5 สถานที่ชวนหลงใหลในซอยนานา ที่มีอะไรต่างๆ นานาให้ดูเพลิน

วินาทีนี้คงไม่มีซอยไหนในกรุงเทพฯ ที่จะฮิตและฮิปเท่าซอยนานาอีกแล้ว เกริ่นให้เข้าใจก่อนว่าซอยนานาที่ว่าอยู่ใกล้ๆ วงเวียน 22 กรกฎาตรงเยาวราช มีเจ้าของเดียวกันกับซอยนานาตรงสุขุมวิทนั่นแหละ จาก ‘ซินแซโกย’ ที่เคยเป็นตรอกขายยาจีนใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ กลายมาเป็นซอยที่เต็มไปด้วยร้างรวงในตึกแถวเก่าสุดจะมีสไตล์ของหนุ่มสาวและชาวต่างชาติที่อยู่ร่วมกับชาวบ้านผู้อาศัยอยู่ก่อนได้อย่างกลมกลืนในช่วงปีสองปีมานี้เอง

รู้ดีว่าซอยนานาถูกพูดถึงไปจนพรุนทุกตรอกแล้ว แต่เราก็ยังอยากชวนขี่มอเตอร์ไซค์คันเท่ไปจอดหน้าประตูไม้บานเก่า แล้วเข้าไปดูร้านรวงใหม่ๆ ที่สร้างสีสันให้ย่านนี้คึกคักได้ทุกวันกันอีกที เพราะซอยนี้เขามีสถานที่ต่างๆ นานาเยอะมากจริงๆ

01

ทักทายศิลปินและชิลล์ในอีเวนต์สนุกๆ ที่ Cho Why

ตึกแถวสองชั้นที่ตั้งอยู่ใจกลางซอยนานานี้เปรียบเหมือนศูนย์รวมของศิลปินทั้งไทยและต่างชาติให้มาเจอกันเวลาที่จัดนิทรรศการศิลปะเจ๋งๆ หาชมได้ยากตลอดมา พื้นที่นี้ก่อตั้งโดยกลุ่มเพื่อนชาวสไทยและต่างชาติหลายคนซึ่งพวกเขานิยามที่นี่ว่าเป็น Open Project Space ที่ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่นิทรรศการภาพถ่าย งานจัดฉายภาพยนตร์บนดาดฟ้าสุดโคซี่ หรือปาร์ตี้ชวนมาชิมอาหารอร่อยๆ เคล้าเสียงเพลงและการเต้นรำในบ่ายวันอาทิตย์อย่าง ‘Vermouth Session’

ตอนนี้ Cho Why กำลังซุ่มเตรียม 2 งานใหญ่ที่จะจัดในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งงานเปิดตัวโฟโต้บุ๊กรวมภาพบ้านเรือนและอาคารเก่าในเมืองย่างกุ้ง ‘Relics of Rangoon’ ของช่างภาพอเมริกัน Philip Heijmans, นิทรรศการภาพถ่ายสงครามที่อายุภาพกว่า 45 ปี ฝีมือช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์ David Longstreath บอกแล้วว่าทุกอีเวนต์ของที่นี่เขาฮิปจริง แถมยังเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม กับคนต่างชาติต่างภาษาได้อีกด้วย

Cho Why เปิดในวันที่มีอีเวนต์และนิทรรศการจัดแสดง / [email protected] / facebook | Cho Why


02

เลือกซื้อดอกไม้สดใสในตึกสวยบาดใจที่
Oneday Wallflowers Oldtown

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงซอยสุขุมวิท 26 นี้กันบ้าง แต่ตึกเก่าเพดานสูงสองห้องนี้คือพื้นที่ทำงานใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อต้นปีของทีม Oneday Wallflower สำหรับจัดเตรียมงานสเกลใหญ่ๆ และใช้ทำเวิร์กช็อปจัดดอกไม้ของทางร้านได้สะดวกขึ้น ที่เราชอบมากคือห้องเย็นขนาดใหญ่ที่ไว้สต็อกดอกไม้ให้สด แถมยังอวดความสวยและสีสันผ่านกระจกใสหน้าร้านจนใครผ่านไปมาก็อดใจไม่ไหวต้องซื้อกลับไปสักช่อ ลักษณ์-ณัฐพัชร สุริยะกำพล บอกว่า ที่นี่อาจไม่ใช่คาเฟ่แบบที่หลายคนเชียร์ให้เป็น (เราด้วย-เพราะร้านสวยมากจนตกหลุมรัก) แต่ก็ยินดีต้อนรับทุกคนที่อยากมาเลือกซื้อดอกไม้ ถ่ายรูป หรือพูดคุยกันในบรรยากาศสุดชื่นใจนี้ตลอดนะ

Oneday Wallflowers Oldtown เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 20.00 น. / โทร. 094-661-7997 / facebook | Oneday wallflowers


03

สวมวิญญาณสาววินเทจในร้านเสื้อผ้าสุดเก๋ที่ La Maison de Poupeé

ด้านหลังประตูไม้สีฟ้าที่เหลือเพียงไม่กี่หลังในซอยนานา ใครจะรู้ว่ามีร้านเสื้อผ้าผู้หญิงทรงวินเทจยุค 50 – 60 อยู่ด้วย ปูเป้-สุดาภรณ์ แซ่เอี้ย เลือกหาเสื้อผ้าตามตลาดทั่วไปมามิกซ์แอนด์แมตช์เสียใหม่ ปรับให้ตรงใจลูกค้าโซนยุโรปโดยเฉพาะชาวสเปนที่แวะเวียนมาจนกลายเป็นร้านประจำที่ต้องได้อะไรติดมือกลับไปทุกครั้ง ตอนนี้ที่ร้านแขวนเดรสยาวพิมพ์ลายสดใส เป็นคอลเลกชันซัมเมอร์รับลมร้อนที่สาวไทยก็ซื้อไปใส่ได้ไม่เขิน ส่วนหนุ่มๆ ก็เลือกซื้อเสื้อยืดใส่สบายไปพลางระหว่างรอแฟนสาวลองเสื้อได้นะ


La Maison de Poupeé 
สอบถามวันเวลาเปิดปิดร้านในแต่ละวันได้ที่ โทร. 085-126-0046 / facebook | La Maison de Poupeé Bangkok


04

สร้างบทสนทนาดีๆ ระหว่างมื้ออาหารกับเพื่อนใหม่ที่ El Chiringuito

เดินเที่ยวมาหลายที่ก็ได้เวลาเติมพลังกันหน่อย ตึกหลังนี้เป็นบ้านที่ปูเป้และ Victor Hierro พักอยู่ และใช้ชั้นล่างเปิดเป็นบาร์กึ่งร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวได้นั่งกินดื่มกันชิลล์ๆ อาหารของที่นี่เป็นทาปาสสัญชาติสเปนจานเล็กๆ อย่าง Abondigas พอร์คบอลนุ่มๆ กินคู่ขนมปังกรอบ หรือจะสั่งไข่เจียวสไตล์สเปน Pincho Tortilla กับพิซซ่ามากินแกล้มเครื่องดื่มก็ไม่ผิด ถือเป็นแหล่งแฮงก์เอาต์ที่นักท่องเที่ยวชาวสเปนรู้จักกันดี แวะมานั่งแป๊บเดียวรับรองได้เพื่อนใหม่กลับไป เพราะคนสเปนน่ะชอบคุยอยู่แล้ว

El Chiringuito เปิดวันพฤหัสบดี – อาทิตย์ 18.00 – 24.00 น. / โทร. 085-126-0046 / facebook | El Chiringuito


05

นั่งพักที่คาเฟ่ในเกสต์เฮาส์สไตล์เก่าๆ Baan Yok

ตึกเก่าอีกหลังที่ติดกับ El Chiringuito ก็เป็นของปูเป้เช่นกัน ที่นี่เพิ่งเปิดเป็นเกสต์เฮาส์ให้นักท่องเที่ยวเข้าพักเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ห้องพักทั้ง 4 เซ็ตรีโนเวทใหม่ให้โมเดิร์นขึ้นตามไอเดียของวิกเตอร์ แต่ยังคงสไตล์ของประตู หน้าต่างไม้แบบจีนไว้อยู่เดิม เพิ่มเติมด้วยข้าวของเก่าๆ อย่างขวดแก้วในตู้ไม้ กรอบรูปตราปั๊มภาพโฆษณาสมัยก่อนซึ่งเป็นของสะสมของทั้งคู่ให้เหมือนนั่งอยู่ในบ้านสวยสมัยก่อน แต่ถึงจะไม่ใช่แขกที่มาพักก็สามารถเดินเข้ามาสั่งสมูทตี้เสาวรสสุดชื่นใจ หรือเปิดโน้ตบุ๊กทำงานได้สบายๆ ส่วนใครอยากลองมาพักในบ้านเก่าสไตล์จีนอย่างนี้ต้องเข้าไปจองผ่าน Airbnb เท่านั้น ไม่รับนักท่องเที่ยวที่วอล์กอินเข้ามานะ

 

Baan Yok เปิดทุกวัน / โทร. 085-126-0046 / facebook | BaanYok

ภาพ มณีนุช บุญเรือง

AUTHOR