ผู้กำกับ: จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ
เขียนและดัดแปลงบท: ปานรัตน กริชชาญชัย
สถานที่: Democrazy Theatre Studio
ถ้าไม่นับช่วงเวลาขณะฝันที่จินตนาการพาเราเลยเถิดไปไกล
เรามีสิทธิเป็นคนอื่นได้ในห้องเรียนการแสดง
ละครเวทีโปรดักชันเล็กๆ
เรื่องล่าสุดของจตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ ชวนเราเข้าไปนั่งดูคลาสสอนการแสดงสุดเฮฮา
(เอ่อ…และออกจะเพี้ยนไปบ้าง) ของครูมัทนี (กิตติพร อุดมรัตนกูลชัย)
กับนักเรียน 4 คนต่างวัยต่างเป้าหมาย ทั้งสามารถ (เกรียงไกร ฟูเกษม) สามีของเธอเอง
ชัช (คอลิด มิดำ) หนุ่มช่างไม้ซื่อๆ ผู้อาศัยอยู่ท้ายซอย ริน (นวลปณต ณัฐ
เขียนภักดี) สาวน้อยแสนสวยสุดมั่นใจผู้มีความฝันอยากเป็นนักแสดง และตัวบุ้ง
(ปุณิกา หรั่งฉายา)
นักเรียนสัตวแพทย์ที่มาเรียนการแสดงเพราะอยากเล่นละครเวทีให้คนอื่นได้ชื่นชม
ความสัมพันธ์ของคน 5 คนในระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่เดินไปเดินมา นอนหลับตานับเลข 1 – 10 ไม่ให้ชนกัน ผลัดออกมาแสดงเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของอื่นๆ ตามคำบอกเล่าของเพื่อนร่วมคลาสที่เคยเกิดขึ้น จำลองสถานการณ์ฝันหวานที่แต่ละคนยังจดจำได้ และการเปิดใจเล่าเรื่องราวส่วนตัวบางอย่างให้กันและกันในช่วงพักการเรียน
ทั้งหมดผ่านไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ซ้อนทับไปมา ที่ทำให้คนดูอย่างเราค่อยๆ
ปะติดปะต่อ คาดเดา และล่วงรู้ความสัมพันธ์ที่ 5 คนนี้มีต่อกันและกัน รวมไปถึงความสัมพันธ์อื่นที่ผ่านไปแล้ว
แต่ยังมีหลายคนคิดถึงมันอยู่
ในชั่วขณะที่เรา ‘แสดง’ เป็นคนอื่น
เราย่อมดึงเอาความรู้สึกส่วนตัวที่เคยมี จดจำ เกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นเข้ามาใช้
และเผลอทำให้นึกถึงไปด้วย และเมื่อเรากลับไปเป็นตัวเอง ก็ยังคงมีความรู้สึกของคนอื่นนั้นเชื่อมโยงติดกลับมาใส่ตัวไม่มากก็น้อย
การเป็นคนอื่นเลยหมายถึงการที่เราทิ้งตัวตนของตัวเองไปในบางครั้ง
เพื่อรับเอาคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยกันในบางช่วงเวลาของชีวิต คนเหล่านั้นเข้ามาสร้างความสัมพันธ์กับเราทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ละครบอกเราถึงการเดินผ่านกันของคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิต มีปฏิสัมพันธ์กัน และจากกันไป รวมถึงความจริงที่ว่า เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก ไม่ได้ข่าวคราวของกันและกันอีก
ถึงจะเขียนเล่ามาเหมือนว่ามีเนื้อหาสุดจริงจังชวนเสียน้ำตา
(ซึ่งถ้าใช้เวลาตกตะกอนดีๆ
คงมีเรื่องของคนที่เคยเข้ามาสร้างสัมพันธ์ด้วยผุดขึ้นมาในหัวแน่ๆ) แต่ หลับตาเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี
มีวัวหนึ่งตัว เล่าเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยการแสดงแสนจริง ประดับมุขและจังหวะคอเมดี้แบบที่เราปรบมือให้หมดใจ
หลายๆ ช่วงในเรื่องทำเราขำแทบตกเก้าอี้ (โปรดระวังไว้ด้วย)
ที่สำคัญคือความเข้าขากันดีของนักแสดงทั้ง 5 คนที่เราเชื่อและเห็นพวกเขาเป็นตัวละครเหล่านั้นที่กักเก็บความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไว้กับตัวจริงๆ
เราชอบการแสดงของตอย นวลปณต
ที่ถึงจะดูออกว่าเป็นบทที่ไม่ยากนัก
แต่การกุมเรื่องราวมากมายไว้ภายใต้สีหน้าท่าทางสดใสก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนตัวละครที่เราสังเกตเยอะมากๆ
อย่างตัวบุ้งว่าต้องมีอะไรแน่ๆ ก็ได้เดียร์ ปุณิกา มาสื่อสารได้อย่างชัดเจนจนน่าหมั่นไส้
และเอาใจเราไปทั้งหมดในฉากสุดท้ายของเรื่องที่ตัวบุ้งกับชัชมาพูดคุยกัน ซึ่งเรายกให้เป็นฉากจบที่จะเป็นภาพจำของเราในเรื่องนี้ไปเลย
ฉากจบที่บอกเราว่า ต่อให้ผ่านเวลาไปอีก
10 ปี
เราก็จะมีคนอื่นผ่านมาและผ่านไปในชีวิตเรื่อยไปอยู่ดี
หลับตาเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี มีวัวหนึ่งตัว
แสดงถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2559
ทุกวัน ยกเว้นวันอังคารและพุธ รอบการแสดง 19.30 น.
ติดต่อจองบัตรได้ที่ 08-6899-5669 หรือหน้าเพจอีเวนต์
ภาพ Democrazy Theatre Studio