TU!! ศิลปินที่สนุกกับภาพประกอบขยับได้ และเชื่อว่า NFT ช่วยให้ศิลปินไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อนที่ศิลปินไทยเพิ่งก้าวลงสู่สนาม NFT กันได้ไม่นาน การจะเข็นผลงานสักชิ้นหนึ่งให้มียอดการประมูลแตะ 1 ETH (ประมาณหนึ่งแสนบาท) ยังถือเป็นความท้าทายที่ไม่ได้จะทำกันง่ายๆ นัก แต่ ‘TU!!’ หรือ ‘ตุ๊–ณัชพล ตุ๊เสงี่ยม’ คือศิลปินคนแรกๆ ของไทยที่ผลักพาผลงานของตัวเองจนสามารถพุ่งทะลุ 1 ETH ได้สำเร็จ

“ศิลปินไทยทุกวันนี้เก่งมากเลยนะ ซึ่งเรามองว่า NFT นี่แหละทำให้นักสะสมทั่วโลกเห็นว่า มีศิลปินตัวท็อปๆ เยอะมาก และตระหนักว่าชุมชนของนักวาดภาพชาวไทยมันกำลังร้อนแรงจริงๆ”

ไม่ต่างอะไรกับศิลปินหลายคนที่หลงใหลการวาดรูปตั้งแต่เด็กๆ ตุ๊เล่าว่า ตั้งแต่ที่เริ่มจำความได้เขาก็สนุกกับการหยิบปากกามาขีดๆ เขียนๆ กำแพงบ้านอยู่ตลอดเวลาแล้ว

“ตอนเด็กๆ เรามีความฝันอยากเป็นศิลปินนะ เพียงแต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโตไปเราจะเป็นศิลปินแบบไหน เพราะสมัยก่อนเราก็เห็นภาพของอาจารย์เฉลิมชัยที่วาดรูปได้เป็นล้านๆ ซึ่งมันไกลตัวมากๆ เพียงแต่เราก็พยายามฝึกฝนทักษะการวาดรูปอยู่เรื่อยๆ”

กระทั่งช่วง ม.ปลายตุ๊ก็ได้รู้จักกับผลงานของ ‘PUCK’ (หมู–ไตรภัค สุภวัฒนา) นักวาดการ์ตูนชาวไทยที่กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ตุ๊พัฒนาลายเส้นของตัวเองเรื่อยมาจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

“เราชอบสไตล์ของพี่หมู ไตรภัคมากๆ แต่ถ้าเทียบกันแล้วสไตล์ของพี่หมูจะมีความดิบเถื่อนอยู่หน่อยๆ ในขณะที่เราจะชอบความสว่างสดใส และความสะอาดตามากกว่า เราเลยใช้จุดนี้เพื่อทำให้ลายเส้นของตัวเองแตกต่างไปจากเขา โดยที่อีกแรงบันดาลใจหนึ่งของเราคือ การ์ตูนอเมริกันอย่าง Rick and Morty”

เมื่อเวลาผ่านไป ลายเส้นของตุ๊เองก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตเห็นในผลงานของตัวเองก็คือ ‘ความเป็นเด็ก’ ซึ่งกลายมาเป็นคอนเซปต์สำคัญในผลงานแทบทุกชิ้น ไม่ว่าเนื้อหาในภาพจะจริงจังแค่ไหน แต่ตุ๊ก็มักจะถ่ายทอดและนำเสนอมันออกมาอย่างสนุกและสดใสอยู่เสมอ

เมื่อมองเผินๆ งานของตุ๊อาจดูเหมือนภาพประกอบนิ่งๆ ทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของงานที่ตุ๊สร้างสรรค์นั้นเต็มไปด้วยมูฟเมนต์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนั้น ซึ่งตุ๊เองนิยามงานสไตล์นี้ว่า ‘ภาพประกอบที่ขยับได้’

“เราชอบการขยับ เพราะเรารู้สึกว่าการขยับสามารถเล่าเรื่องได้ดี มันช่วยปรุงแต่งวิชวลเพิ่มเติมและช่วยไกด์ความรู้สึกให้กับคนดูสามารถจินตนาการต่อได้ง่ายขึ้น”

ด้วยความที่คุ้นเคยกับการผลิตผลงานศิลปะที่มีลูกเล่นอยู่ก่อนแล้ว นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ตุ๊ได้รับการเชิญชวนจากนักสะสมคนหนึ่งให้มาลงขายผลงานของตัวเองใน NFT ดู 

“ชิ้นแรกที่เราลงไปก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่พอเราลงผลงานชิ้นที่สองนั่นแหละที่ทำให้มีคนสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นพอถึงจุดหนึ่งที่เราสามารถพาผลงานของตัวเองให้ไปแตะหลักแสนได้ เราก็เลยมองว่า NFT น่าจะกลายเป็นเส้นทางหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเราในฐานะศิลปินได้แล้ว”

“เราดีใจที่ได้เห็นศิลปินไทยหลายๆ คนขายผลงานได้มากขึ้นผ่าน NFT นะ แล้วมันก็ทำให้นักสะสมชาวต่างชาติตระหนักว่า ประเทศไทยยังมีศิลปินเจ๋งๆ อยู่อีกเยอะมากที่ยังไม่เคยถูกมองเห็น เพียงแต่ในขณะที่ NFT มันเปิดโอกาสให้กับศิลปินจำนวนมากก็จริง แต่เราก็ไม่อยากให้มองว่า NFT คือคำตอบของชีวิตศิลปินหลังจากนี้

“แน่นอนว่าตอนนี้มันสร้างรายได้ให้กับศิลปินได้จริงๆ แต่ถึงจุดหนึ่งแพลตฟอร์มมันก็อาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างตอนนี้แม้ว่าเราจะขายงานได้หลายชิ้นจาก NFT แต่เราก็ยังทำงานอื่นอยู่เรื่อยๆ เพราะเราไม่อยากให้มองว่า NFT คือคำตอบสุดท้าย”

ผลงานภาพประกอบที่เคลื่อนไหวได้และพร้อมจะปล่อยพลังงานอันแสนคึกคักอยู่ตลอดเวลาคือหัวใจสำคัญในงานศิลปะของ TU!! ที่เราสัมผัสได้ ซึ่งเราก็เชื่อว่าความสนุกสนานในผลงานชิ้นต่างๆ จะส่งให้การเดินทางในฐานะศิลปินของ TU!! ยังไปได้อีกไกล ไม่ว่าจะใน NFT หรือแพลตฟอร์มใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นมาหลังจากนี้ 

นี่คือ 5 ผลงานของ TU!! ที่จะช่วยให้รู้จักตัวตนและวิธีคิดของเขามากขึ้น


‘ OLD BELIEF / NEW BELIEF ’

TU!!

“งานนี้ไม่ใช่งานชิ้นแรกที่เราลงขายใน NFT แต่เป็นงานชิ้นแรกที่พาเราไปแตะ 1ETH เราชอบงานนี้ในแง่ของไอเดีย เพราะเราพยายามจะเล่นกับความเชื่อ ค่านิยม และวัฒนธรรมของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ศาสนาก็เหมือนกัน อย่างในตอนนี้มันกลายเป็นว่า มนุษย์สามารถนับถืออะไรก็ได้แล้ว บางคนอาจจะนับถือตัวเองก็ได้ นับถือจิตวิญญาณก็ได้ หรือกระทั่งศาสนาเบคอนยังมี เราชอบงานนี้เพราะมันมี storytelling อยู่ในงาน”

NEW WORLD (TU!! X Safeplanet)

TU!!

“งานนี้ Safeplanet มาชวนเพราะเห็นผลงานเราใน NFT ซึ่งตอนนั้นเขากำลังจะปล่อยเพลงใหม่พอดี ด้วยความที่เราชอบทำงานที่เป็นปกเพลงอยู่แล้วก็เลยยิ่งเข้าทางเขาพอดี โจทย์ของ Safeplanet คือ อยากได้งานที่มีความเป็นญี่ปุ่น city pop หน่อยๆ ผสมผสานกับไอเดียของเราที่พอได้ฟังเพลงนี้ (โลกใบใหม่) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรักเราไหม มันคือการเดิมพันน่ะ เราก็เลยนึกถึงการพนัน เอเลเมนต์หลายๆ อย่างในภาพมันเลยจะมีความเกี่ยวข้องกับการพนัน ไม่ว่าจะเป็นลูกเต๋า รูเลตต์ และสล็อตแมชชีน ซึ่งทางวง Safeplanet ก็ชอบไอเดียมากๆ เป็นงานที่ส่งดราฟต์เดียวผ่านเลย”

ADVENTURE OF MY HEAD

TU!!

“เราชอบงานนี้เพราะเราอะแดปต์มันเข้ากับสเกตบอร์ด จะเห็นว่ารูปทรงของภาพมันจะเป็นทรงของแผ่นสเกตบอร์ด ความพิเศษคืองานนี้เราขายเป็น bundle คือถ้าใครชนะประมูลงานชิ้นนี้ก็จะได้แผ่นสเกตบอร์ดจริงๆ ไปด้วย ซึ่งคนที่ชนะก็เป็นนักสะสมจากอเมริกา 

“แนวคิดของงานนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก คือการที่เราสะท้อนภาพที่อยู่ในหัวของเราออกมา เช่น เรื่องความมั่นคง เรื่องความฝันที่เราอยากจะไปพ่นกำแพง เรื่องสาวๆ (หัวเราะ)”

WELCOME TO CAPITALISM

“งานนี้เล่นกับประเด็นทุนนิยมผูกขาด โดยที่แมวกวักคือสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งที่ยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกัน มันกลับค่อยๆ ทำลายคนตัวเล็กตัวน้อย ร้านชำเล็กๆ ที่ถูกแมวกวักตัวใหญ่บดขยี้ และกอบโกยถุงเงินถุงทองไปเรื่อยๆ ส่วนปืนที่แมวถืออยู่ก็สื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วแมวกวักตัวนี้มันกำลังปล้นอะไรจากใครไปหรือเปล่า”

PYRAMID PARTY

“ชิ้นนี้เป็นงานที่เรากำลังจะปล่อยขายเร็วๆ นี้ ก็เลยตัดสินใจเลือกมาโปรโมตให้ดูเลย โดยไอเดียของงานชิ้นนี้คือการเล่นกับเพลง EDM สไตล์อียิปต์ เราก็เลยเลือกหยิบเอเลเมนต์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับอียิปต์มาวาดเป็นงานชิ้นนี้

“อีกอย่างคือเรายังไปชวนศิลปินคนหนึ่งมาแต่งเพลงให้กับภาพนี้ด้วย สำหรับใครที่ประมูลงานนี้ไปจึงไม่เพียงจะได้ภาพนี้อย่างเดียว แต่ยังจะได้เพลงประกอบที่แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับภาพนี้ไปด้วย”

#aday #IllusStation #NFT

_________________

‘Illus Station: NFT Edition’ คือซีรีส์บทสัมภาษณ์ศิลปินและนักวาดภาพประกอบชาวไทยที่ทำผลงานโดดเด่นและน่าสนใจในสนาม NFT แพลตฟอร์มการทำงานในรูปแบบดิจิทัลที่ทำงานด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินทั่วโลกได้ซื้อ-ขายผลงานและแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจแบบไร้พรมแดน  

AUTHOR