The ROCK RUNNER : ชีวิต-การวิ่งของตูน Bodyslam

มนุษย์เป็นนักแสวงหาพลังงาน เพื่อให้ชีวิตเคลื่อนไปข้างหน้า
หลายคนเลือกที่จะหยิบเรื่องราวของบุคคลหรือสิ่งรอบตัวมาเป็นเชื้อเพลิง
ขณะที่บางคนสนใจพลังงานจากสองขาของตัวเองเท่านั้น

“เจ็บแต่ก็ยังมีความสุขนะ”

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อาทิวราห์ คงมาลัย ลงแข่งวิ่ง
นับจากครั้งยังเยาว์ที่เคยติดตามคุณพ่อไปแข่งมินิมาราธอนที่จังหวัดสุพรรณบุรีบ้านเกิด
สิบกว่าปีถัดมา ตูน บอดี้สแลม ถอดชุดร็อกเกอร์มาใส่ชุดวิ่งเต็มยศ ติดหมายเลขที่หน้าอก
ออกตัววิ่งไปในสนามแข่งท่ามกลางนักวิ่งจากทุกสารทิศ โดยมีเพื่อนกลุ่มเล็กๆ
ที่ออกวิ่งด้วยกันในนาม ‘แก๊งเต่าน้อย’

ไฟทุกดวงอาจสาดส่องมาที่ร็อกสตาร์บนเวทีคอนเสิร์ต
แต่ในสนามแข่งขันวิ่งตูนไม่ใช่อันดับหนึ่ง ในการลงแข่งระยะมาราธอน 42.195
กิโลเมตรที่จอมบึงมาราธอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สิ่งที่สร้างความเจ็บปวดไม่ใช่อาการทางร่างกาย
แต่เป็นความเจ็บใจที่ไม่อาจวิ่งเข้าเส้นชัยได้

ไม่ใช่ครั้งแรกที่การวิ่งทำให้เขาเจ็บปวด

“กิโลเมตรที่ 10 ผมเริ่มปวดเข่า กิโลเมตรที่ 15 ยังไหวอยู่
กิโลเมตรที่ 17 ไม่ไหวแล้ว หลายคนบอกว่าอย่าฝืน ถ้าฝืนต่อไปอาจจะเจ็บหนักกว่านี้
ไม่คุ้มกัน แต่การออกจากสนามกลางคันทำให้ผมรู้สึกแย่มาก
รู้สึกว่าไม่สำเร็จอะไรบางอย่าง มันแพ้นะ แพ้โดยที่ใจเราได้ แต่ร่างกายเราไม่ได้”

การก้าวขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีคอนเสิร์ตเป็นเวลาหลายชั่วโมง
คนทั่วไปอาจคิดไม่ถึงว่าเป็นงานที่ต้องใช้พลังงานสูงมาก
ศิลปินต้องมีร่างกายที่ฟิตและพร้อมอยู่เสมอ เพื่อนำพลังเหล่านั้นไปปล่อยบนเวทีโดยที่แรงไม่ตก
โดยปกติสองเท้าของตูนต้องออกวิ่งอย่างหนักบนลู่วิ่งเป็นเวลา 45 นาทีแทบทุกวัน
เพื่อเป็นการฟิตร่างกายสำหรับแสดงคอนเสิร์ต แต่การลงแข่งขันวิ่งนั้นมอบพลังในรูปแบบที่ต่างออกไป

“การทำงานกับการวิ่งใช้ตรรกะเดียวกัน ทุกคนมีเส้นชัยต่างกัน
แรงขับเคลื่อนต่างกัน เราท้อแท้ได้ หยุดบ้าง เดินบ้าง พักชมวิวข้างทางบ้าง
แล้ววิ่งต่อไปอย่างมีความสุข ทำงานอย่างมีความสุขในแต่ละวัน
สุดท้ายเส้นชัยก็มาถึงเอง ไม่ช้าก็เร็ว แล้วแต่แรงของแต่ละคน บางคนยังหนุ่มทำได้ 2
ชั่วโมงครึ่ง บางคนอายุมากแล้วทำได้เกินเวลาที่กำหนด
แต่ถ้าไม่ล้มเลิกยังไงก็ไปถึงเส้นชัย

“เส้นชัยของผมคืองาน ผมทุ่มเทให้อัลบั้ม ดัม-มะ-ชา-ติ อย่างเต็มที่เหมือนลงแข่งวิ่งฟูลมาราธอน
แค่คิดก็หนักแล้ว ต้องวางแผน เตรียมตัวและหัวใจให้ดี ผ่อนหนักผ่อนเบา มีหยุดบ้าง ระหว่างทางมีเรื่องมาสะกิดใจให้เราเลิก
ให้ยอมแพ้ เหมือนการวิ่งที่มีความสุขแต่ทรมานทุกภาคส่วนเลย ทั้งขา หัวใจ หัวสมอง
แต่พอเสร็จอัลบั้ม เหมือนเข้าเส้นชัย ดีใจมากที่อัลบั้มนี้เสร็จลงได้”
ขณะที่ตูนเล่า แววตาคู่นั้นสะท้อนความมุ่งมั่น หยาดเหงื่อ และรอยยิ้ม
ประสบการณ์จากการวิ่งและการทำงานถ่ายทอดพลังงานซึ่งกันและกัน

หากเจอชายหนุ่มผมยาว ใส่เสื้อกล้ามนักกีฬาและกางเกงขายาวสีดำ
สปีดตัวออกวิ่งอย่างแรงในงานแข่งวิ่งมาราธอน
ไม่ต้องสงสัยว่าเขาเอาพลังงานเหล่านั้นมาจากที่ไหน

เพราะมันเป็นพลังงานชนิดเดียวกับที่มีอยู่ในตัวทุกคนนั่นแหละ

(จากคอลัมน์ main course – a day 166 กุมภาพันธ์
2557)

ภาพ นวลตา วงศ์เจริญ


ให้กำลังใจตูนพิชิตเป้าหมายการวิ่งครั้งใหม่บนระยะทาง 2,191 กม. เบตง – แม่สาย ในโครงการ ‘ก้าว’ และสามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว) เลขที่บัญชี 111-393-5263 (กระแสรายวัน)

ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ facebook | ก้าว

AUTHOR