Rewrite เพจที่ชวนทุกคนทบทวนชีวิตตัวเองด้วยการเขียน

Rewrite คือเพจที่เกี่ยวกับการเขียน

การเขียนเป็นหนึ่งในศาสตร์ที่เรียกว่าถ้าใครรักก็รักเลย แต่ถ้าใครเกลียดก็อาจเลือกไม่ทำความรู้จัก ไม่ทำงานแขนงนี้เลยตั้งแต่แรก แต่แท้จริงแล้วสิ่งหนึ่งที่ซ่อนแอบอยู่ในการเขียนเสมอคือการสื่อสาร ไม่มีมนุษย์คนไหนบนโลกที่สื่อสารและเล่าเรื่องไม่ได้ จะเก่งหรือไม่เก่งนั้นอาจเป็นเรื่องประสบการณ์ เช่นเดียวกับที่ไม่มีมนุษย์คนไหนบนโลกที่เขียนไม่ได้ และโลกนี้ก็มีทฤษฎีการเขียนต่างๆ มากมายที่ช่วยทำให้ชีวิตเราดีขึ้น

อ่านแล้วดูเป็นโฆษณาชวนเชื่อไหม? 

แล้วอยากพิสูจน์หรือเปล่า.. 

วันนี้เราจะชวนทุกคนพิสูจน์สิ่งนี้ ด้วยการพาไปคุยกับสองผู้ก่อตั้งร้านหนังสือ Readery และเพจ Rewrite เน็ต-นัฎฐกร ปาระชัย และ โจ วรรณพิณ ทั้งคู่เชื่อว่าหากได้ทำความรู้จักกับวิธีสื่อสารที่ดีแล้ว ทุกคนจะสามารถแก้ไขปัญหาหลายอย่างที่คาใจและมองภาพรวมเส้นทางของชีวิตได้ง่ายขึ้น ซึ่งเครื่องมืออันทรงพลังที่พวกเขาเต็มใจนำเสนอคือ ‘การเขียน’  

Rewrite 1

เพจ Rewrite เกิดขึ้นมาเพราะอะไร

เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นของการทำเพจนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วทั้งสองคนก็ต่างมีงานล้นมือและสนุกกับทั้งร้านหนังสือและพอดแคส Readery กันพอตัวอยู่แล้ว โจไม่รอช้าที่จะเล่าให้เราฟังทันทีว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของสิ่งนี้คืออะไร “เพจนี้ชื่อ Rewrite มาจากคำว่า Re และ Write หลายคนอาจเข้าใจว่าเพจชวนให้เขียนอะไรต่างๆ แต่ความหมายที่แท้จริงที่เพจนี้อยากสื่อสารคือเราอยากชวนให้คนมาย้อนมองชีวิตตัวเอง มามองตัวตนและหาวิธีแก้ไขปัญหาชีวิตผ่านการเขียน โดยใช้ความเข้าใจหรือทฤษฎีที่เกี่ยวกับเรื่องเล่าเข้ามาช่วยให้ง่ายขึ้น” 

ซึ่งไม่ใช่แค่ทฤษฎีเดียวหรือสองทฤษฎีในการสื่อสาร แต่ทั้งสองคนพร้อมที่จะพาทุกคนไปเห็นว่ามีทฤษฎีอะไรสนุกๆ และมีประโยชน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

Rewrite 2
Rewrite 3

ในเพจจะมีแบบฝึกหัดรายทางที่ช่วยกระตุ้นและเปิดโลกใหม่แห่งการเขียนให้ทุกคน ที่สำคัญคือมีคอร์สเล็กๆ ที่เนื้อหาคัดมาแบบไม่เล็ก เนื้อหาของคอร์สจะแนะนำการเขียนที่ไม่ใช่ทำเพื่อเป็นนักเขียนเท่านั้น แต่เป็นการเขียนเพื่อรู้จักตัวเองมากขึ้น ทั้งโจและเน็ตต่างพูดเสมอว่าพวกเขาไม่ได้เป็นครู แต่เป็นไกด์

“การเขียนเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างส่วนตัว เราไม่ใช่ครูที่จะสอนว่าต้องทำยังไง สูตรสำเร็จคืออะไร แต่เป็นเหมือนไกด์ที่แนะนำและชวนเดินทางด้วยกันมากกว่า ไปค้นหาอะไรๆ ที่ซ่อนอยู่ในเราแต่ไม่เคยสนใจ” ทั้งคู่แย่งกันเล่าเบื้องหลังคอร์สด้วยความสนุกสนาน 

ศาสตร์เรื่องเล่าที่ทำให้เราเห็นชีวิตได้ชัดขึ้น

ด้วยความที่โจทำงานเป็นคนเขียนบทและเน็ตเองก็มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเล่าเรื่องหรือศาสตร์ Story Telling สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่เห็นตรงกันนั่นคือการหยิบทฤษฎีการเล่าเรื่องมาเป็นแกน สามารถช่วยให้คนเข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น เพราะบางครั้งคนอาจหลงลืมไปว่าแท้จริงตัวเราก็ไม่ได้ต่างจากตัวละครในภาพยนตร์และหนังสือสักเท่าไร ทำไมเวลาอ่านหนังสือสามารถคาดคะเนตอนจบได้ แต่พอเป็นเรื่องชีวิต คนส่วนใหญ่กลับมองไม่เห็นเส้นทางหรือปลายทางมากนัก

เน็ตเล่าให้ฟังถึงจุดนี้ว่า “อย่างการเรียนรู้โครงสร้างของเรื่องเล่าก็ช่วยให้คนเห็นปัญหาและสิ่งที่อยากทำจริงๆ ในชีวิตชัดขึ้น เรารู้ว่าเวลาที่เจอสิ่งดีๆ หรือเวลาที่เจออุปสรรคตัวละครจะรีแอ็กยังไง มีทางเลือกอะไรบ้างในชีวิต ถ้าผ่านครั้งนี้ไปได้จะเกิดสิ่งนี้ ถ้าผ่านไปไม่ได้จะเกิดสิ่งไหน พอเป็นตัวเอง เรากลับไม่เคยคาดคะเนผลลัพธ์หรือไม่เห็นทางเลือกเหล่านั้น 

ที่สำคัญคือ การมองชีวิตเป็นเส้นเรื่องจะทำให้เห็นปลายทางการเดินทางของตัวละคร หรือเป้าหมายของชีวิตได้ชัดขึ้น พอคนเราเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนก็เป็นเรื่องของวิธีการแล้ว สิ่งนี้จะช่วยให้เราวางแผนการใช้ชีวิตที่ต้องการจริงๆ ได้” 

Rewrite 4
Rewrite 5

คนทุกคนเล่าเรื่องได้ 

ถึงจุดนี้ความเชื่อของเราแทบจะโดนสองคนนี้ซื้อไปแล้ว แต่เราก็ยังคงมีคำถามคาใจสุดท้าย แล้วคนทุกคนสามารถเขียนได้จริงๆ เหรอ? ทำไมถึงยังมีคนมากมายที่เขียนบทความไม่ได้ หรือ ไม่สามารถเขียนนิยายหรือทำงานเขียนให้จบได้ 

และนี่คือคำตอบจากโจ “ชีวิตคือเรื่องเล่านะ ถ้าวันหนึ่งเกิดตายขึ้นมา เรื่องเล่าต่างหากเป็นสิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่บนโลกใบนี้ คนอาจไม่รู้ตัวก็ได้แต่ทุกวันเราเล่าเรื่องตลอด เพราะการเล่าคือการสื่อสาร เวลามีคนถามว่าบอกหน่อยได้ไหมคนนี้เป็นยังไงก็ต้องเล่าแล้ว การโพสต์สเตตัสก็คือเล่า 

การที่เราบอกตัวเองว่าเขียนไม่ได้ต้องมีสาเหตุ ประเด็นคือบ่อยครั้งสาเหตุมาจากเรา เรากำลังบล็อกตัวเองด้วยความกลัวอยู่หรือเปล่า กลัวล้มเหลว กลัวสายตาคนรอบข้าง กลัวความคาดหวัง สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้เผลอกล่อมตัวเองว่าฉันเขียนไม่ได้” 

ซึ่งแน่นอนว่าภารกิจหลักของ Rewrite คือการหาวิธีหรือขุดคุ้ยทฤษฎีสนุกๆ มาชวนให้ทุกคนเปลี่ยนทัศนคติเพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้นให้ได้ แต่เท่าที่ฟังดูแล้ว ขอบอกว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เพียงภารกิจของเพจ แต่เป็นความท้าทายส่วนตัวของเน็ตกับโจด้วยเช่นกันว่าพวกเขาจะหลอกล่อและทำให้ทุกคนเข้าสู่ชมรมรักการเขียนได้อย่างไร 

Rewrite 6

เคล็ดสุดยอดวิชาช่วยให้เขียนได้ปังจากชาว Rewrite

แม้ Rewrite จะนำเสนอทฤษฎีต่างๆ มากมายให้คนสนุกกับการเลือกนำมาใช้กับการเขียนและชีวิตตัวเองก็จริง แต่เคล็ดลับที่พวกเขาพูดถึงและย้ำอย่างหนักแน่นว่าคือสุดยอดไพ่ตาย ที่จะช่วยทำให้ทุกงานสมบูรณ์แบบมากที่สุด นั่นคือการเขียนโดยที่เรารู้สึกไปกับมัน 

“จริงๆ สิ่งหนึ่งที่เราเลือกทำคอร์สให้ทุกคนมาเรียนกัน เพราะอยากให้เกิดการแชร์และพูดคุยกัน เข้าใจถึงความสำคัญของการเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ รอบตัว เชื่อมต่อกับคนอื่นและเรื่องราวที่เขาเล่าออกมา เพราะสุดท้ายการทำงานเขียนให้ออกมาดีก็คือการพยายามหาแง่มุมเชื่อมโยงตัวตนและมุมมองของเราลงไปในงานให้ได้” 

หากใครอ่านมาถึงตรงนี้และเริ่มสงสัยว่า ‘โอ๊ย การคุยกับเพจเขียนทำไมมันดีพขนาดนี้!’ ยินดีด้วยเราคือเพื่อนกัน แต่เชื่อว่าคงมีหลายคนที่กลับรู้สึกเริ่มอยากลองเขียนอะไรใหม่ๆ และเอาศาสตร์เรื่องเล่าไปทดลองกับชีวิตตัวเองบ้าง 

ใครที่อยากสะกิดปลุกไฟฝันนักเขียนขี้เล่าที่ซ่อนอยู่ในตัว ลองโบกมือขึ้นรถไปเที่ยวดูทฤษฎีใหม่ๆ กับไกด์มือฉมังอย่างโจและเน็ตกันได้ในเพจ Rewrite เชื่อว่าจะได้รับบทสนทนา ความรู้สนุกๆ และเข้าใจตัวเองผ่านเรื่องเล่าเพิ่มขึ้นแน่นอน

ขอบคุณภาพจากเพจ https://www.facebook.com/rewrite.th/

AUTHOR