หากใครเคยแวะเวียนเข้าฟิตเนสอยู่บ่อยๆ คงเห็นว่าหนึ่งในเครื่องเล่นที่ถูกจับจองจนเต็มคือลู่วิ่ง เช่นเดียวกันกับในสวนสาธารณะที่มีผู้คนจำนวนมากสวมรองเท้าผ้าใบออกวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ
ใครๆ ต่างก็ออกมาวิ่ง
ไม่ใช่มีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่สนใจเล่นกีฬาและรักการดูแลสุขภาพ ในรายการแข่งขันมาราธอนทุกสนามต่างก็มีนักวิ่งหญิงเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยดูแลรูปร่าง ยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงจากภายใน ทำให้จิตใจที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดวันสดชื่นขึ้น
แต่การซ้อมวิ่งสำหรับผู้หญิงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้หญิงในปัจจุบันต้องฝ่าฟันรถติดออกไปทำงานตั้งแต่เช้าและเผื่อเวลาเดินทางมาก การวิ่งในช่วงเช้าจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนในยามเย็นช่วงหลังเลิกงาน หลายคนก็อยู่ไกลจากสวนสาธารณะ กว่าจะเดินทางไปถึงก็แทบไม่เหลือเวลาวิ่ง จะวิ่งคนเดียวในตรอกซอกซอยแถวบ้านยามดึกก็เปลี่ยว ไม่ปลอดภัย หลายคนจึงได้แต่วิ่งในฟิตเนส
เพื่อเป็นการสนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทุกคนผสมผสานการออกกำลังกายให้อยู่ในชีวิตประจำวัน และช่วยต่อยอดให้ทุกคนมีพัฒนาการทางด้านกีฬามากยิ่งขึ้น แคมเปญ Nike Women’s Park จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญ โดยการเปิดสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ เป็นสวนซ้อมวิ่งสำหรับสาวๆ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงาน Bangkok Marathon ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายนที่จะมาถึง
หมี–พรรณี ศานติวิวัฒน์กุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไนกี้ (ประเทศไทย) ผู้อยู่เบื้องหลังงานนี้บอกว่า Nike Women’s Park คิดเพื่อตอบโจทย์ผู้หญิงที่รักการวิ่งโดยเฉพาะ เป้าหมายคือทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกสนุก มีเพื่อน และมีกำลังใจในการพิชิตการวิ่งครั้งใหญ่
“เราอยากให้ทุกคนได้ปรับสภาวะร่างกายให้ใกล้เคียงกับวันที่แข่งจริงซึ่งจัดในช่วงเช้ามืด เลยจัดซ้อมในเวลากลางคืน สร้างสถานที่ซ้อมที่ปลอดภัย เลือกสวนรถไฟเพราะวิ่งได้ทั้งระยะสั้น 1.5 กิโลเมตร และระยะยาว 2.5 กิโลเมตร นักวิ่งสามารถผสมผสานให้เป็นระยะที่ตัวเองอยากจะฝึกได้ ซึ่งเราก็สอดแทรกข้อความให้กำลังใจผู้หญิงไปตลอดทาง แล้วก็มีไฟ มีเสียงเชียร์ เพื่อให้รู้สึกตื่นเต้น ประทับใจ สนุก มาแล้วไม่เหงา” พรรณีเล่า
ในสนามมีการติดตั้งแสงสว่างตลอดเส้นทาง หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องที่นักวิ่งหญิงให้ความสำคัญมาก รูปแบบของกิจกรรมยังเอื้อให้นักวิ่งแปลกหน้าได้รู้จักกัน ผู้จัดเข้าใจดีว่าเป็นการได้เห็นนักวิ่งจำนวนมากมารวมตัว (แคมเปญนี้มีผู้หญิงเข้าร่วมกว่า 2,500 คน) จะช่วยผลักดันให้เราวิ่งได้ดีขึ้นด้วย เกิดเป็นคอมมิวนิตี้ และกระตุ้นให้เราอยากกลับมาวิ่งอย่างต่อเนื่อง
บางคนอาจตั้งเป้าหมายการวิ่งของตัวเองไว้ที่ระยะมาราธอน แต่ไนกี้คิดว่าระยะ 42.195 กิโลเมตรเป็นแค่จุดจุดหนึ่ง ไม่ใช่ปลายทาง แม้มาราธอนจะจบแต่พวกเขาไม่อยากให้ทุกคนหยุดวิ่ง เพราะการดูแลสุขภาพและหมั่นพัฒนาตัวเองโดยการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ควรดำเนินต่อไปตลอดชีวิต
“เราอยากให้แคมเปญนี้ช่วยจุดประกายให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจการออกกำลังกาย ทั้งวิ่งและกีฬาอื่นๆ กันมากขึ้น ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะผู้หญิงมีศักยภาพด้านกีฬาไม่แพ้ผู้ชายเลย”
สาวๆ คนไหนยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถด้านกีฬาของตัวเอง หรืออาจจะไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ลองตั้งเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถของตัวเองแล้วออกมาฝึกซ้อมไปด้วยกันกับเพื่อนนักวิ่งหญิงคนอื่นๆ ดูสักที นอกจากจะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว อาจจะได้เจอศักยภาพที่ซ่อนอยู่ก็ได้นะ