Friday : Magic Moment แผ่นเสียงที่ปลดปล่อยชั่วโมงต้องมนต์ของคนหลงทาง

บทเพลงบางอัลบั้มมีความหมายกับเราเป็นพิเศษ

อาจเป็นอัลบั้มเพลงที่เราฟังซ้ำๆ ปลอบประโลมใจในคืนวันอันอ่อนไหว อาจเป็นอัลบั้มที่ใครบางคนที่แสนพิเศษเคยแนะนำให้ลองฟัง หรืออาจเป็นอัลบั้มหายากที่เราตามหามาแสนนาน 

แต่คนที่น่าจะรู้สึกว่าอัลบั้มสักชุดมีความหมายพิเศษมากที่สุด น่าจะเป็นตัวศิลปินเจ้าของอัลบั้มเองนั่นแหละ เพราะกว่าจะแต่งเนื้อร้อง คิดทำนอง เรียบเรียงดนตรี คลุกคลีผ่านขั้นตอนการทำงานมากมาย มาจนเสร็จสิ้นเป็นอัลบั้มสักชุด แล้วลุ้นว่าเสียงตอบรับของผู้คนจะเป็นอย่างไร ก็ต้องผูกพันกับทุกบทเพลงในอัลบั้มนั้นยาวนาน

ในความพิเศษของความพิเศษอีกที ผมคิดว่า อัลบั้ม Magic Moment (2002/2014) ของวง Friday เป็นอัลบั้มที่สามหนุ่ม บอย-ตรัย ภูมิรัตน, หนึ่ง-เกรียงไกร วงษ์วานิช และ ดุลย์-อดุลย์ รัชดาภิสิทธิ์ น่าจะรู้สึกพิเศษมากๆ …มากยิ่งกว่าอัลบั้มชุดแรกของพวกเขาที่ออกมา 5 ปีก่อนหน้าอยู่มากโข

Friday

สามหนุ่มวงฟรายเดย์รวมวงกันมาตั้งแต่สมัยเป็นเพื่อนเรียนหนังสือ พอเรียนจบพวกเขาก็ได้โอกาสออกอัลบั้มกับค่ายมิวสิค บั๊กส์ ของ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ อัลบั้มชุดแรกของพวกเขา Friday I’m In Love (1997) ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นักแม้จะเป็นอัลบั้มเพลงป๊อปที่ดีชุดหนึ่งก็ตาม (เพลงที่พอจะคุ้นหูจากอัลบั้มนี้คือเพลง ‘เหนื่อย’ และ ‘ฉันมีความสุข’ ก่อนที่ต่อมาพวกเขาจะมีโอกาสคัฟเวอร์เพลง ‘นิดนึงพอ’ ของ แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์ ให้แคมเปญของคลื่นวิทยุแล้วกลายเป็นเพลงที่ดังกว่าเพลงของตัวเอง) หลังจากอัลบั้มแรก ทั้งสามหนุ่มดูเหมือนจะมองหาโอกาสสำหรับอัลบั้มชุดที่สองกันต่อ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป คำถามสุดคลาสสิกในชีวิตวัย 20 กว่าๆ ว่า ‘จะเอาอย่างไรกับอนาคตดี’ ก็ยิ่งกลายเป็นประเด็นในใจ จะมุ่งมั่นด้านดนตรีต่อไปหรือจะหวนกลับไปทำงานประจำ จะลองอีกสักอัลบั้มหรือว่าชุดแรกก็พอแล้ว …หนึ่งตัดสินใจกลับไปทำงานเป็นสถาปนิกและเริ่มเล่นดนตรีกลางคืน ส่วนดุลย์ก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ วงฟรายเดย์เหมือนจะหยุดชะงัก แต่ความจริงพวกเขายังไม่ได้ทิ้งความฝันที่จะทำอัลบั้มกันอีกสักครั้ง และยังนัดเจอกันเพื่อทำเพลงอยู่บ้าง …นานๆ ครั้ง

ในช่วงเวลานั้น บอย-ตรัย ภูมิรัตน เองก็คิดว่าเขาน่าจะลองเป็นนักแต่งเพลง แต่บอยแต่งเพลงให้กับค่ายมิวสิค บั๊กส์ ไม่ผ่านอยู่นานร่วมปี จนเขาได้โอกาสลองไปแต่งเพลงให้กับค่ายเบเกอรี่ มิวสิค จึงเหมือนพบการอยู่ถูกที่ถูกทาง และทำให้เริ่มมีผลงานเพลงที่ถูกขับร้องโดยศิลปินอย่าง Project H, วง Pause และ นภ พรชำนิ ออกมา แต่นั่นก็เป็นหนทางในสายนักแต่งเพลงของบอย ยังไม่ใช่หนทางของวงฟรายเดย์ที่ทั้งสามคนยังฝันร่วมกันอยู่

ในระหว่างที่รอการกลับมาเยี่ยมเมืองไทยปีละครั้งของดุลย์ และในระหว่างที่หนึ่งและบอยยังค้นหาหนทางของตัวเอง ชีวิตก็พาพวกเขาไปรู้จักกับเพื่อนนักดนตรีร่วมรุ่นในแวดวงเดียวกัน แล้วเพื่อนๆ กลุ่มนี้ก็ได้ร่วมกันทำค่ายเพลงเล็กๆ ชื่อ Undertone Records ซึ่งพอออกอัลบั้มมา 2-3 ชุดก็เริ่มทำท่าไม่ดี ความฝันคล้ายจะพังทลายอีกครั้ง บอยกับเพื่อนๆ ในค่ายจึงตัดสินใจทำอัลบั้มส่งท้ายก่อนจะปิดค่าย โดยให้ เจอรี่-ศศิศ มิลินทวณิช เป็นเจ้าของโปรเจกต์ กลายเป็นงานของวงเฉพาะกิจชื่อ 2 Days Ago Kids ที่เป็นเหมือนอัลบั้มรวมดาวศิลปินอินดี้ชุดหนึ่ง

อัลบั้ม Time Machine ของ 2 Days Ago Kids มีเพลงดังระเบิดคือเพลง ‘กลับมา’ เป็นเพลงที่แต่งและร้องโดยบอย

ในวันคอนเสิร์ตใหญ่ของ 2 Days Ago Kids เดือนตุลาคม ปี 2001 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยวันนั้น วงฟรายเดย์ที่ห่างหายจากแวดวงไปแล้ว 3-4 ปี ได้กลับมารวมตัวเล่นเพลงของตัวเองบนเวทีอีกครั้ง แล้วพวกเขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่า แฟนเพลงต่างร้องเพลงของพวกเขากระหึ่ม เป็นช่วงเวลาที่ยืนยันถึงการเดินทางข้ามเวลาของบทเพลงจากก้าวแรกของฟรายเดย์ และเป็นช่วงเวลาที่บอกกับ บอย หนึ่ง และดุลย์ว่า ถึงเวลาของอัลบั้มชุดที่สองแล้วล่ะ!

สามหนุ่มใช้เวลาทำอัลบั้มชุดที่สองอย่างจริงจังอยู่พักหนึ่ง รวบรวมเพลงบางเพลงที่แต่งสะสมเอาไว้ตลอดหลายปี รวมกับเพลงใหม่ๆ ที่ค่อยๆ ก่อร่างขึ้นมา คราวนี้พวกเขาทำเพลงกันเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแต่งเพลงยันการโปรโมต และตั้งชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่า Magic Moment 

หนนี้ฟรายเดย์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีเพลงดังหลายเพลง มีคอนเสิร์ตหลายต่อหลายครั้ง

Friday back

เพลงแรกที่ฟรายเดย์ปล่อยออกมาเป็นเพลงโปรโมตคือ ‘หลงทาง’ เพลงสนุกๆ เท่ๆ ซึ่งเป็นเหมือนบทบันทึกและคำสารภาพต่อแฟนเพลงถึงการห่างหายไปหลายปีของวงฟรายเดย์ ในขณะที่เพลงโปรโมตต่อๆ มาอย่าง ‘เปลี่ยนไปทุกอย่าง’ และ ‘ชั่วโมงต้องมนต์’​ ก็เป็นเพลงป๊อปที่ติดหูหมับตั้งแต่แรกฟัง เรียกว่าสามหนุ่มวงฟรายเดย์เอาประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวจากแวดวงดนตรีหลายๆ ปีมาใช้อย่างเต็มที่

ในอัลบั้มนี้ยังมีเพลงช้าๆ เหงาๆ อย่าง ‘หนาวนี้’ ซึ่งแต่งทำนองโดยหนึ่งที่ชวนให้นึกถึงเพลงป๊อปญี่ปุ่นสบายๆ มีเพลงอะคูสติกที่เท่จับใจอย่าง ‘เมื่อไหร่จะได้พบ’ ที่ดุลย์แต่งทำนองเอาไว้ แล้วบอยก็หยิบมาแต่งเนื้อร้องเพื่อมอบเป็นของขวัญให้เพื่อนในวันที่ต้องไกลบ้านไปเรียนต่อต่างประเทศ

ยังไม่หมด อัลบั้ม Magic Moment ยังมีเพลงที่น่ารักมากๆ อย่าง ‘สองคำ’ ที่ได้ฟังแล้วต้องอมยิ้ม มีเพลง ‘ดาวตก’ ที่น่ารักยิ่งกว่า เป็นอีกมุมหนึ่งของคนที่ชอบสนทนากับท้องฟ้าและดวงดาว และยังมีเพลง ‘อยู่คนเดียวอีกแล้ว’ ที่ชิลล์มากๆ เป็นเพลงเนิบๆ แบบที่ชวนเหงา แต่สุ้มเสียงเครื่องสายและซินธ์ก็ทำให้เป็นความเหงาที่มีสีสันไม่เบา เพลงนี้ถูกวางต่อด้วยแทร็กเพลงบรรเลงกึ่งบรรยากาศสั้นๆ ชื่อ ‘หมอง’ ที่ปล่อยให้คนฟังได้ตีความและปล่อยความรู้สึกอย่างอิสระด้วย

อัลบั้มนี้ยังมีเพลงอกหักสุดครีเอทีฟอย่าง ‘ต่างคนต่างรอ’ ที่บอยแต่งจากมุมมองของชายหนุ่มที่เฝ้ารอหญิงสาว ผู้เฝ้ารอชายหนุ่มอีกคน จนไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นคนเลิกรอก่อนกัน เพลงนี้มีสุ้มซาวนด์อ้างว้างกว้างไกล ฟังดูมีมิติลึกซึ้ง ในขณะที่เนื้อเพลงก็เล่นคำได้อย่างน่าสนใจ

เรื่องเก่าๆ ซ้ำๆ คำถามเดิมๆ ซ้ำๆ กี่ทีที่ถาม มันก็ยังเหมือนเคย

เพราะเธอจะตอบซ้ำๆ ในหัวใจเธอไม่มีฉันเลย เธออยากจะรอแต่เขา 

แต่ต่อให้ใจฉันช้ำ ก็ยังอยากจะบอกซ้ำๆ ให้คำทุกคำ ที่มีอยู่ข้างใน

คอยกล่อมใจเธอทุกครั้ง จนลืมเขาไป 

จะนานแสนนาน นานเท่าไหร่ กว่าใจของเธอจะได้ลืมเขา

ในแง่การเติบโตแล้ว อัลบั้ม Magic Moment ถือเป็นก้าวกระโดดจากอัลบั้มแรก และจนวันนี้ ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว ก็ยังเป็นอัลบั้มป๊อปร็อกชุดหนึ่งที่หยิบมาฟังวนๆ ได้ไม่รู้เบื่อ เหมือนสามหนุ่มวงฟรายเดย์ได้กลับมาแก้มือ คลี่คลายคำถามที่ค้างคา และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาได้ทำงานเพลงต่อมาอีกมากมาย (ส่วนตัวแล้ว ผมยังชอบอัลบั้ม Song For Tomorrow ที่ออกมาอีก 5 ปีให้หลังมากๆ อีกชุดด้วยครับ)

หลังจากความสำเร็จของอัลบั้มนี้ ก็เหมือนคำถามที่ได้รับคำตอบ เหมือนความฝันที่ค้างคาได้ประสบความสำเร็จ ทั้งสามคนก็ทิ้งท้ายด้วยอีพีชุด FRI_end (2003)

ปี 2014 ราว 13 ปี หลังจาก Magic Moment ถูกปล่อยออกมา พวกเขาก็หยิบอัลบั้มนี้มาทำเป็นแผ่นเสียงและวางจำหน่ายในห้วงเวลาที่แผ่นเสียงเริ่มกลับมาได้รับความนิยม

อย่างที่บอก อัลบั้ม Magic Moment เป็นหนึ่งในอัลบั้มแบบที่เราฟังได้ไม่เบื่อ แต่เมื่อได้ฟังอีกครั้งในรูปแบบแผ่นเสียง ได้บรรจงวางเข็มลงบนร่องเสียงอย่างแผ่วเบา เสียงเพลงทุ้มนุ่มมีมิติค่อยๆ เริ่มบรรเลงจากแทร็กแรก ‘ชั่วโมงต้องมนต์’ เป็นต้นไป วันเวลาในช่วงรุ่งเรืองยุคหนึ่งของดนตรีอินดี้ไทย คลื่นแฟตเรดิโอที่เปี่ยมสีสัน นิตยสาร a day ยุคแรกเริ่ม งานแฟต เฟสติวัล ครั้งแรกๆ และเหล่าผู้คนหรือเรื่องราวในช่วงต้นศตวรรษใหม่ก็หวนกลับมา วันเวลาเหล่านั้นที่เราเคยค้นคว้าหาคำตอบ เคยหลงทาง เคยมีความฝันที่พังทลายแล้วต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ หลายๆ ชั่วโมงที่ใจไหวหวั่น หรือหลายๆ วันที่เหงาๆ ทึมๆ สีเทาๆ ในอดีตก็หวนกลับมาอยู่ในห้วงคำนึงอีกครั้ง

ไม่ใช่แค่คนฟังเพลงอย่างเราๆ หรอก ผมคิดว่า ดุลย์ บอย และ หนึ่ง ก็อาจจะรู้สึกเช่นนี้ …อาจจะรู้สึกมากกว่าเราทุกครั้งที่ได้ฟังอัลบั้มนี้ก็เป็นได้

——————————————————————————————————————–

แผ่นเสียงอัลบั้ม Magic Moment ยังพอมีจำหน่ายในเว็บไซต์ happeningandfriends.com ที่ลิงก์นี้ https://happeningandfriends.com/product-detail/1203?lang=th

AUTHOR