ในความทรงจำของฉัน
เด็กสาวที่เติบโตขึ้นในเมืองหลวงที่เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมเอเชียทุกภาคส่วน ตั้งแต่
จีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลี และญี่ปุ่น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันถูกสังคมพร่ำบอกมาตั้งแต่รู้ประสีประสาว่า เธอต้องเป็นหญิงสาวที่น่ารัก ใสซื่อ และน่าทะนุถนอมเสมอ ผ่านการอบรมจากครอบครัว
สังคมโรงเรียน สังคมที่ทำงาน และภาพของไอดอลสาวเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น
วงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ญี่ปุ่น หรือไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแพลตฟอร์มไอดอลของญี่ปุ่นซึ่งชายหนุ่มยกนิ้วให้ผ่านสื่อต่างๆ
กลับทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด และตั้งคำถามกับการเป็นศิลปินหญิง ว่าเราจำเป็นต้องขายผลงานควบคู่ไปกับขายจิตวิญญาณ
ตัวตนที่แท้จริง และชีวิตส่วนตัว ให้แฟนบอยขนาดนั้นจริงหรือไม่
แล้วถ้าเกิดมีผู้หญิงสักคนไม่ได้มีท่าทางอ่อนหวานเข้าตำราไอดอล
ผิวสีแทนอ่อนๆ ใบหน้าอวบกลมไม่เรียวได้รูป สวมแว่นหนาเตอะ พึงใจจะโยกย้ายส่ายเอวไซส์
XL แล้วขับร้องเพลงที่วิพากษ์วัฒนธรรมน่าอึดอัดของสังคมแทนการร้องเพลงออดอ้อนขอความรักจากชายหนุ่มขึ้นมาล่ะ
จะเป็นอย่างไร
บรรทัดต่อจากนี้คือเรื่องราวของศิลปินหญิงเอเชียผู้ไม่เข้าตำราไอดอลแบ๊วใส
แต่กลับพุ่งทะยานสู่การเป็นศิลปินหญิงที่ถูกจับตามองในระดับโลก ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ที่พวกเธอถือกำเนิดขึ้น
01 Rina Sawayama
ลูกสาวพระอาทิตย์ที่เกิดในเกาะญี่ปุ่น แต่ไปเติบโตบนเกาะอังกฤษตั้งแต่อายุ
5 ขวบ อดีตเด็กสาวที่หงุดหงิดใจกับการเป็นหญิงสาวแดนปลาดิบ
เธอพยายามทำทุกทางให้สังคมยอมรับในฐานะแม่สาวลอนดอนเนอร์ Rina เคยสารภาพกับทางนิตยสาร i-D ว่าช่วงที่แม่เธอทำเบนโตะไปให้ที่โรงเรียน
เธออายมาก แต่ก็นั่นแหละ เมื่อเติบโตเข้าวงการนางแบบ
จนถึงวันนี้ที่อายุ 27 ปี เธอกลับเอนจอยกับการเป็นตัวเอง การเป็นคนญี่ปุ่น
และผสมผสานความเป็นลอนดอนเนอร์เข้าไปในตัวได้อย่างน่าจับตา
หนึ่งในเครื่องยืนยันความลงตัวในส่วนผสมตะวันออกตะวันตกของ
Rina ที่เราอยากพูดถึงคือ ผลงานดนตรีที่โคตรจะแหกทุกกฎการเป็นไอดอลสาวชาวญี่ปุ่นไปเลย
ความเป็นญี่ปุ่นที่ Rina ดึงมาใช้ในงานเพลงคือสีสันจัดจ้านแบบ
J – POP ซาวนด์ก๋ากั่น สนุกเพี้ยนแบบญี่ปุ่น
แต่ก็เบรกด้วยดนตรี British Pop เข้าไป ส่วนเนื้อหาในเพลงของ
Rina ก็ไม่ได้เฝ้าพร่ำเพ้อถึงการอ้อนวอนของความรักจากชายหนุ่ม
หากแต่พูดถึงภาวะสังคมคนเหงาในโลกโมเดิร์น ความปลอมเปลือกของผู้คนบนโลกออนไลน์
และการหาความอบอุ่นผ่านหน้าจอสมาร์ตโฟนของคนยุคดิจิทัลอันแสนเศร้าแต่จริงอย่างไม่มีอะไรจะเถียง
เช่นท่อนหนึ่งของ Cyber Stockholm Syndrome ที่บอกว่า
Came
here on my own
Party
on my phone
Came
here on my own
But I
start to feel alone
สำหรับเรา Rina
ถือเป็นตัวแทนของผู้หญิงเอเชียที่กล้าเป็นตัวเอง
เผยความคิดที่มีต่อสังคม
เปิดเปลือยประสบการณ์กลวงเปล่าในโลกออนไลน์ที่เธอเองก็เป็น ความจัดจ้านในแฟชั่นสีแสบสด
และเสื้อโนบราแต่ดูแพง สวนทางกับการเป็นหญิงสาวแสนอ่อนหวาน อบอุ่น
คุมโทนสีพาสเทลละมุนหวานพร้อมละลายใจโอตะ
ทุกวันนี้ Rina
ยังคงโลดแล่นอยู่โลกดนตรี ศิลปะ และแฟชั่น
หมกมุ่นกับการทำผลงานเพลงแบบเต็มอัลบั้มอย่างหนักหน่วง พอๆ กับกระแสตอบรับ
และคำชื่นชมจากวงการดนตรีระดับโลก โดยเฉพาะจาก thefader.com สื่อดนตรีชื่อดัง
ที่ยกให้เธอเป็นศิลปินสาวเอเชียที่น่าจับตามองเบอร์ต้นๆ ของโลก ณ เวลานี้
02 Yaeji
เมื่อสาวเกาหลีผู้พกพาหุ่นตุ้ยนุ้ย แก้มหน้าหยิก
สวมแว่นกลมหนาเตอะ
พร้อมรอยยิ้มสดใสไม่แคร์มาตรฐานความงามของวงการไอดอลเอเชียใดๆ มาลุยตลาดดนตรี จึงเกิดปรากฏการณ์สนุกชวนจับตา
Yaeji หรือ ดีเจแคธี่ ลี สาวเกาหลีที่หอบหิ้วความฝันในวงการดนตรีมาไกลถึงนิวยอร์กหลังเรียนจบ
ผู้หลงใหลการทำเพลง House & Electronics
สาวซ่าผู้สนุกสนานไปกับท่วงทำนอง การเต้น การร้อง และแฟชั่นไม่แคร์ใคร
เธอเป็นศิลปินที่ร่วมงานกับศิลปินอินดี้โลกตะวันตกมากหน้า มีไอเดียในการทำเพลงที่เฉพาะตัว อย่างการจัดอีเวนต์อิ่มท้องพร้อมอิ่มหู ชื่อ ‘Curry in No
Hurry’ อีเวนต์ที่เธอชวนเพื่อนมาปาร์ตี้และทานแกงกะหรี่ฝีมือเธอเองไปพลาง
คุยถึงเพลงที่ใช่ไปพลางได้ เอาสิ!
เสียงแรปแผ่วเบาแต่ติดหัว กับซาวนด์แปลกไม่ซ้ำใคร ทำให้สื่อเมืองนอกอย่าง
pitchfork เองยังเอ่ยปากชมว่า
เธอคือหนึ่งในนักร้องที่น่าหลงใหลที่สุดในวงการเฮาส์มิวสิก
เพราะเธอต่างจากแบบฉบับความน่ารักของไอดอลสาวที่สังคมเอเชียวางไว้
ทำให้ผลงานของ Yaeji ไม่ได้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเกาหลีเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
เพราะเธอมีกลุ่มคนฝั่งที่ใหญ่กว่านั้นในอเมริกา และโลกตะวันตก แถมบางครั้งเธอยังพลิกวิกฤตที่ไม่มีคนเกาหลีอยากฟังเพลงเธอ
ให้เป็นโอกาสด้วยการบอกเล่าความในใจที่ลึกและเขินเกินกว่าจะบอกกับแฟนเพลงเธอตรงๆ
เป็นภาษาเกาหลี นั่นเอง
ความไม่ตามใครของ Yaeji ทำให้ชีวิตวงการตอนนี้ของเธอสดใส
ปัจจุบันเธอทำงานร่วมกับทีม 88rising กลุ่มศิลปินอินดี้เชื้อสายเอเชีย
ก่อนมีผลงานมินิอัลบั้มแรกที่มาพร้อมเพลง Feel It
Out, Therapy และ Drink I’m Sipping
On เอาดิ
03 MICHELLE
ZAUNER – JAPANESE
BREAKFAST
ศิลปินจากเพนซิลเวเนีย/โอรีกอน
ที่ทำเพลงอินดี้ร็อกที่โดดเด่นด้วยเสียงลอยคว้างแบบ lo-fi ที่มีทั้งความอ่อนโยนจากเมโลดี้หรือวิธีการร้อง
และเข้มแข็งด้วยพาร์ตดนตรีในขณะเดียวกัน ซึ่งอัลบั้มแรกอย่าง Psychopomp นี้เองที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และได้ร่วมทัวร์กับ (Sandy)
Alex G อยู่บ่อย ๆ
ความน่าสนใจของ Zauner คือเธอเป็นสาวเลือดเกาหลี แต่มีบ้านเกิดที่โอรีกอน สหรัฐอเมริกา
เธอเริ่มเข้าสู่โลกดนตรีตั้งแต่อายุ 5 ขวบ
เอนจอยกับการเขียนเพลงมากจนได้เข้าร่วมก่อตั้งวงอีโอกับเพื่อนในชื่อ Little Big League เล่นดนตรีอยู่ในซีนของฟิลาเดลเฟีย
แต่ต่อมาเมื่อแม่ของเธอถูกวินิจฉัยว่ามีเซลล์มะเร็ง เธอจึงเดินทางกลับบ้านเกิดที่โอรีกอนและเริ่มทำโปรเจกต์เดี่ยวในชื่อ
Japanese
Breakfast โดยได้แรงบันดาลใจมาจากตัวตนของเธอ
ที่เป็นครึ่งส่วนของเอเชียแต่ได้รับวัฒนธรรมจากอเมริกาเพราะเป็นที่ที่เธอเติบโตขึ้นมา
แต่ก็แอบเป็นตลกร้ายเมื่อเธอไม่ได้มีเชื้อสายญี่ปุ่นแต่อย่างใด
หากแต่เป็นชาวเกาหลีอย่างที่เราเห็นเธอใส่ฮันบก (ชุดประจำชาติเกาหลี)
ซึ่งเป็นชุดแต่งงานของแม่ในมิวสิกวิดิโอเพลง Everybody
เธอบอกกับ
interviewmagazine.com ว่า มันเหมือนตลกร้าย คือเธอเขียนเพลงในโปรเจกต์เดี่ยวขึ้นหลังจาก แม่ของเธอเสียชีวิตไป
2 เดือน แล้วที่ตลกกว่าคือก่อนแม่เธอเสียชีวิตสองสัปดาห์นั้น
เธอเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนหนุ่ม แล้วที่ตลกร้ายสุดๆ
คืองานเพลงของเธอได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก มันเป็นความขมขื่นอันแสนสุข
ในขณะเดียวกันก็เป็นความสุขอันขมขื่น
ปี 2017 Zauner ตัดสินใจปล่อยอัลบั้มชุดที่สองในชื่อ
Soft Sounds From Another Planet ที่มีความหลากหลาย
ไม่ใช่แค่แนวดนตรีที่รวมเอาความไซคีเดเลีย ดรีมป๊อป ซินธ์ป๊อป บาโร้กป๊อป
หรือเพลงบรรเลงแบบแอมเบียนต์ก็มีให้ฟังในอัลบัมนี้
แต่เนื้อหาถูกแต่งขึ้นจากมุมความโศกเศร้า ความตายที่เติบโตขึ้น มีเหตุผลขึ้น
เหมือนถอยออกมามองดูมันให้ดีอีกครั้งให้รอบด้าน แต่ที่เราชอบมากคือเธอกระโดดไปวิพากษ์เรื่องแต่งงานและความสัมพันธ์ขอคนในสังคม หรือแม้กระทั่งการถ่ายทอดความสงสัยส่วนตัว
ให้กลายเป็นเนื้อเพลงที่พูดเรื่องราวของหญิงสาวที่ตกหลุมรักหุ่นยนต์ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับแนวดนตรีที่ฟังแล้วโคตรจะไซไฟ
เอาเป็นว่าใครที่อยากสัมผัสความไซไฟ ความซ่าก๋ากั่นที่ฉีกขนบไอดอลสาวต่างๆ
เราแนะนำให้รัดเข็มขัดให้แน่น ออกทะยานไปในอวกาศไกลโพ้นกับบทเพลงของเธอได้ที่
#HYHBKK Live! with Japanese Breakfast
วันที่ 4 ธันวาคมนี้ ที่ Rockademy
บัตรล่วงหน้าราคา 1,100
บาท มีจำหน่ายที่ https://www.ticketmelon.com/event/jbbkk
