ถ้าพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจในเรื่องดีไซน์ นอกเหนือไปจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ของเราแล้ว ก็อาจมองดูว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนัก หรืออาจมองว่าเป็นเรื่องความชอบของคนเฉพาะกลุ่ม แต่จริงๆ แล้วเฟอร์นิเจอร์สามารถบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรา ผ่านสิ่งของที่เราเลือกใช้ได้เช่นกัน
มีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อเมริกันแบรนด์หนึ่งจากแคลิฟอร์เนียที่นำเสนอไลฟ์สไตล์เฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ด้วยการทำงานในรูปแบบ Collaboration ร่วมกับศิลปินแขนงต่างๆ ทั้ง Contemporary Art, Modern Art หรือ Street Art รวมไปถึงแบรนด์แฟชั่นต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า แว่นตา แม้กระทั่งช่างสัก ด้วยการนำเสนอผ่านฟอร์มของ ‘เก้าอี้ไฟเบอร์กลาส’ แบรนด์ที่ว่าก็คือ Modernica
Modernica เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 โดยสองพี่น้อง Frank และ Jay Novak ในช่วงกระแสของ North American Modernism กำลังเติบโตและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการนำเสนอไลฟ์สไตล์และความโมเดิร์นในสไตล์แคลิฟอร์เนียให้คงอยู่ตลอดไป ด้วยดีไซน์ที่มีเส้นสายสะอาดและเรียบง่าย วัสดุคุณภาพสูงที่มีความทนทาน มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสม เข้าถึงได้ง่าย และยังเป็นบริษัทอเมริกันเจ้าแรกๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ช่วงกลางศตวรรษ (Mid-Century) กลับมาทำใหม่อีกครั้งในแบบฉบับของตัวเอง
สิ่งที่ทำให้ Modernica เป็นที่รู้จักในวงกว้างคือการที่บริษัทถือครองเครื่องอัดโมลและขึ้นรูปทรงเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสที่เคยถูกใช้งานโดยบริษัท Zenith Plastics ซึ่งเคยผลิตเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสให้กับดีไซเนอร์ชาวอเมริกันชื่อดัง Charles Eames ภายใต้แบรนด์ Herman Miller ตั้งแต่ปี 1948 โดยเครื่องอัดโมลและขึ้นรูปทรงเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสดังกล่าว ณ ปัจจุบันมีอยู่เพียงเครื่องเดียวในโลกเท่านั้น และที่ผ่านมาก็เคยผลิตเก้าอี้ Eames Chair ภายใต้ชื่อแบรนด์ Herman Miller มามากกว่าแสนตัว จนกระทั่ง Herman Miller ยกเลิกสายการผลิตเก้าอี้ในตระกูล Eames ดังกล่าวในช่วงปลายยุค 80s และเครื่องดังกล่าวได้ตกมาอยู่ในมือของ Frank และ Jay ณ โรงงานของ Modernica นี่เอง
ภายในพื้นที่ 5 เอเคอร์ของ Modernica ใน L.A. ประกอบไปด้วยโรงงานที่แยกประเภทของสินค้าภายใต้แบรนด์อย่างชัดเจน สินค้าต่างๆ ของ Modernica ก็คือบรรดาเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านที่มีกลิ่นอายของความเป็นโมเดิร์นแคลิฟอร์เนียอย่างชัดเจน โดยสินค้ามีมากมายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นงานไม้อย่างโต๊ะ เก้าอี้ประเภทต่างๆ ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ ตู้เก็บของและชั้นวางของ โคมไฟและเครื่องใช้ประเภทอื่นๆ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ พวกนี้ยังผลิตในรูปแบบ one by one นอกจากนั้นยังมีงานเซรามิกประเภทต่างๆ ภายใต้ชื่อ Case Study และสิ่งที่สร้างชื่อให้ Modernica มากที่สุดก็คือเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสรุ่น Side Shell Chair
สำหรับเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสรุ่น Side Shell Chair นั้น ทาง Modernica นำกลับมาผลิตใหม่ในปี 2000 หลังจากที่ Frank และ Jay ได้เครื่องอัดโมลดังกล่าวมาครอบครอง โดยทั้งคู่พยายามรักษารูปแบบในการผลิตเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสดังกล่าวให้ใกล้เคียงต้นแบบดั้งเดิมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัตถุดิบดั้งเดิมจากโรงงาน Century Plastics ที่เคยผลิตเก้าอี้ดังกล่าวมาก่อน นอกจากนั้นยังควบคุมการผลิตทุกขั้นตอนด้วยฝีมือของ Sol Fingerhut และ Irv Green ซึ่งเป็นพนักงานดั้งเดิมยุคแรกจาก 60 ปีที่แล้วมาควบคุมและเทรนพนักงานของ Modernica ในการคืนชีพเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสรุ่นนี้ด้วยเทคโนโลยีดั้งเดิมที่มีความใกล้เคียงกับต้นฉบับให้มากที่สุด
ความพิเศษของเก้าอี้ไฟเบอร์กลาส Side Shell Chair ของ Modernica ที่แตกต่างจากต้นฉบับของ Herman Miller คือการที่ Modernica ใส่ลูกเล่นในการออกแบบเก้าอี้เพิ่มเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นสีสันต่างๆ หรือการใส่ลวดลายเข้าไปในเนื้อไฟเบอร์กลาส นอกเหนือไปจากสีเรียบๆ แบบทั่วไปที่มีอยู่แล้ว ทำให้เก้าอี้ไฟเบอร์กลาสของ Modernica นั้นมีความแฟนซีและโมเดิร์นเข้าถึงได้ง่าย
Modernica เลือกทำงานกับศิลปินและแบรนด์ต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะบรรดาศิลปินและแบรนด์ในโลกของ Street Art และ Street Culture ในการสร้างสรรค์เก้าอี้ไฟเบอร์กลาส Side Shell Chair ในรูปแบบของตนเอง ซึ่งเป็นไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่พยายามเดินออกจากกรอบการออกแบบเดิมๆ ทั้งในส่วนของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีมุมมองที่แตกต่างออกไปโดยการสร้างโปรดักต์ดังกล่าวให้กลายเป็นของสะสมที่น่าสนใจ (Collectible Item) และส่วนของแฟชั่น ศิลปะ ที่หลุดพ้นจากกรอบเดิมในฟอร์มของรูปแบบการนำเสนอที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีศิลปินและแบรนด์ต่างๆ มาร่วมงานกันอย่างมากมาย อาทิ
A Bathing Ape
แบรนด์ streetwear ชื่อดังจากญี่ปุ่น A Bathing Ape ที่พวกเรารู้จักกันดี ถือว่าเป็นแบรนด์ streetwear แบรนด์แรกที่ทำงานร่วมกันกับ Modernica และเป็นพาร์ตเนอร์ที่ทำงานร่วมกันมามากมายหลายต่อหลายครั้ง ซึ่ง Nigo ในสมัยที่ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ BAPE ถือได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกในการนำเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเบลนด์อยู่ในโลกของ Street Culture โดยทำงานร่วมกับ Modernica ครั้งแรกในปี 2009 ด้วยการออกแบบเก้าอี้รุ่น Side Shell ที่นำเอาลาย BAPE Camo ที่เป็นไอคอนสำคัญของแบรนด์มาใช้บนเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสโดยมีทั้งหมด 3 สี 3 ลายและผลิตเพียงลายละ 100 ตัวเท่านั้น
ต่อมาในปี 2010 ทาง Nigo ทำงานร่วมกับแบรนด์ในเครือ Modernica ที่ชื่อ Case Study Shop โดยร่วมออกแบบและวางจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายในงานนิทรรศการที่ชื่อว่า BAPE Study Exhibition จัดขึ้นที่ร้าน BAPE สาขาเกียวโต และออกแบบเก้าอี้ Side Shell ลาย Multicolor Camo 2 สีและนาฬิกาแขวนผนังสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ โดยสำหรับเก้าอี้ยุคแรกของ BAPE ในปี 2009 และ 2010 นั้น ได้กลายมาเป็นหนึ่งในไอเทมของสะสมหายากที่เป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลกไปแล้ว
ในปี 2012 BAPE และ Modernica ออกเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชั่นพิเศษร่วมกันอีกครั้ง โดยเลือกใช้เก้าอี้รุ่น Side Shell พร้อมกับลายแพตเทิร์น Ballpen Camo ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 3 สี นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งไอเทมสำคัญซึ่งก็คือโต๊ะ Coffee Table ที่เป็นโต๊ะไม้รูปโลโก้หัวลิงของ BAPE ที่ผลิตขึ้นมาเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น และกลายมาเป็นอีกหนึ่งไอเทมสะสมที่ถือได้ว่าหายากมากๆ ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้
ต่อมาในปี 2016 BAPE และ Modernica กลับมาอีกครั้งกับเก้าอี้รุ่น Side Shell ที่นำเอาลาย BAPE Camo ที่เคยใช้บนเวอร์ชั่น 2009 กลับมาอีกครั้ง แต่เปลี่ยนไปเป็นพิมพ์ลายด้านหน้าเก้าอี้ โดยมีเพียงแค่สีเขียวเพียงสีเดียว และวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่งาน Complex Con เท่านั้น ถัดมาอีก 3 ปีให้หลัง ในปี 2019 ทาง BAPE ก็ออกคอลเลกชั่นพิเศษร่วมกับ Modernica อีกครั้งในช่วงต้นปี BAPE ออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของร้านสาขา L.A. โดยเป็นคอลเลกชั่นเก้าอี้และโต๊ะวางของที่พิมพ์ลาย BAPE Camo ที่ออกแบบมาเฉพาะและวางขายที่ร้านเท่านั้น ก่อนที่ช่วงปลายปีจะออกคอลเลกชั่นไอเทมประเภทเดียวกัน แต่พิมพ์ลาย BAPE Camo ของเมืองนิวยอร์ก เนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของร้านสาขาดังกล่าว
Futura
Legendary Graffiti Artist ชื่อดังจากนิวยอร์ก Futura มี Collaboration ร่วมกับ Modernica ต่างๆ มากมาย เริ่มจากเก้าอี้รุ่น Side Shell ในปี 2018 ที่นำเอาลายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Futura มาใช้บนตัวเก้าอี้ และทำงานร่วมกันกับ Alchemist Art Café ในปี 2019 ในการออกแบบเก้าอี้ Side Shell สำหรับ Pop-up Café ดังกล่าวในช่วงงาน Art Basel ที่ Miami และปี 2020 ล่าสุดที่ออกแบบ Home Collection ที่มีทั้งโซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของและกระถางต้นไม้ โดยรายได้จากการขายคอลเลกชั่นมอบให้องค์กรการกุศลเพื่อสนับสนุนเยาวชน Free Arts NYC โดยไม่หักค่าใช้จ่าย
Takashi Murakami
Contemporary Artist ชื่อดังจากญี่ปุ่น Takashi Murakami มี Collaboration ร่วมกับ Modernica และนิตยสาร Complex สำหรับงาน Complex Con ด้วยกัน 3 ครั้ง โดยออกแบบเก้าอี้ Shell Chair ครั้งแรกในปี 2017 เนื่องในงาน Solo Exhibition ของเจ้าตัวที่ชื่อ The Octopus Eats Its Own Leg ที่จัดขึ้นที่ Museum of Contemporary Art Chicago และออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษต่อมาในปี 2018 ที่มีทั้งโซฟา โต๊ะ และเก้าอี้ Shell Chair สำหรับงาน Complex Con 2018 และล่าสุดเมื่อปี 2019 ที่เจ้าตัวออกแบบคอลเลกชั่นพิเศษสำหรับงาน Complex Con 2019 ที่ประกอบไปด้วยเก้าอี้ Side Shell Chair เซต จำนวน 3 ตัวและโต๊ะขนาดเล็ก โดยจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว
Keith Haring / Jean-Michel Basquiat by Artestar
ในปี 2018 Modernica ทำงานร่วมกับ Keith Haring Foundation และ Estate of Jean-Michel Basquiat ภายใต้การดูแลของ Artestar เป็น Art Agency ที่มีลิขสิทธิ์ของศิลปินชื่อดังอยู่มากมาย ด้วยการนำเอาผลงานจากฝีมือของศิลปินอเมริกันชื่อดังผู้ล่วงลับในยุค 90s อย่าง Keith Haring และ Jean-Michel Basquait มาอยู่บนเก้าอี้ยอดนิยมรุ่น Side Shell
Other Collaborations
Modernica ยังมี Collaboration อื่นๆ อีกมากมายกับศิลปินและแบรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละแบรนด์ที่มาทำงานร่วมกับ Modernica ก็นำเสนอความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเก้าอี้ไฟเบอร์กลาสรุ่น Side Shell ที่กลายไปเป็นแคนวาสให้พวกเขาได้ละเลงความเป็นตัวตนของตัวเองลงไป
Modernica พยายามนำเสนอภาพลักษณ์หัวก้าวหน้าของเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบใหม่ ที่รวมเอาโลกของโมเดิร์นเฟอร์นิเจอร์และโลกของศิลปะและแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอด้วยรูปแบบใหม่ผ่านฟอร์มเก้าอี้ทรงคลาสสิกตั้งแต่ปี 1948 ที่ถูกนำกลับมาชุบชีวิตอีกครั้ง โดยเป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นไอคอนสำคัญและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมความสดใหม่และโมเดิร์นในสไตล์ของตนเอง กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ของสะสมที่ไม่ได้ไกลตัวพวกเราจนเกินไปอีกแล้ว