อุณหภูมิคือสิ่งสำคัญสำหรับการทำช็อคโกแลต เป็นเทคนิคที่ช่วยดึงรสชาติและเอกลักษณ์ที่ดีที่สุดของวัตถุดิบออกมา
31 องศาเซลเซียสคืออุณหภูมิที่พอเหมาะพอดี สำหรับช็อคโกแลตที่มีเนื้อสัมผัสไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป มีพื้นผิวเงาวาว นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อร้าน 31 degrees by Kad Kokoa ร้านอาหารที่มีส่วนประกอบของช็อคโกแลตทุกเมนู
ร้านนี้เกิดขึ้นโดย ต้น-ปณิธิ และต้า-ณัฐญา ชุณหสวัสดิกุล แห่ง Kad Kokoa ร้านคราฟต์ช็อคโกแลตไทยที่หลายคนรู้จักดี จึงไม่แปลกใจเลยที่จุดเด่นของอาหารจะมีช็อคโกแลตเป็นส่วนประกอบอาหารทุกเมนูของทางร้าน
ตั้งแต่ก้าวแรก เราจะเห็นร้านถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีขาวและเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ก็มีผนังอิฐ คานไม้เปลือย และบันไดเวียนให้ความรู้สึกเดียวกับอพาร์ตเมนต์และคาเฟ่ในปารีส เหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อนที่ต้องการแวะมาทานอาหารอย่างไม่รีบร้อน พูดคุยกันได้ยาวๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ความพิเศษของร้านนอกจากนำช็อคโกแลตที่เราคุ้นเคยกับการเป็นของหวานมาอยู่บนอาหารจานหลักอย่างลงตัวแล้ว เมนูอาหารยังเกิดขึ้นจากการรังสรรค์โดยทีมเชฟ Bocuse d’Or Thailand ซึ่งทั้งคุณปณิธิและณัฐญาเป็นผู้จัดการทีม
นี่คือทีมเชฟอาหารฝรั่งเศสตัวแทนประเทศไทยที่ได้ไปร่วมรายการแข่งขันทำอาหารระดับโลก Bocuse d’Or ถือเป็นเหมือนโอลิมปิกในวงการเชฟเลยทีเดียว โดยทีมไทยคว้ารางวัลอันดับ 2 ในการแข่งขัน Bocuse d’Or Asia-Pacific เมื่อปี 2018 และกำลังไปร่วมแข่งในรอบถัดไปที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส
ร้านนี้จึงเหมือนพื้นที่แสดงฝีมือการปรุงอาหารจากเชฟแข่งขัน เต็มไปด้วยเทคนิค รสชาติ และวัตถุดิบที่นำมาสร้างสรรค์ใหม่ เพื่อเปิดประสบการณ์ให้เราได้ลิ้มลองรสชาติในร้านอาหารแห่งนี้
ในร้านมีค็อกเทลที่ทำขึ้นเฉพาะช่วงเวลาพิเศษ เชฟเลือกนำเสนอ 2 รสชาติซึ่งเป็นเมนู signature ของร้าน ได้แก่ Issan sun ค็อกเทลซึ่งมีส่วนผสมหลักจาก รัม พีช ส้ม สัปปะรด และเลม่อน เมื่อรวมกันแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น มีรสเปรี้ยวหวานจากผลไม้ ประกอบกับความขมซ่าจากรัมที่ค่อนข้างแรง
ส่วน Fleur de cacao เป็นค็อกเทลที่มีแอลกอฮอล์หลักคือเบอร์เบิน ซึ่งทำมาจากข้าวโพด ส่วนเครื่องดื่มรองคือ white spirit จาก gin และ vodga จากนั้นนำมาสร้างสรรค์กลิ่นดอกไม้ โดยนำ gin มาผสมกับช็อคโกแลตประจวบคีรีขันธ์ ส่วน vodga นำไปเพิ่มรสชาติกับช็อคโกแลตเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีน้ำมะนาวชาขาว และเมล็ดกาแฟ เมื่อไปรวมกับเบอร์เบินแล้วทำให้เกิดกลิ่นหอมแบบดอกไม้นั่นเอง
วัตถุดิบหลักของเมนูสลัด ทางร้านเลือกใช้ผักมีหัวมานำเสนอ ได้แก่ แครอท บีทรูท และอโวคาโด เชฟตั้งใจดึงรสชาติของผักออกมาให้มากที่สุด เช่น เมนู Red Quinoa & Avocado Salad ประกอบไปด้วยคินัวร์ ท็อปด้วยกัวคาโมเล่สดและอโวคาโด โดยมีผักร็อคเก็ตจัดวางอยู่รอบๆ ราดด้วยน้ำสลัดส้มแบบโฮมเมดเพิ่มความสดชื่น ทำให้จานนี้มีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว เชฟตัดรสด้วย Cocoa Nib Tuiles ซึ่งมีส่วนผสมของโกโก้ นิบส์ โกโก้ เพาเดอร์ และเลม่อนฝาน เวลากินด้วยกันให้ความรู้สึกกรุบกรอบและไม่เปรี้ยวจนเกินไป
เมนูขนมปังเป็น Ham & Cheese Signature twist เป็นแซนวิชหน้าเปิดที่เชฟอยากให้ทุกคนเลือกเป็นเมนูทานเล่น (ที่ขนาดพออิ่มได้เป็น 1 มื้อ) ประกอบด้วย Sourdough กรอบ ท็อปด้วยแฮมชีส โดยเลือกใช้เป็น Paris ham และที่ขาดไม่ได้คือช็อคโกแลตจากประจวบคีรีขันธ์ที่โรยอยู่ด้านบน เพื่อเป็นกิมมิคช่วยเพิ่มความหอมของแฮมชีสอย่างดี
Free range red label chicken breast เป็นเมนูเมนคอร์สที่อยากให้ทุกคนได้ลอง จานนี้เป็นอกไก่ออร์แกนิกที่ยังคงความชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟคู่กับซอส butternut จากเชียงใหม่ (สีสันและรสชาติคล้ายฟักทอง) ทานคู่กับ sugar snap ที่นำไปผัดจนได้กลิ่นหอม พร้อมโรยด้วยช็อคโกแลตเช่นเคย เพื่อเพิ่มรสชาติให้อกไก่ได้อย่างลงตัว
ปิดท้ายด้วยของหวาน Single Origin Chocolate Mousse เสิร์ฟพร้อมสัปปะรดท้องถิ่นจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่นำไปทำให้ข้นหนืดเหมือนคาราเมลให้รสชาติหวาน ตัดกับรสขมจากช็อคโกแลต ตกแต่งด้วยมะพร้าวในรูปรังผึ้ง พร้อมครีมวานิลลา เมื่อทานรวมกันจึงให้ความรู้สึกสดชื่นเปรี้ยวหวานกำลังดี เหมาะสำหรับการปิดท้ายมื้ออาหาร
ด้วยการผสมผสานช็อคโกแลตในทุกเมนูตั้งแต่เครื่องดื่มจนถึงอาหารจานหลัก จึงทำให้มื้ออาหารเต็มไปด้วยความสนุกและน่าติดตามว่าช็อคโกแลตสามารถไปอยู่ส่วนใดของอาหารได้บ้าง จากฝีมือการครีเอทอาหารของทีมเชฟ Bocuse d’Or Thailand รุ่นใหม่ ไม่เพียงแต่ทำให้ช็อคโกแลตไปได้ไกลกว่าที่เคยคิดเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังคงรสชาติเอกลักษณ์ของวัตถุดิบแต่ละชนิดได้อย่างดี จึงเป็นร้านอาหารอีกร้านที่อยากให้ทุกคนได้ไปลองสักครั้ง
31 Degrees by Kad Kokoa
Location: 235/5 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ https://goo.gl/maps/8yTj4NH18jZcvrDbA
เวลาเปิด: ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลาตั้งแต่ 8.00 – 23.00 น.
Facebook: 31 Degrees by Kad Kokoa
Instagram: 31degrees.bkk
