ทดลองชิมบทสัมภาษณ์เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์ จาก a day 193

ใน a day 193 ฉบับ Fabric Issue คอลัมน์
a day with a view ของเราถูกจับจองพื้นที่โดยเปอร์-สุวิกรม
อัมระนันทน์ พิธีกรหนุ่มไฟแรงที่หลายคนชื่นชอบ ถ้าอยากรู้ว่าเราไปคุยอะไรกับเขาบ้าง
ด้านล่างนี้คือบทสัมภาษณ์ที่เราตัดตอนมาให้ทดลองอ่านกันเป็นน้ำจิ้ม


นอกจากบทบาทพิธีกรที่ใครหลายคนคุ้นเคยในหน้าจอโทรทัศน์
เราพบว่าเปอร์-สุวิกรม อัมระนันท์ เป็นคนหนุ่มที่ชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง
และมีพลังในการเรียนรู้อยู่ตลอด

เขาเป็นทั้งนักฝึกฝนและนักทดลองตัวยง

สารตั้งต้นของเขาคือ ชีวิต

หลายเรื่องในชีวิตของเขาเริ่มต้นด้วยการได้รับโอกาสที่ดี
แตไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่เคยสัมผัสช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนคนอื่น
เขายังต้องพิสูจน์ตัวตนด้วยผลงาน และใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์อยู่นานกว่าจะมาถึงวันนี้ได้

ตั้งแต่ผลงานแรกในภาพยนตร์เรียลิตี้
Final Score 365 วัน
ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์
เปอร์ก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีคนตามจีบไปทำงานด้วยอยู่ไม่ขาด
ชีวิตเขาโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตลอด

เขาลงมือทำหลายอย่างและทดลองเป็นคนหลายแบบ
ความเป็นเปอร์ที่เรารู้จักจึงไม่ได้มีแค่ด้านเดียว

ผลงานของเขาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น
อุตลุดจุดฝัน, หนึ่งวันเดียวกัน, เจาะใจ, The Idol จนมาถึงวันนี้ที่เขาทำรายการ Perspective
ของตัวเอง จุดร่วมที่เราสัมผัสได้คือ แรงบันดาลใจ

เมื่อชีวิตผ่านบทเรียนมากขึ้น
เขาเห็นคุณค่าของประสบการณ์และเชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นๆ
ได้เช่นกัน-ทุกวันนี้เขาก็ยังเชื่ออย่างนั้น

สิ่งที่เขากำลังเรียนรู้ในวัย 28 ปี
คือการทำบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ของตัวเอง หลังจากการนัดพบกันเราพบว่าตารางชีวิตของเขาแทบจะไม่เหลือช่องว่าง
แถมยังพ่วงด้วยการออกกองถ่ายรายการต่างจังหวัดเกือบทุกสัปดาห์

เมื่อชีวิตยุ่งจนไม่มีวันพัก
เราจึงได้พบกันในวันที่เขาป่วย

นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ a day และเขาโคจรมาพบกัน
แม้เวลาจะทำให้บุคลิกภายนอกของเขาดูเปลี่ยนไป
แต่แววตาที่สะท้อนออกมาจากภายในยังบอกกับเราว่าเขาเป็นคนเดิม

1

การนัดคนป่วยออกมานอกบ้านไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลยสักนิด
หากได้รู้ก่อนหน้าว่าคนที่อยู่ปลายสายอาการเป็นอย่างไร เราคงยกเลิกนัดในวันนี้
สัปดาห์ก่อนที่เรานัดหมายกันทางโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขายังฟังดูสดใสมากกว่านี้
แต่ด้วยภาระงานที่บีบคั้นพลังชีวิต ทำให้ร่างกายของเขาปรับตัวไม่ทันอย่างช่วยไม่ได้

เขาใช้ร่างกายหนักหน่วงแบบนี้เสมอ
เปอร์บอกกับเราอย่างนั้น

งานหลักของพิธีกรหนุ่มคือบริหารบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์
‘แบล็คดอท’ และงานพิธีกรที่เขายังไม่ทิ้ง ในหนึ่งวันเขามีคิวยาวตั้งแต่เช้ายันเย็น
ทั้งประชุมงาน คุยธุรกิจ ถ่ายรายการ และงานต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอยู่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
เขาพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าการทำธุรกิจไม่ใช่งานสบาย ลำพังรับงานพิธีกรอย่างเดียวชีวิตเขาก็ยุ่งมากพอแล้ว
เราสงสัยว่าผู้ชายคนนี้ทำงานหนักไปเพื่ออะไร

“การทำบริษัทของตัวเองเรากำหนดได้ว่าอยากให้มันเป็นแบบไหน
ดีไม่ดีมันก็คือตัวเราเองล้วนๆ ไม่ได้มีองค์ประกอบใดเข้ามาเกี่ยวข้อง
เราไม่อยากมีข้ออ้างให้กับตัวเองว่ามันไม่ดีเพราะคนอื่น”

ในวันที่เติบโตและสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น
เขาไม่รอให้ใครมายื่นโอกาสให้ แต่กลับสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง Perspective จึงเป็นรายการที่เขาทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง
เขายังสนุกกับการเรียนรู้และพบเจอสิ่งใหม่ๆ แต่อีกเหตุผลสำคัญคือ
อยากให้ประโยชน์กับคนดู

“จุดเริ่มต้นของรายการนี้มาจากอารมณ์ส่วนตัว
เราโชคดีมากที่ชีวิตเรามีโอกาสได้เจอคนเก่งๆ เยอะมาก
ทั้งในชีวิตที่เราอยู่หน้ากล้อง ในการทำงานหรือชีวิตที่อยู่นอกเหนือจากการทำงาน
เราพบเจอผู้คนที่ทำให้เราค้นพบตัวเองและทำให้เราเข้าใจชีวิตได้มากยิ่งขึ้น”

นอกจากคนที่ประสบความสำเร็จ
เขามักจะเจอคนที่หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้
ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย เขาจึงอยากสื่อสารให้คนเหล่านั้นได้เข้าใจในสิ่งที่เขาเข้าใจ
และมองหาวิธีการที่ทำให้คทั้งสองแบบได้มาพบกัน

โทรทัศน์จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุด

“เราพยายามทบทวนกับตัวเองว่าทำไมเราถึงไม่เคยมีปัญหาเหล่านี้
ส่วนหนึ่งเพราะเราได้โอกาสที่ดีในชีวิตมากกว่าคนอื่น เราได้เจอคนเยอะ ได้ใช้ชีวิตที่หลากหลายมากกว่าที่คนอื่นได้ใช้ในช่วงวัยเดียวกัน
เราจึงค้นพบหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเหล่านั้นไม่ได้พบเจอ
เราอยากถ่ายทอดให้มันเหมือนกับการใช้ชีวิตของเรา
เพื่อให้คนอื่นได้เห็นเหมือนที่เราเห็นแค่นั้นเอง”

เขาหวังว่ารายการสร้างแรงบันดาลใจจะช่วยให้คนที่หลงทางได้พบแสงสว่างในชีวิต
หากคนดูได้ค้นพบหนทางและสามารถแก้ปัญหาในชีวิตได้
สิ่งนั้นก็นำมาซึ่งความสุขของตัวเขาเองเช่นกัน

อยากอ่านต่อแล้วใช่มั้ย? คลิกสั่งซื้อ a day 193 ได้ตรงนี้เลย : )

AUTHOR