5 สถานที่เดินชิลล์ผมปลิวลมในซอยสีลม 19

ในย่านเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ
อย่างถนนสีลมที่เต็มไปด้วยมนุษย์เงินเดือนเดินกันขวักไขว่อาคารสำนักงานใหญ่ๆ รวมไปถึงสถานที่ทันสมัยบ่งบอกไลฟ์สไตล์คนเมืองใครจะรู้ว่าแค่เราเดินเลยซอยวัดแขกไปอีกประมาณ 3 ซอยยังมีซอยเล็กๆ ที่น่าสนใจอย่างซอยสีลม
19 ซึ่งเป็นแหล่งซ่อนตัวของแกลเลอรี่ ห้องสมุดชั้นดี
รวมถึงร้านอาหารรสเลิศ ใครย่างเท้าก้าวเข้าไปในซอยนี้รับรองว่าจะหลงรักจนต้องแวะกลับมาอีกแน่นอน

01

NOB Café ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่ไม่ได้มีดีแค่กาแฟ

เริ่มต้นกันที่โครงการบ้านสีลม คอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ด้านหน้าซอย
ที่นี่มีร้านกาแฟน่ารักบรรยากาศอบอุ่น แถมยังเสิร์ฟอาหารหลากหลายตั้งแต่อาหารเช้า
ขนมหวาน และเครื่องดื่มร้อนเย็น คัดสรรเมล็ดกาแฟอาราบิกาให้เลือกทั้งแบบคั่วเข้มและคั่วกลาง
เมนูแนะนำที่อยากให้ลองชิมคือ NOB Sandwich แซนด์วิชซิกเนเจอร์ของร้านเสิร์ฟพร้อมสลัดและซอสมะเขือเทศ, คาราเมลมัคคิอาโต้รสนุ่มๆ, สมูทตี้ดรีมมี่เบอร์รี่
และบราวนี่ไอศครีมวานิลลา นอกจากของกินเพลินพุงแล้ว NOB Café ยังมีโซนขายของแฮนด์เมดน่ารักๆ และของตกแต่งบ้านน่าซื้ออย่างงานเซรามิก หมอนอิง หมวก ผ้าพันคอ ถุงเท้า ลองแวะมาเลือกดูสินค้าที่การันตีว่าร้านนี้เขาไม่ได้มีดีแค่กาแฟจริงๆ กันล่ะ

NOB Café เปิดทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 06.30 – 20.00
น., เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 18.00 น. / โทร. 088-607-6772 / Facebook
| NOB cafe’


02

ลิ้มลองอาหารอิตาเลียนต้นตำรับที่ Lo Strabacco Italian Restaurant and Pizzeria

ออกจากบ้านสีลมมาสักนิดก็เดินมาเจอ Lo
Strabacco ร้านอาหารอิตาเลียนสูตรดั้งเดิมที่ Luca Ozino เจ้าของร้านบอกว่าคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำเข้าจากอิตาลี
ส่วนเส้นพาสต้าก็ทำเองสูตรเฉพาะของทางร้าน เมนูส่วนใหญ่เน้นเป็นอาหารพื้นเมืองอย่าง
Caprese สลัดมะเขือเทศพร้อมชีสมอสซาเรลล่า, ปลากะพงย่าง BranzinoFiletto, Cotoletteaalla Milanese พอร์คช็อปชุบเกล็ดขนมปังทอดเสิร์ฟพร้อมสลัด, Pomodoro สปาเกตตีซอสมะเขือเทศหรือ Bruschetta
ขนมปังกรอบโปะหน้ามะเขือเทศสับละเอียดที่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยประจำครัวอิตาเลียน
ถ้าอยากจิบไวน์ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายชนิด ไปถึงย่านสีลมทั้งทีจะไม่แวะชิมอาหารต่างชาติเสียหน่อยก็คงเหมือนไปไม่ถึง

Lo Strabacco Italian Restaurant and Pizzeria เปิดทุกวัน
11.30 – 15.30 น. และ 17.30 –
23.30 น. / โทร. 0-2237-7009 / Facebook
| Lo Strabacco


03

หลุดเข้าไปในห้องสมุดศิลปะร่วมสมัย และแลกเปลี่ยนพูดคุยกับหนอนหนังสือด้วยกันที่ The Reading Room

ป้ายเล็กๆ ด้านหน้าบันไดทางเข้าตึกที่แสนเรียบง่ายถัดจากร้าน
Lo Strabacco เพียง 1 คูหาอาจจะหายากหน่อยถ้าไม่สังเกตดีๆ
แต่ถือว่าทดสอบสายตาก่อนมาอ่านหนังสือแล้วกัน เดินขึ้นไปยังชั้น 4 จะพบจุดหมายของคนรักหนังสือและศิลปะในห้องที่ไม่ได้ใหญ่โอ่อ่า
แต่บรรยากาศอบอุ่นเพราะแน่นไปด้วยหนังสือไทย-อังกฤษเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกี๊ยว-นราวัลลภ์ ปฐมวัฒน ผู้ก่อตั้งห้องสมุดแห่งนี้เพราะอยากเปิดพื้นที่ให้คนได้มาแลกเปลี่ยนแนวคิด
และเข้าถึงข้อมูลความรู้ด้านศิลปะกันได้ฟรีๆ ไม่ต้องเสียค่าเข้า ไม่มีระบบสมาชิก ถ้าสนใจยืมหนังสือหรือดีวีดีก็แค่ลงชื่อไว้แล้วเอาไปเสพให้พอใจที่บ้านได้เลย

ที่นี่ยังขยันจัดเสวนา ฉายภาพยนตร์ หรือแม้แต่แสดงละครในประเด็นเกี่ยวกับวรรณกรรม
ศิลปะ ไปจนถึงเรื่องสังคมการเมืองอยู่บ่อยๆ อย่างช่วงนี้มีโปรเจกต์ SLEEPOVER ที่ชวนบุคคลและองค์กรด้านศิลปวัฒนธรรมมาใช้พื้นที่สร้างกิจกรรมชวนวิพากษ์ในหัวข้อต่างๆ
ตามแต่ละเดือน ส่วนเสาร์อาทิตย์ที่ 25 – 26 มิถุนายนนี้ ยังมีงานฉายสารคดีและภาพยนตร์ทดลองจากฟิล์มไวรัสอีกด้วย
แนะนำเลยว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในกรุงเทพฯ ที่ควรมาสักครั้ง

The Reading Room เปิดวันพุธ – อาทิตย์ 13.00 – 19.00 น./ โทร. 0-2635-3674 / Facebook l The Reading Room, Bangkok


04

ชมงานศิลปะคัดสรรจาก 3 สัญชาติที่ Thavibu Art Gallery

ก้าวเท้าเข้ามาในอาคาร The Silom Galleria ก็อย่าเพิ่งตกใจคิดว่ามาผิดตึก
ถึงแม้ภายในจะดูไม่เหมือนที่ตั้งของแกลเลอรี่ศิลปะสักเท่าไหร่ แต่หากได้ขึ้นบันไดเลื่อนสู่ชั้น
4 ของอาคารแล้วรับรองคนรักศิลปะจะต้องใจเต้น
เพราะนี่คือศูนย์รวมแกลเลอรี่จัดแสดงงานศิลปะหลากสไตล์ หนึ่งในนั้นคือ Thavibu
Art Gallery ที่รวมงานจากศิลปินขาประจำ 3 เชื้อชาติ ได้แก่ ไทย
เวียดนาม พม่า สะท้อนเอกลักษณ์และมุมมองในแง่วัฒนธรรม สังคม การเมืองการปกครอง อย่างชัดเจน เช่นงานศิลปะเทคนิค
Lacquer Painting ของศิลปินเวียดนามที่หาดูได้ยากก็มีให้ดูกันที่นี่
คุณไฮดี้ ปาร์ค เจริญพร เจ้าของแกลเลอรี่ยังแอบเอาผลงานสไตล์คิวบิสที่กำลังเตรียมติดตั้งเพื่อจัดแสดงครั้งหน้ามาให้เราดูก่อนอีกด้วย
บอกเลยว่าทั้งสวยเท่และสะดุดตาจนเราสัญญาว่าจะกลับมาชมอีกรอบ

Thavibu Art Gallery เปิดวันจันทร์ – เสาร์ 11.00 – 19.00 น. / โทร. 0-2266-5454 / www.thavibuart.com


05

สานสัมพันธ์ไทย-จีนผ่านงานศิลปะร่วมสมัยที่แกลเลอรี่ Tang Contemporary Art

เดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นก็เป็นที่ตั้งของแกลเลอรี่ที่น่าสนใจอีก
จัดแสดงงานร่วมสมัยของศิลปินจีนและศิลปินไทยโดยเจ้าของแกลเลอรี่ตั้งใจจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-จีนผ่านการนำผลงานของศิลปินไทยไปจัดแสดงที่สาขาต่างประเทศอย่างปักกิ่งและฮ่องกง
สิ้นเดือนกรกฎาคมนี้จะมีนิทรรศการภาพถ่ายของมานิต ศรีวานิชภูมิ
ช่างภาพไทยชื่อดังเจ้าของภาพถ่ายชุด Pink Man จัดแสดงที่นี่เป็นงานสุดท้ายก่อนตัวแกลเลอรี่จะย้ายไปที่ราชดำริ
ใครสะดวกแวะมาซอยนี้ก็อย่าลืมขึ้นมาชมกันนะ

Tang Contemporary Art เปิดวันอังคาร – อาทิตย์ 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์) / โทร.
0-2630-1114 / www.tangcontemporary.com

AUTHOR