5 ร้านกิน-ดื่มย่านวัชรพลที่เติมรสชาติให้ชีวิตได้ไม่แพ้ใจกลางเมือง

Highlights

  • เพราะแม้จะเป็นเขตที่อยู่อาศัยแต่ 'วัชรพล' ก็มีขุมทรัพย์ทางอาหารซุกซ่อนตัวอยู่ไม่น้อย เราจึงอาสาพาซอกแซกไปใช้ชีวิตให้ครบรส
  • ตามไปคาเฟ่นั่งชิลล์ กินพิซซ่าต้นตำรับจากอิตาเลียน แวะจิบ specialty coffee และทานขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสไปพร้อมกันเลย

ใครบอกกันว่าคนเราจะต้องเข้าไปใจกลางเมืองเพื่อตามหาความบันเทิงครบรส สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารอร่อยๆ เสมอไป

เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปตะลุยย่านวัชรพล ซึ่งแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยทำเลทองเพราะไม่พลุกพล่านวุ่นวายนัก แต่ที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยความบันเทิงครบทุกรสชาติ แถมยังเดินทางข้ามไปย่านนู้นย่านนี้ได้สะดวกเพราะอยู่ติดกับทางด่วนเพียงแค่ 5 นาที

หากอยากได้ร้านสำหรับนั่งทำงานเก๋ๆ เราก็มีให้ ร้านอาหารสำหรับทานข้าวกับครอบครัวเราก็มีมาฝาก หรือจะเป็นร้านสำหรับแฮงเอาต์กับเพื่อนฝูงเราก็มีมาแนะนำ

ถ้าพร้อมไปตะลุยด้วยกันแล้วก็ออกเดินทางเลย

01

Stitch & Hammer Cafe 

เริ่มร้านแรกที่ Stitch & Hammer Cafe ร้านแถบรามอินทราที่แม้จะอยู่ห่างออกมาจากวัชรพลสักนิด แต่หากเทียบเวลาเดินทางแล้วก็ยังสามารถพูดได้อยู่ว่าแป๊บเดียวถึง

คาเฟ่แห่งนี้ก่อตั้งโดย อุ้ม–กรพินธ์ ธีระโกเมน หญิงสาวที่มีอีกบทบาทหนึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์กระเป๋าหนังชื่อ Korapinbag เมื่อเห็นโอกาสเหมาะสม เธอจึงคิดทำสตูดิโอไว้ทำงานไปพร้อมๆ กับเปิดคาเฟ่ด้านล่าง คาเฟ่แห่งนี้จึงเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร เพราะตกแต่งไปด้วยอุปกรณ์สำหรับทำงานเครื่องหนัง และบางครั้งเจ้าของร้านอย่างอุ้มก็หอบหิ้วกระเป๋าลงมาตอกด้านล่าง คล้ายเป็นสถานที่ให้ลูกค้าได้มาชมงานกระเป๋า และพูดคุยกับเธอได้จริงๆ

ไม่ใช่แค่เก๋ไก๋อย่างเดียว อาหารการกินที่นี่ก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีเมนูให้พนักงานออฟฟิศได้เติมพลังกันก่อนเริ่มงาน ทั้งกาแฟ น้ำผลไม้ ขนมรองท้องอย่างเค้กกล้วยหอม (ที่จนตอนนี้เราก็ยังติดอกติดใจในรสชาติ) หรือหากอยากทานแบบอิ่มท้อง ที่นี่ก็มีสปาเกตตี อะโวคาโดโทสต์ และ BLT พร้อมเสิร์ฟอยู่เช่นกัน

อุ้มบอกอีกว่าเพราะเธอชอบวัตถุดิบจากธรรมชาติ เลยพยายามจะหาส่วนประกอบจากธรรมชาติต่างๆ มาดัดแปลง จากที่เมนูน้ำหรือกาแฟต้องใส่น้ำเชื่อม เธอก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นน้ำผึ้งแทน หรืออย่างน้ำสลัด เธอก็คิดค้นสูตรขึ้นมาใหม่โดยใช้เป็นน้ำหมักน้ำมันมะพร้าวซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่า

 

Hours : วันอังคาร-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8:00-18:00 น. วันเสาร์-จันทร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00-18:00 น.

Facebook : Stitch & Hammer Cafe


 

02

Plantation Cafe x Roastery 

เพียงได้เห็นว่าคาเฟ่จากโรงงานทอผ้าเก่าแห่งนี้ซุกซ่อนตัวอยู่ในสวนสไตล์อังกฤษและรายรอบไปด้วยความร่มรื่น เราก็สามารถพูดได้เลยว่าที่นี่คงเป็นแหล่งชุบชูใจให้คนย่านนี้ได้ดีแน่ๆ 

เพราะนอกจากคาเฟ่และโรงคั่วของ จี๊ป–พันธ์เทพ เกษมศรี ณ อยุธยา จะมีดีที่บรรยากาศ การตกแต่งที่ตั้งใจเก็บองค์ประกอบเดิมของอาคารไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งผนังอิฐเปลือย สังกะสี และท่อต่างๆ ซึ่งเข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์ก็ดึงดูดสายตาไม่แพ้กัน แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่ดีงามไม่เป็นสองรองใครเลยคืออาหารและเครื่องดื่ม

เจ้าของร้านหนุ่มบอกว่าเขาชอบดื่มกาแฟมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ได้เข้าเมืองเมื่อไหร่ก็ต้องหาร้านกาแฟนั่งอ่านหนังสือ หาร้านอาหารอร่อยๆ ทานอยู่ตลอด แต่เพราะร้านคาเฟ่ส่วนใหญ่มักมีดีแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือหากมีเครื่องดื่มอร่อย รสชาติอาหารก็อาจจะไม่เด่น หรือหากอยากทานขนมเพิ่มบางร้านก็จะไม่มีให้บริการ ทำให้ต้องไปหาร้านอร่อยร้านอื่นทานต่อ 

เมื่อมีโอกาสได้ทำร้านนี้ จี๊ปจึงตั้งใจอยากให้ที่นี่เป็นเหมือนคาเฟ่ที่มาที่เดียวแล้วจบ สามารถทานได้ครบทุกอย่าง ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม

เมนูส่วนใหญ่ของที่นี่เป็น all-day brunch เป็นเมนูทานง่ายที่จี๊ปลงมือทำบ่อยๆ สมัยเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ อย่างสปาเกตตี โทสต์ ซุป และสลัดต่างๆ แต่หากใครอยากจัดมื้อหนัก ที่นี่ก็มีสเต็กคอยให้บริการอยู่เช่นกัน

และชื่อร้านก็บอกอยู่ว่าเป็น Cafe x Roastery หากมาถึงที่นี่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราแนะนำและบอกได้เลยว่าห้ามพลาดคือ กาแฟพิเศษหลากชนิดจากทั้งไทยและต่างประเทศที่จี๊ปคัดสรรมาให้ลูกค้าได้ลองชิม เกชาที่ว่าหาทานยากจี๊ปก็มีให้ลิ้มรส หรือหากใครชิมแล้วติดใจ ที่นี่ก็มีเมล็ดกาแฟคั่วเองให้เลือกซื้อกลับไปชงเองที่บ้านได้ด้วย

“กาแฟ espresso based ที่ร้านเราก็จะเปลี่ยนเมล็ดไปเรื่อยๆ ด้วย แล้วแต่ว่าช่วงนั้นเรามีเมล็ดอะไรเข้ามา เพราะกาแฟเป็นสินค้าทางการเกษตร มีฤดูกาลของมัน เราเลยพยายามนำเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุดในแต่ละช่วงมาสับเปลี่ยนให้ลูกค้าได้ทาน” จี๊ปทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

 

Hours : วันอังคาร-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00-19:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00-20:00 น.

Facebook :  Plantation Cafe x Roastery


 

03

Granda Pizza Livio

ขับรถต่อมาอีกนิดจะเจอกับร้านอาหารอิตาเลียนโดยคนอิตาเลียนแท้ๆ อย่าง Granda Pizza Livio ร้านพิซซ่าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ เหมาะจะเป็นร้านอาหารไว้ทานกับครอบครัว 

เมื่อมาถึง Livio Boetti เจ้าของร้านต้อนรับเราอย่างเป็นกันเอง บอกเล่าเรื่องราวของร้านให้ฟัง พร้อมทั้งแนะนำเมนูยอดฮิตที่ครองใจใครหลายคน

“พิซซ่าของที่นี่จะบางกรอบ เป็นสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่เราทำกินกันในครอบครัว โดยหน้าที่ลูกค้าสั่งกันเยอะคือหน้าเห็ดทรัฟเฟิลและแกรนดาพิซซ่า ราวิโอลีเราก็ทำแบบโฮมเมด ซอสจะเข้มข้น หอมชีส ส่วนหอยแมลงภู่เราก็นำเข้ามาจากฝรั่งเศส สด อร่อยมาก” เพราะลีวิโอพูดคำว่าอร่อยหลายหน เราจึงยอมจำนน สั่งอาหารตามที่เขาแนะนำแทบจะทุกอย่าง ก่อนจะขออนุญาตเจ้าของร้านไปแอบดูวิธีการทำพิซซ่ากันถึงหลังครัว

พิซซ่าของที่นี่ทำสดใหม่ ตั้งแต่กระบวนการนวดและการปั้นแป้งให้เป็นแผ่นกลม ก่อนจะนำเข้าอบในเตาถ่านร้อนๆ เมื่อสุกกำลังดีก็เอาออกมาตกแต่งให้น่ากินพร้อมเสิร์ฟ แน่นอนว่ารสชาตินั้นเป็นไปตามคำโฆษณาของลีวิโอ และหลักฐานความอร่อยคงไม่ต้องพิสูจน์ที่ไหนไกล ดูได้จากลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาทานอยู่ตลอด และรีวิวจากหลายเว็บไซต์ที่การันตีว่านี่คือหนึ่งในร้านพิซซ่าต้นตำรับที่ควรมาลอง

ป.ล. อาหารที่นี่จานใหญ่อยู่เหมือนกัน แนะนำว่าให้ยกแก๊งมาทานจะได้อิ่มแบบกำลังพอดี  

 

Hours : วันอังคาร-ศุกร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 16:00-23:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 12:00-23:00 น.

Facebook :  Grandapizza


 

04

Moonne Kitchen & Studio

ใครเป็นสายขนมหวานคงคุ้นชื่อร้านนี้อยู่บ้าง เพราะก่อนจะมาตั้งตัวอยู่ที่โครงการเวนิส ดี ไอริส Moonne Kitchen & Studio เคยเปิดที่สยามพารากอนมาก่อน แน่นอนว่าถึงจะย้ายมาอยู่ย่านนี้ แต่ความอร่อยก็ยังคงเดิม เพิ่มเติมคือมีที่นั่งคอยให้บริการ เหมาะสำหรับนั่งทำงานชิลล์ๆ หรือพักทานขนมกรุบกริบในวันหยุดแบบไม่ต้องเข้าเมืองไปเผชิญรถติด

ยู้–ธารารัตน์ ปรคนธรรพ์ หนึ่งในเจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า ร้านนี้เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของเพื่อนร่วมสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลออีก 3 คนที่ต่างรับหน้าที่รังสรรค์อาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ในแบบที่ตัวเองชอบและถนัด

โดยหนึ่งในเมนูเด็ดของร้านที่เราอยากให้ลองทานกันจริงๆ คือ La Paris มูสช็อกโกแลตสีทอง ที่ด้านในประกอบไปด้วยเลเยอร์ของเนื้อเค้ก sacher, coffee creme brulee และ butter crumble ที่เข้ากันแบบพอดิบพอดี ไม่หวานจ๋อยและไม่เลี่ยนไป รสชาติดีจนเราขอกระซิบเตือนไว้สักนิดว่าหากสั่งมาทานต้องตั้งสติกันดีๆ เพราะตักชิมไปชิมมาอาจจะทานจนหมดชิ้นไปอย่างรวดเร็ว

และนอกจากจะมีขนมขายที่หน้าร้านแล้ว หากใครต้องการเค้กวันเกิดก็สามารถสั่งทำได้ และอีกไม่นานที่นี่ก็จะขยับขยาย เปิดพื้นที่ด้านบนสำหรับจัดเวิร์กช็อปสอนทำขนมด้วยล่ะ 

 

Hours : วันจันทร์-อังคาร เปิดให้บริการตั้งแต่ 13:30-19:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:30-20:00 น.

Facebook : Moonne   


 

05

Craft Beer Addict

อยากดื่มคราฟต์เบียร์ไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองแล้ว เพราะ Craft Beer Addict เปรียบเสมือนโอเอซิสย่านสายไหม-วัชรพลที่รวบรวมคราฟต์เบียร์หาทานยากมาให้คอเบียร์ได้ลิ้มลองกันจนหลายคนผันตัวเป็นลูกค้าประจำ

น้ำตาล–สุมิชญา สุวรรณศรี เจ้าของร้านเล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า เธอเป็นอดีตแอร์โฮสเตสที่มีใจรักในการดื่ม หากได้บินไปต่างประเทศเมื่อไหร่ก็มักจะเสาะแสวงหาคราฟต์เบียร์ของประเทศนั้นๆ มาลองชิมอยู่เป็นนิจ จนความชอบที่ว่าทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากงานแล้วชักชวนพี่ชายมาเปิดร้านคราฟต์เบียร์อย่างจริงจัง

“เราชอบกินคราฟต์เบียร์และอยากกินเบียร์ที่ไม่ได้มีวางขายทั่วไป พอมาทำร้านก็คุยกับพี่ชายว่างั้นเราจะไม่ขายเบียร์ตลาดเลยนะ ร้านเราเลยมีเบียร์ที่ส่วนใหญ่หากินที่อื่นไม่ได้วางขายอยู่” 

นอกจากตู้แช่เบียร์ของที่นี่จะเต็มไปด้วยคราฟต์เบียร์หลากสัญชาติ ทั้งอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน เวียดนาม นิวซีแลนด์ และอีกมากมาย ในรูปแบบกระป๋องและขวด รอให้คนมาจับจองแล้ว ที่นี่ก็ยังมีคราฟต์เบียร์สดคอยให้บริการออนแทปด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้หากใครไม่สันทัดเรื่องเบียร์ ไม่รู้จะสั่งอะไร น้ำตาลบอกว่าสามารถพูดคุยสอบถามกันได้ เธอและทีมงานทุกคนยินดีให้คำแนะนำ เพราะอยากให้ทุกคนได้ลิ้มรสชาติแบบที่ตัวเองชอบกันจริงๆ ซึ่งรับรองว่าจะเอนจอยมากขึ้นเมื่อทานคู่กับแกล้มรสมือแม่ของน้ำตาล พลางเล่นบอร์ดเกมสนุกๆ ที่ร้านมีให้บริการไปด้วยพร้อมกัน

 

Hours : เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17:00-00:00 น. 

Facebook : CraftBeerAddict-Beer&Bistro  

 

เรียกได้ว่าหากไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าทั้ง 5 ร้านที่เราแนะนำตั้งอยู่ที่วัชรพล เพราะด้วยรสชาติ บรรยากาศ และการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้ทางด่วน ก็ทำให้การตะลุยกินในครั้งนี้แทบไม่ต่างอะไรกับการไปตะลุยกินในเมืองจริงๆ เลย

และจริงๆ แล้วย่านวัชรพลก็ยังมีร้านน่านั่งให้ลัดเลาะไปชิมอีกเพียบ หากใครสนใจก็สามารถไปตามรอยและบุกเบิกเส้นทางใหม่กันได้

ส่วนใครที่กำลังมองหาบ้านในละแวกนี้ก็ไม่ต้องเข้าไปเสาะหาตามซอกซอย เพราะ AP มีโครงการบ้านที่สะดวกสบายต่อผู้อยู่อาศัยถึง 5 โครงการ เดินออกมาก็เจอถนนใหญ่ แถมยังเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายดาย มีทั้งรถไฟฟ้าสถานีสะพานใหม่และทางด่วนที่เชื่อมต่อเส้นลาดพร้าว-พระราม 9 เพียง 5 นาทีถึง

โดยแต่ละโครงการยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น โครงการ PLENO พหลโยธิน ที่โดดเด่นด้วยสระว่ายน้ำลอยฟ้าบนคลับเฮาส์ และสนามเด็กเล่นกว่า 3 ไร่ เริ่มต้นที่ 2.79 ล้าน

โครงการ GRANDE PLENO วัชรพล-สุขาภิบาล 5 พรีเมียมทาวน์โฮมแนวคิดใหม่ The Beginning of Perfection จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่เหนือกว่า ด้วยทำเลติดถนนใหญ่ใจกลางวัชรพล เชื่อมต่อสองทางด่วน ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้าน

โครงการ PLENO พหลโยธิน-วัชรพล 2 ทาวน์โฮมในสไตล์ Marrakech หรือสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโก เริ่มต้นที่ 3.79 ล้าน

โครงการบ้านกลางเมือง รามอินทรา-วัชรพล ทาวน์โฮมใจกลางเมือง หนึ่งเดียวที่ติดจุดขึ้น-ลงทางด่วน ใกล้เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เริ่มต้น 3.99 ล้าน

และโครงการบ้านกลางเมือง วัชรพล ทาวน์โฮมไฮเอนด์ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางด้วยเพนต์เฮาส์เต็มชั้น แถมยังเดินทางสะดวกใกล้ลาดพร้าวและจตุจักร ในราคา 4.29 ล้าน

หากใครสนใจก็สามารถดูรายละเอียดของแต่ละโครงการเพิ่มเติมและลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/2MXqIcf

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ณัฐนิช ชนะฤทธิชัย

ช่างภาพสาวร่างเล็ก อดีต a team junior 11 ผู้หลงใหลความทรงจำในภาพถ่ายและสนุกกับการแต่งตัวเป็นที่สุด เจ้าของ instagram @mochafe