้น จะไม่มีดาว

แสงดวงตะวันอาจ ไม่มีความหมาย

และแม้โลกทั้งใบนี้จะไม่มีใคร

ให้เธอมองกลับมาฉันนั้นจะยืนข้างเธอ”

เพลงนี้เป็นเพลงที่มี วิน ศิริวงศ์ จาก Sqweez Animal มาร่วมเสริมความอบอุ่นและสดใสของฤดูร้อน และมีปู๋ว ปิยวัฒน์ มีเครือ (25 hours) กับ ทอย ธันวา บุญสูงเนิน (The Toys) มาช่วยกันเล่าเรื่องในพาร์ตของเนื้อร้อง มีฉากหลังเป็นเสียงเบสที่เล่นวนซ้ำเหมือนการเคลื่อนตัวของพระอาทิตย์ เพิ่มสีสันและรายละเอียดด้วยเสียงกีตาร์ ซินธิไซเซอร์ เพลงนี้บอกเรากับว่า ไม่ว่าต้องเจออะไร ก็จะยังคงเป็นกำลังใจให้กันอยู่เสมอ แค่เพียงนึกถึงกัน ก็จะรับรู้ได้ว่ายังมีฉันที่อยู่ข้างๆ แค่ขึ้นท่อนแรกมา ก็ทำให้วันนั้นสดใสได้แล้วล่ะ


ฝน(Scrub)

“จะเป็นเรื่องฝนตกฟ้าเปิดร้ายดี ฉันว่ามันมีความหมาย

ทุกสิ่งทุกอย่างมากมาย พร้อมให้เราเจอะเจอ”

หลังจากปล่อยมิวสิควิดีโอไปเมื่อปลายปี 2016 เพลง ฝน เวอร์ชั่นในอัลบั้มเต็มมีการปรับโทนกีตาร์ ซินธิไซเซอร์เล็กน้อย คล้องกับคำว่า ฝึกฝน ที่ Scrubb ตั้งใจจะสื่อผ่านภาพการฝึกฝนชีวิตในฤดูกาลต่างๆ ภายใต้เสียงกีตาร์ที่เคล้ามากับเสียงเบสซึ่งเล่นเป็นจังหวะเหมือนเสียงฝนที่ตกลงมา เพลงนี้พูดถึงการออกไปเผชิญกับโลกที่อาจเจอทั้งร้ายและดี แต่เมื่อจับมือไปด้วยกันก็จะผ่านมันไปได้และได้พบกับมุมมองใหม่ๆ แน่นอน ปกติเวลาพูดถึงเพลงเกี่ยวกับฝน เราก็มักจะนึกถึงเพลงเศร้า แต่เพลงนี้กลับทำให้เรารู้สึกว่าจริงๆ แล้วฝนไม่ได้เศร้าขนาดนั้นเลย


Outro Ice

ความพิเศษของเพลงนี้คือเป็น Interlude ที่มีเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์บรรเลงสั้นๆ แต่งแต้มบรรยากาศของฤดูหนาวให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่มีเนื้อเพลงช่วยไกด์ แต่เรากลับมองเห็นและรู้สึกได้ถึงบรรยากาศของหน้าหนาวที่ทุกอย่างถูกหยุดนิ่งไว้…ในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ฤดูถัดไปจะมาถึง เพลงนี้เหมือนเป็นการพักสั้นๆ ก่อนที่จะเดินทางไปสู่เพลงของฤดูถัดไป


ยังอยู่ (Wind)

“อยากให้เธอฝันดี หากในวันที่เราไกลห่างกัน

เมื่อเธอได้มองดาวดวงนั้น ให้รู้ว่าฉันยังอยู่”

เพลงนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะค่อนข้างช้า ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นแนวเพลงแบบนี้จาก Scrubb แต่เมื่อลองเปิดใจและหลับตาลงฟัง จะรู้สึกได้ถึงความละมุนของเพลง ทั้งจากเสียงเครื่องเป่าที่ลอยมาเหมือนเสียงของสายลมพัดคลอมากับเสียงร้องประสาน เล่าถึงคนสองคนที่ต้องจากกันไกล เลยฝากข้อความไว้กับสายลมและดวงดาว แทนใจที่ยังคงอยู่ใกล้กันเสมอไม่ว่าระยะทางจะไกลแค่ไหนก็ตาม แม้จะเป็นแนวเพลงที่ไม่คุ้น แต่ Scrubb ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างดี ถือเป็นอีกหนึ่งเพลงในอัลบั้มนี้ที่น่าสนใจและชวนให้ทุกคนลองฟัง


ฤดู (Season)

“เธอไม่ต้องรู้หรอกเธอไม่ต้องเข้าใจ

แค่ลองมาเดินด้วยกัน ท่ามกลางฤดูที่มันเปลี่ยนไป”

เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม ดนตรีและจังหวะที่สดใสเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ Scrubb เนื้อหาของเพลงพูดถึงทุกฤดูที่ทำให้ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป บอกเราว่าทุกฤดูกาลที่ผ่านพ้นไปล้วนมีเรื่องเล่าและความสวยงามในแบบของมันและชวนเราออกไปสัมผัสแต่ละฤดูด้วยกัน นอกจากนี้ยังเป็นการเปรียบว่า ไม่ว่ากี่ฤดูจะผ่านไป แต่ใครบางคนก็ยังคงเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ Scrubb ที่ยังคงรักและเดินทางมากับดนตรีตลอด 18 ปีที่ผ่านมา เป็นบทสรุปที่ลงตัวและอิ่มใจของเรื่องเล่าในทุกฤดู

ภายใต้ความพยายามในการทดลองทำอะไรใหม่ๆ เรายังคงได้กลิ่นอายของความเป็นสครับบอย่างชัดเจน Season จึงเป็นอัลบั้มที่เล่าการเดินทางของสครับบทั้งการเติบโตของแนวดนตรีและเนื้อหาเพลง ที่ผ่านฤดูกาลบนเส้นทางดนตรีในช่วงตลอด 18 ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ชวนให้นึกถึงวันเวลาที่ผ่านกว่าจะมาเป็นสครับบในวันนี้ และชวนให้ติดตามว่าการเดินทางของพวกเขาในฤดูกาลข้างหน้าจะเป็นยังไงต่อไป แต่เราเชื่อว่าจะเป็นการเดินทางที่สนุกและน่าจดจำในทุกฤดูกาลแน่นอน

ภาพ ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ

AUTHOR