ช่วงสิ้นปีจนถึงปีใหม่ ที่ญี่ปุ่นจะมีขาย ‘กล่องสุ่ม’ หรือ Lucky Box กล่องที่บรรจุสินค้าคละแบบไว้มากมาย แต่เราไม่มีสิทธิ์รู้เลยว่าข้างในนั้นจะมีอะไรใส่ไว้บ้างจนกว่าจะเปิดกล่องออกดู คล้ายๆ เป็นการซื้อความสุขและความรู้สึก ‘เซอร์ไพรส์’ ที่สนุกสนาน
ส่วนตัวเราไม่เคยกล้าซื้อเพราะไม่รู้จะชอบสิ่งที่ซ่อนอยู่ในกล่องไหม แต่ระหว่างที่ยังบินไปญี่ปุ่นไม่ได้ พอลองส่องเพจ ‘อะไรอ่ะ’ ที่ขายกล่องสุ่มจากญี่ปุ่นดู ก็คล้ายจะ ‘โดนตก’ ซะแล้ว
เพจขายของส่งตรงจากญี่ปุ่นนั้นมีเยอะแยะ แต่พอลองอ่านสิ่งที่เจ้าของเพจเขียนไว้ทุกวันๆ เพื่อบอกเล่าโมเมนต์เล็กๆ ระหว่างเธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น เราก็รู้สึกว่าสายตาที่พิเศษไม่เหมือนใครของเธอจะช่วยคัดสรรความสุขลงกล่องส่งถึงมือเราได้อย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองอ่านข้อความที่เธอเขียนสิ
‘หนูหวังว่า พวกเราจะได้พบความสุขที่ซ่อนตัวอยู่
บางครั้งไม่จำเป็นต้องมองเห็นด้วยตา
แต่เราสามารถสัมผัสได้
เหมือนความอุ่นที่กระทบ
กับกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้า’
อ่านแล้วรู้สึกนิ่มๆ อุ่นๆ เบาสบาย เป็นกลิ่นอายมุมมองของคนญี่ปุ่น แค่ไล่อ่านหน้าเพจเธอไปเรื่อยๆ ก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะเจ้าของเพจและคนคัดสรรสินค้าลงกล่องสุ่ม คือนักเขียนตัวน้อยลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นชื่อ ซายูริ ซากาโมโตะ หนึ่งในนักเขียนเด็กๆ ของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ ปัจจุบันอายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้นที่โตเกียว
หนังสือเล่มแรกของเธอ ‘บันทึกส่วนตัว ซายูริ’ เป็นการรวมข้อเขียนตอนสมัยเธออายุ 7 ขวบ ถ้อยคำเรียบง่ายแต่มีรอยยิ้มอัดแน่นในนั้น พอเธอย้ายไปเรียนอยู่ญี่ปุ่นและเริ่มทำเพจขายกล่องสุ่มเพื่อหารายได้พิเศษ ถ้อยคำบนเพจก็ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อ่านแล้วเจอความสุขในแบบฉบับที่ ‘ซายูริ’ เท่านั้นจะลงมือปรุงได้ และเธอก็ใช้ทักษะเสกความสุขนี้ลงกล่องส่งมาไทยได้ด้วย
มองจากภายนอก กล่องสุ่มของซายูริอาจดูเหมือนพัสดุธรรมดา แต่ทุกขั้นตอนมีความหมายพิเศษบางอย่าง ซึ่งเรากำลังจะเล่าให้ฟัง
เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบกล่องสุ่ม เราอยากส่งจดหมายข้ามประเทศไปคุยกับซายูริ แต่เกรงผู้อ่านจะรอนานเกินไป เลยขอส่งอีเมลไปถามถึงสิ่งที่สงสัย แล้วลุ้นรอคำตอบของเธอด้วยใจจดจ่อ
สิ่งที่เราเล่าต่อไปนี้ไม่ใช่เทคนิคการตลาด แต่เป็นความพยายามจะบอกเล่าความหมายที่ซายูริใส่ลงในกล่อง โดยใช้ถ้อยคำที่เธอเขียนบนเพจเป็นตัวชูโรง เพราะแง่มุมของสิ่งเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในนั้น คือความหมายใหญ่ๆ ของคำว่าชีวิตและความสุขเลยล่ะ
หนูขอให้ทุกคนมีความสุข สดชื่นกับสิ่งที่ชอบ อย่าลืมมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
“ชื่อของเพจอะไรอ่ะ คือ ความรู้สึกสงสัย ลุ้น ตื่นเต้นค่ะ หนูอยากให้อารมณ์เหมือนเวลาที่เราหมุนกาจาปอง เราจะลุ้นว่าเราจะได้การ์ตูนตัวไหน จะได้ตัวที่เราชอบหรือเปล่า เลยใช้คำว่า อะไรอ่ะ” ซายูริเล่า
ที่มาของไอเดียขายกล่องสุ่มเกิดจากวันหนึ่งที่ซายูริเดินไปร้านขายของ เห็นว่าหน้าร้านเขียนว่ารับพนักงานฝึกหัดที่มีอายุ 17 ปีขึ้นไป ซายูริอยากทำงานเก็บเงินเองจึงมานั่งคิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง
“หนูคุยกับโอก้าซังว่า เสียดายที่ญี่ปุ่นเด็กรับจ้างทำงานไม่ได้ โอก้าซังเลยบอกว่าให้ทำสิ่งที่ชอบ อายุเท่าไหร่ก็ทำได้ แล้วคืนนั้นหนูเห็นรูปปาท่องโก๋เลยคิดว่าหนูไม่ได้กลับไทย คิดถึงขนมตอนที่กินตอนอยู่เมืองไทยมากๆ คนที่มาญี่ปุ่นไม่ได้ก็อาจจะคิดถึงขนมญี่ปุ่นเหมือนกัน”
กล่องสุ่มของซายูรินั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งกล่องสุ่มขนม กล่องสุ่มกาจาปอง กล่องสุ่มเครื่องเขียน กล่องสุ่มเครื่องราง (โอะมะโมะริ) กล่องสุ่มขนมสัตว์เลี้ยง กล่องสุ่มอุปกรณ์ตั้งแคมป์ ไปจนถึงกล่องสุ่มวิตามินและอาหารสำหรับคนลดน้ำหนัก แล้วก็มีช่วงราคาที่เราสะดวกจ่ายให้เลือก สั่งแล้วรอไม่นาน กล่องสุ่มจากญี่ปุ่นก็จะบินมาหาเราถึงบ้าน
แล้วซายูริวางแผนการขายกล่องสุ่มในแบบฉบับของตัวเองอย่างไรบ้าง?
“หนูไม่ได้วางแผนอะไรเป็นพิเศษ หนูแค่เริ่มทำจากความชอบของตัวเองค่ะ เพราะหนูคิดว่า คนที่ชอบญี่ปุ่นหรือคนที่ไม่เคยมาญี่ปุ่นจะคิดถึงอะไรอีกที่มากกว่าขนม ที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่านี่คือมาจากญี่ปุ่น
“ตอนที่หนูไปศาลเจ้าหนูเห็นคนซื้อโอะมะโมะริ หนูเลยคิดถึงความรัก ความห่วงใย ที่เราสามารถส่งต่อให้คนที่เรารักหรือตัวเองได้ โอะมะโมะริที่ใครเห็นก็รู้ว่านี่คือมาจากศาลเจ้าญี่ปุ่นแน่นอน หนูเลยทำกล่องสุ่มโอะมะโมะริ
“ส่วนอาหารน้องๆ สัตว์เลี้ยงเกิดจากหนูแพ้ขนสัตว์ เลี้ยงสัตว์ไม่ได้ แต่หนูกับโอโต้ซังชอบไปเดินดู และหนูเห็นว่าขนมสัตว์เลี้ยงที่ญี่ปุ่นมีแปลกๆ และน่ากินขนาดหนูเห็นยังอยากกินเลยค่ะ เลยเกิดเป็นกล่องสุ่มขนมน้องๆ ค่ะ” คำตอบที่เขียนตอบกลับมาทำให้เราอมยิ้มอีกแล้ว
ถึงจะเป็นกล่องสุ่มที่ผู้รับไม่รู้ว่าจะเจออะไรในกล่องบ้าง แต่ซายูริใส่ใจในการเลือกของให้ผู้รับเสมอ
หากเป็นกล่องสุ่มขนม เธอจะพยายามเลือกซื้อขนมรสที่ลูกค้าชอบและเลี่ยงรสที่ลูกค้าไม่ชอบ (ขั้นตอนลองซื้อมาชิมให้แน่ใจว่าอร่อยคือช่วงที่เธอสนุกมาก) ช่วงนี้ในกล่องสุ่มจะเจอขนมจากการ์ตูนเรื่องดาบพิฆาตอสูรบ่อยๆ เพราะเธอคาดว่าบ้านไหนที่มีน้องๆ เปิดกล่องมาเห็นแล้วน่าจะตื่นเต้น ดีใจ
หากเป็นกล่องสุ่มเครื่องเขียน เธอจะเลือกสีที่ลูกค้ารีเควสมา รวมไปถึง ‘ความหมายของการออกแบบ’ อย่างเช่นที่เธอเขียนเล่าถึงปากกาฤดูหนาวที่ทำจาก ‘ถังหมักไวน์ที่ปลดเกษียณการทำงานแล้ว’ หรือที่มาของปากกาสีชมพู ‘ฮานะ คาซุมิ 花霞 ดอกไม้ท่ามกลางหมอกขาว สีชมพูจางๆ ฤดูกาลที่ชีวิตใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น’ ถ้ามีคนเลือกของให้เราด้วยใจแบบนี้ ใครล่ะจะไม่อยากได้
‘ตัวปากกามีน้ำหนักนิดหน่อย ไม่เบาจนเกินไป ให้ความรู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ในมือ สีเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกถึงความหอมของดอกไม้ นี่เป็นเหตุผลที่หนูใช้เวลาเลือกเครื่องเขียนแต่ละชิ้นนาน นั่นเพราะเครื่องเขียนแต่ละชิ้นล้วนมีความหมายที่งดงามซ่อนอยู่
‘หนูขอให้ทุกคนมีวันที่งดงาม และอย่าลืมขีดเขียนความงามของแต่ละคนด้วยมือของตัวเอง’
หนูค่อยๆ จัดเรียงความรักลงไปจนล้น ก่อนจะปิดฝากล่องด้วยความห่วงใย
กว่าจะได้ของแต่ละชิ้นมา ซายูริปั่นจักรยานไปซื้อด้วยตัวเอง บางครั้งก็เทียวไปเทียวมาหลายแห่ง กว่าจะเจอของชิ้นที่ใช่ บางครั้งเรายังเห็นเธอห่อของในกล่องสุ่มให้เป็นเหมือนของขวัญชิ้นเล็กๆ หลายๆ ชิ้น แล้วค่อยจัดเรียงลงกล่องอย่างประณีต
กำไรแต่ละกล่องไม่มากมาย แต่ซายูริมีความสุขกับทุกขั้นตอนที่ได้ลงแรง
“หนูเชื่อว่าความตั้งใจสะท้อนความรู้สึกทุกอย่างแทนคำพูด หนูเชื่อว่าทุกคนสัมผัสได้เมื่อเปิดกล่องสุ่มที่แสนธรรมดาที่หนูส่งไป
“หนูอยากให้คนรับมีช่วงเวลาที่อมยิ้มมีความสุขกับสิ่งที่อยู่ในกล่อง หนูคิดว่าทุกคนชอบเปิดของขวัญ หนูเลยพยายามจัดเรียงของทุกอย่างทั้งเครื่องเขียน โอะมะโมะริ ให้อยู่ในถุงหรือกล่อง เพื่อให้คนที่เปิดรู้สึกว่าได้รับของขวัญทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องเป็นวันเกิด เราก็สามารถมอบของขวัญให้กับความพยายามของเราที่ผ่านมาได้ค่ะ” เธอว่าอย่างนั้น
แม้แต่ขั้นตอนพื้นฐานอย่างการใส่กระดาษกันกระแทก การปิดกล่องบรรจุให้ตรงขึ้น เรียบขึ้น ซายูริก็มองเป็นการฝึกฝนที่จะทำได้ดีขึ้นไปวันละเล็กละน้อย เธอใส่ใจกับทุกขั้นตอนจริงๆ
‘ตอนนี้หนูปิดฝากล่องได้ตรงขึ้นและเรียบขึ้น หนูแอบยิ้มภูมิใจให้ตัวเองนิดหน่อย
หนูคิดว่า ทุกคนต้องมีผิดพลาด เรียนรู้ ปรับปรุง แก้ไข ไปเรื่อยๆ
ตอนนี้หนูอาจยังทำได้ไม่ดีนัก แต่หนูจะพยายามนะคะ อาจจะช้าหน่อย แต่หนูจะพยายาม’
‘ทำไปแบบเรียบง่ายแต่ใส่พลังเข้าไปเรื่อยๆ ก็ดีมากแล้ว คนอื่นจะรับรู้ได้แน่นอน’ การกระทำและถ้อยคำใจดีของซายูริกระซิบบอกเราแบบนั้นแหละ
เหมือนภาพถ่ายที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว แล้วตัวคันจิแต่ละฤดูกาลก็ผุดขึ้นมา
ในทุกกล่องสุ่มของซายูริ จะมีบัตรขอบคุณที่เขียนด้วยลายมือเป็นตัวอักษรคันจิ พร้อมด้วยใบไม้ที่เธอตั้งใจเก็บมาฝาก (ซายูริบอกว่าเธอหลงรักใบไม้จากเส้นใยของใบเวลาส่องกับแสงแดด) ทั้งบัตรและใบไม้ของฤดูกาลนั้นๆ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้ผู้รับได้สัมผัสถึงฤดูกาลของญี่ปุ่น ตัวคันจิที่เธอเขียนจึงมีความหมายสื่อความเป็นธรรมชาติ หรือบรรยากาศดีๆ เช่น 秋麗 (อากิอุราดะ) ความงามของฤดูใบไม้ร่วง, 風 (คาเซะ) สายลม หรือ 始 (ชิ) เริ่มต้น
“ทุกครั้งที่เขียน หนูจะเชื่อมช่วงเวลาลงไปด้วย หนูอยากให้ผู้รับรับรู้ว่าหนูส่งไปช่วงฤดูกาลไหน วันที่ออกไปซื้อของมีอากาศ อุณหภูมิยังไง สีสันของใบไม้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน เพื่ออยากบอกทุกคนว่าในทุกๆ วันที่อากาศเปลี่ยนไป หนูรู้สึกขอบคุณเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนค่ะ”
ถ้าไล่อ่านในเพจ จะสังเกตได้ว่าซายูริเล่าถึงธรรมชาติรอบตัวในชีวิตประจำวันอยู่บ่อยครั้ง เช่นแสงที่ลอดผ่านม่านตอนเช้าตั้งแต่วินาทีที่เธอลืมตาตื่น หรือเต่าทองที่เธอเจอระหว่างทางเดินไปโรงเรียน นอกจากของที่ลูกค้าชอบ เธอเลยใส่ธรรมชาติที่ตัวเองชอบฝากมาให้คนที่นี่ด้วย
สำหรับเรา มันคือการชี้ชวนให้เห็นความงามของวันนั้นๆ ที่ไม่นานก็จะผ่านเลยไป แต่เรายังเก็บสะสมความรู้สึกดีๆ ไว้กับตัวได้
“หนูเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่ชอบ หนูหลงรักแมลง ต้นไม้ ท้องฟ้า สายลม กิ่งไม้ ก้อนหิน ตั้งแต่ตัวจิ๊ดเดียว หนูรู้สึกว่าธรรมชาติบอกรักและเสียสละเพื่อเราในทุกวัน ให้อากาศ ให้ความสดชื่น ให้เราเห็นสีสันมากมาย หนูเรียนรู้ว่าธรรมชาติคือความงดงามที่เรียบง่ายค่ะ”
ทุกสิ่งล้วนใช้เวลา แต่หนูเชื่อว่าความตั้งใจคือสิ่งที่ทำให้เวลาที่ลงมือทำนั้นงดงาม
ถึงจะดูเป็นกิจกรรมหารายได้เสริมสนุกๆ แต่เป้าหมายของซายูริใหญ่กว่านั้น
กำไรจากกล่องสุ่มถูกตั้งไว้ที่กล่องละไม่กี่สิบบาท แต่เมื่อรวมกันแล้ว รายได้จากกล่องสุ่มมีความหมายกับเธอมาก เพราะวันหนึ่งมันจะเป็นเงินสำหรับซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทย เก็บไว้สำหรับใช้จ่ายฉุกเฉิน และในส่วนสุดท้าย เธอจะแบ่งมาสมทบทุนสร้างห้องสมุดที่ประเทศไทย
มันทำให้เราได้คิดว่า ถ้าทำสิ่งเล็กๆ ด้วยความตั้งใจไปเรื่อยๆ ผลลัพธ์ของมันก็คงยิ่งใหญ่เอง
“จุดเริ่มต้นมาจากที่หนูได้เห็นห้องสมุดที่ญี่ปุ่นค่ะ ห้องสมุดที่นี่ไปง่ายกว่าห้างสรรพสินค้า ไปง่ายกว่าร้านเกม และเป็นเหมือนสถานที่ที่เด็กๆ รวมตัวกันหลังโรงเรียนเลิก หนูเลยอยากให้เมืองไทยมีห้องสมุดเยอะๆ หนูคิดว่า คนเราทุกคนมีเรื่องที่ไม่รู้ ห้องสมุดเปรียบเหมือนคลังของสมอง หากเราค้นดีๆ ก็จะเจอคำตอบของเรื่องที่ไม่รู้ค่ะ”
หากใครอยากได้รับความสุขจากกล่องสุ่มของซายูริ และเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้ ทักเข้าไปที่เพจได้ทุกเมื่อ แล้วคุณอาจจะอมยิ้มกับเรื่องราวที่เธอเขียนไว้ให้เราอ่าน รวมไปถึงตอนอ่านคอมเมนต์จากลูกค้าทางบ้านที่พูดคุยกับแม่ค้าออนไลน์ตัวน้อย ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่าเพจนี้ทำให้เธอเจอเรื่องน่าประทับใจมากมาย
“หนูรู้สึกว่าทุกคนในเพจไม่ใช่ลูกค้าแต่เป็นครอบครัว เพราะไม่ว่ามีเรื่องอะไรทุกคนจะส่งกำลังใจให้เสมอ บางคนไม่เคยเขียนรีวิวก็ช่วยเขียน บางคนที่สั่งกล่องสุ่มบอกว่าให้หนูเลือกของให้ตัวเองด้วย บางคนก็เข้ามาสอนภาษาไทยช่วยแก้คำที่หนูเขียนผิด บางคนก็ช่วยสั่งเป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อน ให้คนรู้จัก ให้ลูก ให้คนรัก หนูรู้สึกว่าเพจอะไรอ่ะเป็นมากกว่าเพจขายกล่องสุ่ม แต่เป็นเหมือนพื้นที่เล็กๆ ให้คนในครอบครัวมาพูดคุยกันค่ะ”
ไม่ว่าจะผ่านกล่องสุ่ม หรือผ่านหน้าจอ อย่าลืมคลิกเข้าไปรับความสุขเล็กๆ จากซายูริกันนะ
ขอบคุณภาพจากซายูริ ซากาโมโตะ และเพจ ‘อะไรอ่ะ’
