ช่วงสายของกลางเดือนกันยากับวันที่แดดอุ่นเรี่ยผิว ไม่ไกลจากซอยแฉล้มนิมิตร 2 บริเวณย่านถนนพระราม 3 เราเร่งฝีเท้าตรงไปยังตึกแถวพาณิชย์เพื่อพูดคุยกับครอบครัว ‘วิวัฒนะประเสริฐ’ เจ้าของแบรนด์ Aviva Spirit ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ ‘ตี่จู้ ศาลตายาย ศาลพระภูมิ’ ในรูปแบบเรียบหรู
ฝีเท้าหยุดกึกตรงหน้าตึกแถวพาณิชย์หลายชั้น จากชั้นล่างสุดระดับเสมอสายตาเรามองเห็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Aviva Spirit วางเรียงขนานไปกับออฟฟิศที่จัดสรรปันส่วนกันชัดเจน แล้วทายาทคนโตของครอบครัวรีบเดินมาเปิดประตูร้านต้อนรับด้วยสีหน้าเชื้อเชิญเป็นมิตร
อย่างที่รู้กัน ธุรกิจตี่จู้เอี๊ยะ-ศาลเจ้าของครอบครัววิวัฒนะประเสริฐเริ่มต้นจาก อาจารย์สุภชัย วิวัฒนะประเสริฐ เป็นผู้ก่อตั้ง ด้านภรรยาคือ ธนพร พิชญาจิตติพงษ์ บริการลูกค้าและฝ่ายขาย ส่วนแมค-ณัฐพงศ์ วิวัฒนะประเสริฐ ดูภาพรวมแบรนดิ้งและการตลาด พวกเขามีจุดยืนเรื่องการบริการลูกค้าด้วยหัวใจจนเป็นที่ยอมรับ และเชื่อว่าลูกค้าต้องเป็นที่หนึ่งพร้อมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ที่สำคัญยังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยภาพลักษณ์ดีไซน์ทันสมัย เห็นได้จากที่ Aviva Spirit เข้าร่วมจัดแสดงในงาน Creative Design and Showcase กับธีม ‘มูเตลู ฤกษ์งามยามดี’ ที่ TCDC กรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม นับเป็นเรื่องราวน่าสนใจอยู่มากทีเดียว
ครบรอบ 10 ปีของแบรนด์ Aviva เราชวนครอบครัววิวัฒนะประเสริฐย้อนคุยถึงเรื่องราวความเชื่อที่หลายคนคุ้นเคยอย่าง ตี่จู้เอี๊ยะ ศาลพระภูมิ ศาลตายาย กับการดีไซน์รูปลักษณ์ให้กลายเป็นของตกแต่งบ้าน อิงความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ย และอยู่ร่วมกับคนเมืองตามยุคสมัยได้อย่างสง่างาม
หมายเหตุ : ศาสตร์ ‘ฮวงจุ้ย’ กับการตั้งวางเจ้าที่ในอาคารบ้านเรือนขึ้นกับ ‘ความเชื่อส่วนบุคคล’
ฮวงจุ้ยและเจ้าที่ สองสิ่งนี้ ‘จำเป็น’ แค่ไหน
“คนไทยเชื้อสายจีนจะตั้งเจ้าที่กันเกือบหมด สะใภ้คนไทยที่แต่งเข้าบ้านคนจีนนั่นก็ใช่” คำพูดของธนพรระหว่างให้สัมภาษณ์ในช่วงหนึ่ง
“ถ้าคนจีนในประเทศไทยส่วนใหญ่ เน้นคำว่า ‘ส่วนใหญ่’ เขาจะนิยมตั้งตี่จู้กันทั้งนั้น แต่คนรุ่นใหม่ติดภาพลักษณ์ตรงสีมันเด่น เข้ากับดีไซน์บ้านยาก” อ.สุภชัยเสริม
“เพราะดีไซน์บ้านสมัยใหม่เป็นแบบเรียบง่าย โมเดิร์น หรือลอฟต์” แมคช่วยอธิบาย
เราพยักหน้าคล้อยตามกับที่มาของคำถามว่า ทำไมบ้านคนไทยเชื้อสายจีนจึงต้องมีตี่จู้เอี๊ยะหรือเจ้าที่
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ราวสี่ห้าขวบเราก็เห็นตี่จู้เรือนสีแดงวางตั้งหราอยู่กลางบ้านแล้ว ภาพที่แม่คอยถวายน้ำชา จุดธูปไหว้ จัดหาเครื่องไหว้ในวันสำคัญตามปฏิทินจีนเรายังพอจำมันได้ แต่ก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าทำไมที่บ้านต้องมีตี่จู้ คำตอบจากครอบครัววิวัฒนะประเสริฐในวันนั้นช่วยเปิดโลกได้ดี
พูดถึง ‘ตี่จู้’ นั่นคือ ‘เทพแห่งดิน’ หรือเจ้าที่ปกปักคุ้มครองอาคารบ้านเรือน เพราะคนจีนหรือคนไทยเชื่อกันว่าเจ้าที่มีอยู่ทุกแห่ง คนที่มีบ้าน มีร้านค้าจึงต้องหาหลักแหล่งเป็นที่เป็นทางให้เจ้าที่ได้อาศัย ตัวเรือนตี่จู้เลยเปรียบเป็นบ้านให้กับเจ้าที่ ถ้ามอบบ้านที่ดีแถมถูกหลักฮวงจุ้ย คล้ายเป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณที่ช่วยสอดส่องดูแลที่พักอาศัยให้กับเจ้าของ ง่ายๆ คือ ตี่จู้เอี๊ยะมีไว้สำหรับบูชาเจ้าที่ แต่ถ้าถามว่า หากบ้านใครไม่ตั้งตี่จู้-เจ้าที่จะเป็นไรหรือไม่ ครอบครัววิวัฒนะประเสริฐตอบตรงๆ ว่า ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว…ควรมีจะดีกว่า
อ.สุภชัยเล่าว่า ตี่จู้พัฒนาตัวเรือนมาเรื่อยๆ จากที่ใช้แค่กระป๋องนม ก็เริ่มกลายเป็นเรือนไม้หรือไม้สัก เรือนสีแดง และทุกวันนี้เป็นแบบมินิมัลหรือโมเดิร์น
ถัดมาคือ ‘ศาล’ ที่ตั้งบริเวณด้านนอกอาคาร ธนพรและอ.สุภชัยอธิบายโดยรวมว่า ศาลมีอยู่สองรูปแบบ คือศาลพระภูมิและศาลตายาย ศาลพระภูมิคือพระภูมิชัยมงคล (เทพชั้นสูง) ศาลตายายคือเจ้าที่ ซึ่งคนไทยนิยมวางศาลตายายก่อน หากมีบริเวณกว้างก็จะวางศาลพระภูมิด้วย
สำหรับการวางเจ้าที่ตามหลักฮวงจุ้ย อ.สุภชัยยกตัวอย่างตี่จู้ ถ้าตามหลักฮวงจุ้ยคือ ‘ไม่จำเป็น’ ต้องวางตี่จู้ให้ตรงกับประตูหน้าบ้านอย่างที่เคยเห็น หมายความว่าควรเน้นเรื่องการกำหนดขนาดพื้นที่หรือองศาของบ้านในการตั้งตี่จู้และตั้งศาลตามความเหมาะสมมากกว่า โดยตี่จู้ควรตั้งแนบสนิทกับผนังนิ่งทึบ ศาลพระภูมิ-ศาลตายายก็ไม่ควรมีกลิ่นเหม็นอับหรือมีสิ่งรบกวนในระยะหนึ่งถึงสองเมตรถึงจะดี
เชี่ยวชาญฮวงจุ้ยคืองานหลัก
เดิมที อ.สุภชัยจบคณะเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บินไปเรียนต่อปริญญาโท บริหารธุรกิจ (MBA) ที่สหรัฐฯ แล้วกลับมาสืบทอดกิจการค้าส่งสเตนเลส-ลวดเพลาที่บ้านเมื่อ 15 ปีก่อนจนปัจจุบัน
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ อ.สุภชัยกลายเป็นซินแสมืออาชีพ แม้ตอนแรกไม่เชื่อในศาสตร์ฮวงจุ้ยมากนักคงเป็นช่วงที่ได้ไปดูโครงการบ้านจัดสรรหลังแต่งงาน พนักงานเซลส์ที่เสนอขายโครงการบ้านแนะนำให้ดูฮวงจุ้ยบ้านกับซินแสท่านหนึ่ง ซินแสท่านนั้นมักเรียกกันในหมู่ลูกศิษย์ว่าปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ย นั่นคือ ‘อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์’ จากคำพูดของเซลส์ อ.สุภชัยเริ่มสะกิดใจแล้วเริ่มต้นเรียนศาสตร์ด้านฮวงจุ้ยกับอาจารย์เกรียงไกรอย่างจริงจัง อีกทั้งศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองจนได้เป็นผู้ช่วยสอนลูกศิษย์ของอาจารย์เกรียงไกร จากนั้นเริ่มเปิดเฟซบุ๊กเพจ ‘Fengshui Balance – ฮวงจุ้ย สมดุลแห่งธรรมชาติ’ ตามคำเรียกร้องของลูกศิษย์
ประสบการณ์กว่า 30 ปีกับอาชีพซินแส งานหลักของ อ.สุภชัยคือการจัดฮวงจุ้ยให้เหมาะสมกับพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านหรือโครงการต่างๆ เชื่อว่าจะช่วยเรื่องของโชคลาภหรือส่งเสริมบารมีแก่เจ้าของ นอกจากการจัดฮวงจุ้ยบ้านแล้ว เมื่อเดินทางไปดูดวงให้ลูกค้าครั้งไหนมักจะมีลูกค้าที่เข้ามาปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำเรื่องตี่จู้ที่ไม่ใช่ตัวเรือนสีแดง เพราะอาจไม่เหมาะกับบ้านหรืออาคารร้านค้าแนวโมเดิร์นอย่างปัจจุบัน เลยได้ทีปรึกษาอาจารย์เกรียงไกรและเริ่มวางแผนคิดค้นรูปลักษณ์ตี่จู้ขึ้นใหม่ ซึ่งต้องเข้าทางความเป็นโมเดิร์นลักชัวรี่และเข้ากันได้กับบ้านของคนรุ่นใหม่ด้วย
ความเชื่อกับโปรดักต์ที่ไม่ได้มาเล่นๆ
หลังรับคำปรึกษามาจากลูกค้า อ.สุภชัยก็ได้ลองวางโมเดลของเรือนตี่จู้ในรูปแบบโมเดิร์น ใช้เวลาปรับปรุงพัฒนาดีไซน์จนลงเอยด้วยวัสดุหินอ่อนที่ตรงตามคอนเซปต์ตี่จู้คือเทพแห่งดิน ในชื่อแบรนด์ ‘Aviva’ มาจากคำว่า ‘Viva’ ที่แปลว่า ชัยชนะ แต่เพิ่มพยัญชนะตัว ‘A’ นำหน้าดูเป็นลูกเล่นเมื่อเสิร์ชชื่อบนอินเทอร์เน็ตก็จะเจอเป็นอันดับต้นๆ นั่นเอง และ ‘Spirit’ ที่มาจาก ‘Spiritual’ แปลว่า จิตวิญญาณ รวมๆ แล้วแปลได้ว่า จิตวิญญาณแห่งชัยชนะ
Aviva Spirit เริ่มวางจำหน่ายโปรดักต์เมื่อปี 2555 พร้อมจดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรสำเร็จในปี 2562 แม้ในทีแรก การปลุกปั้นแบรนด์กับธนพรผู้เป็นภรรยานั้นไม่ง่าย เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นโปรดักต์ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเชื่อย่อมเข้าไปขัดกับความเชื่อเดิมของใครไม่ได้เสียทีเดียว แต่ อ.สุภชัยเลือกแนวทางต่อยอดธุรกิจโดยหาจุดศูนย์กลางของกันและกันที่ยึดหลักความเชื่อเดิมตามหลักฮวงจุ้ยไว้ จนมาช่วงหลัง อ.สุภชัยเริ่มวางมือจากแบรนด์ Aviva ไปบ้างเพราะงานรัดตัว แล้วเปิดทางให้ทายาทคนโตอย่างแมคเข้ามาช่วยสานกิจการแทน
แมคเรียนจบบริหารธุรกิจจากจุฬาฯ เคยทำงานที่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก ‘WoodDen’ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจกับรุ่นพี่ที่จุฬาฯ ได้เข้าไปเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร การวางกลยุทธ์สินค้า และกระบวนการทำงานตั้งแต่เพิ่งเริ่มกิจการจนขยับขยายขึ้น แต่ความที่ตัวเขาอยากเป็นผู้ประกอบการ ฝึกฝนการทำงานกับรุ่นพี่ราว 1 ปีก็ออกมาช่วยกิจการต่อที่บ้าน พอกลับมาเลยได้แรงบันดาลใจมาจาก WoodDen ว่าถ้ามองตี่จู้ไปไกลกว่านั้นก็น่าจะเป็นโปรดักต์ของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์หรือแบรนด์ Home Decoration ได้ ซึ่งเป็น Home Décor ที่ดึงเอาความเชื่อมาดีไซน์ให้เป็นโมเดิร์น แต่อุปสรรคอยู่ที่ ‘ความเชื่อ’ ของคนไทยแตกแขนงออกกว้าง ดังนั้น โจทย์มีอยู่ว่าจะทำอย่างไรได้บ้างกับโปรดักต์ที่มีอยู่ โดยหลักๆ คือเข้ามาพัฒนาเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย เพิ่มการดีไซน์แบรนดิ้งให้ดูมีเอกลักษณ์ขึ้น และเข้าไปปิดช่องโหว่ของ Business Development (โอกาสทางธุรกิจ) เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากที่สุด
กลับมาที่โปรดักต์ของ Aviva Spirit ออกแบบให้ดูแตกต่างจากตี่จู้หรือศาลเจ้าทั่วไปคือ หนึ่ง ใช้วัสดุหินอ่อนสังเคราะห์นำเข้าทั้งกับตัวเรือนตี่จู้และศาล ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าหินอ่อนตามธรรมชาติ ทนทานต่อการแตกหัก ตามหลักฮวงจุ้ยจะสื่อพลังได้ดีกว่าไม้ สอง ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับคนมีเวลาน้อย สาม ใช้ระบบไฟ LED สำหรับตัวเรือนจะกำหนดเวลาเปิด-ปิดประมาณ 8 ชั่วโมง ส่วนกระถางธูปไฟฟ้าใช้เวลา 18 นาทีไฟจะปิดเองโดยอัตโนมัติ เพื่อแก้ปัญหาไฟชอร์ต ขี้เถ้าธูปหกเกลื่อน สี่ ภาพลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายทันสมัยที่กลมกลืนและสมูทกับตัวบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้
ธนพรเล่าว่า เมื่อ 10 ปีก่อนโปรดักต์อย่างตี่จู้เอี๊ยะจะมีทั้งสีขาวและสีเบจ เริ่มต้นจาก 2 ไซส์คือ 18.5 นิ้ว และ 24 นิ้ว จนพัฒนาโปรดักต์เป็น 27 นิ้ว (รุ่นยอดนิยมของร้านทั้งสีขาวและสีเบจ) ต่อมาคือ 35 นิ้ว และไซส์ใหญ่สุดคือ 42 นิ้ว โดยพัฒนาไซส์ของเรือนตี่จู้ตามขนาดที่อยู่อาศัยของลูกค้า แล้วเริ่มผลิตโปรดักต์จากความต้องการของลูกค้าคือโต๊ะหรือตู้ครอบตี่จู้หินอ่อนเพื่อวางตี่จู้โดยลูกค้าไม่ต้องบิวด์-อินผนังบ้านเพิ่ม
ข้อสำคัญคือ สัดส่วนของตัวเรือนตี่จู้ใช้ความกว้าง ยาว สูงตรงตามหลักฮวงจุ้ยที่เรียกว่า ‘มิติหลู่ปัง’ ตรงกลางตัวเรือนมีคำว่า ‘ตี่ซิ้ง’ แปลว่า เจ้าที่ เขียนด้วยลายมือของอาจารย์เกรียงไกรที่ใช้แทนรูปหรือตุ๊กตาอากง ส่วนเสาไฟที่ตัวเรือนเป็นตัวอักษรจีนมงคลเรืองแสงทั้งสองด้าน เขียนแถวละ 5 ตัว จะมีเฉพาะตี่จู้รุ่น 27, 35 และ 42 นิ้ว
สิบปีที่ผ่านมา โปรดักต์ที่ขายดีที่สุดยกให้ ‘ตี่จู้เอี๊ยะ’ รองลงมาเป็นชุดเครื่องไหว้ทั้งสีทองและสีโรสโกลด์หลากรูปทรง และศาลพระภูมิกับศาลตายาย
แมคเล่าต่อว่า โปรดักต์ในอนาคตของ Aviva Spirit คือการทำหิ้งพระจากไม้สักพม่าที่เน้นรายละเอียดตามหลักสัดส่วนจริง คือความกว้าง ยาว สูง ให้ตกที่ตัวเลขมงคลตามหลักฮวงจุ้ย และดีไซน์ความเป็นโมเดิร์นให้เข้ากันได้กับทุกบ้านโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม รวมถึงตู้พระและเรือสำเภาแบบโมเดิร์น
เราชะโงกหน้าดูตัวอย่างโปรดักต์ซึ่งจะออกวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ นั่นคือหิ้งพระที่วางรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีออกโทนส้มน้ำตาล ส่วนตัวประหลาดใจเล็กน้อยเพราะคุ้นเคยกับเจ้าแม่กวนอิมองค์หยก แต่ธนพรและอ.สุภชัยอธิบายว่าบางองค์ก็เป็นเรือนหินอ่อน ไม้ เรซิ่น ฯลฯ “บางทีทำออกมาเป็น Toys and Decorations ก็มีนะ (หัวเราะ)” อ.สุภชัยเล่า
Aviva Spirit เปรียบลูกค้าเหมือนเพื่อน-ญาติพี่น้อง
ปัจจุบัน Aviva Spirit นอกจากมีฐานลูกค้าที่ไทยแล้ว ยังมีลูกค้าชาวสิงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา และญี่ปุ่น ครอบคลุมตั้งแต่เจ้าของบ้าน โชว์รูมรถหรู เวดดิ้งสตูดิโอช่างแต่งหน้ามือหนึ่งของไทย บล็อกเกอร์บิวตี้ชื่อดัง ดารานักแสดง ไปจนถึงร้านอาหาร คาเฟ่ เซเว่น-อีเลฟเว่น มินิมาร์ต แม้กระทั่งคลินิกเสริมความงาม
“เมื่อก่อนลูกค้า 80-90% จะเป็นเจ้าของบ้าน แต่ปัจจุบันเจ้าของบ้าน 60% อีก 40% คือร้านค้าอย่างออฟฟิศหรือโรงงาน ลูกค้าร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ก็เยอะ แต่แปลกใจตรงที่มีลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างคลินิกเสริมความงาม และล่าสุดร้านขายเครื่องสำอางก็เป็นลูกค้าเพิ่ม เราเลยมองว่าตลาดนี้มันขยายได้อีกเยอะ ต่อไปคงมองหาพาร์ตเนอร์หลายๆ พาร์ต เช่น สถาปนิก ซึ่งตอนนี้เราก็เป็นพาร์ตเนอร์ที่ดีกับ WoodDen หรือการมองหาดีลเลอร์ก็สำคัญ เพราะเราเจอปัญหาอย่างลูกค้าผู้สูงอายุที่อยู่ต่างจังหวัดอาจจะเดินทางมาดูสินค้าลำบาก ถ้าได้ดีลเลอร์ที่โอเคก็จะดีมาก” แมคแจงให้เห็นภาพ
“สำหรับเราที่ขายมาเป็นเวลาสิบปี เพราะเราวาง positioning ของแบรนด์ไว้ค่อนข้างสูง คอนเซปต์ของเราคือ ลูกค้าคือเพื่อน คือญาติ จะสอนลูกน้องทุกครั้งว่า การเตรียมงานก่อนส่งถึงมือลูกค้าทุกครั้งสินค้าต้องสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และต้องผ่านขั้นตอนการตรวจจากแม่ทุกจุด ทุกซอก ทุกมุม ในขั้นสุดท้ายจึงจะส่งให้ลูกค้าได้ เพราะถ้าเรือนตี่จู้บิ่นหรือแตกร้าวคนจีนจะถือว่าไม่เป็นมงคล พอวาง positioning แบบนี้ลูกค้าประมาณ 80% ก็กลับมาซื้อกับเรา อีกอย่างหนึ่งคิดว่าธุรกิจเติบโตไปได้เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในช่วงอายุ 35-45 ปีที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัวเขากลับมาซื้อซ้ำ” ธนพรเล่าอย่างภูมิใจ
“เราบอกลูกน้องกับลูกเสมอว่า ต้องดูแลลูกค้าให้เหมือนกันหมดทุกคน เพราะเชื่อเสมอว่าลูกค้าที่มาอุดหนุนเราเขาต้องเชื่อมั่นและไว้วางใจสินค้าเราแล้วจริงๆ ถ้าเราไม่มีลูกค้าก็ไม่สามารถมาไกลขนาดนี้ พวกเขาทำให้เราเดินต่อไปได้” ธนพรย้ำ
เหมือนกับต้นทุนธุรกิจแรกเริ่ม คือเน้นสินค้าคุณภาพ บริการด้วยหัวใจ ตอบโจทย์ความเชื่อความศรัทธา เน้นศาสตร์ฮวงจุ้ย เหล่านี้คือหัวใจสำคัญของ Aviva Spirit
ขอขอบคุณ : ครอบครัววิวัฒนะประเสริฐสำหรับข้อมูล
Aviva Spirit โทร. 08-1448-4648 (คุณธนพร)
ไลน์ > @avivaspirit (มี @ นำหน้า)
เฟซบุ๊ก > Aviva Spirit
อินสตาแกรม > @avivaspirit.th
และเว็บไซต์ > www.avivaspirit.com