NBA
สามตัวอักษรสั้นๆ ที่เป็นดั่งหมุดหมายของนักบาสเกตบอลทุกคน
ที่นี่คือลีกบาสเกตบอลที่ดีที่สุดในโลก เต็มไปด้วยผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก มีระบบการจัดการทีมที่ดีที่สุดในโลก และเม็ดเงินตอบแทนให้นักบาสเกตบอลที่มากที่สุดในโลก
ในอเมริกา, ผู้ที่ฝันอยากเป็นนักบาสเกตบอลอาชีพต่างตั้งเป้า NBA ไว้เป็นจุดสูงสุด
สำหรับการก้าวขึ้นไปเล่นใน NBA ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างต้องฉายแววฝีมือตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย ในแต่ละปีระดับหัวกะทิจากแต่ละที่จะถูกเลือกโดยทีมใน NBA เพื่อเข้ามาอยู่ในลีกประมาณ 60 คน นอกจาก 60 คนนี้ ผู้เล่นที่ไม่ถูกเลือกอีกกว่าหลายร้อยคนจะต้องดิ้นรนหาทางเล่นบาสเกตบอลที่อื่นด้วยตัวเอง
และ Andre Ingram คือหนึ่งในคนที่ไม่ถูกเลือกนั้น
เมื่อครั้งอดีต Andre Ingram คือหนึ่งในวัยรุ่นอเมริกันที่มีความฝันในการเล่นบาสเกตบอลอาชีพใน NBA เขาเป็นผู้เล่นดาวเด่นมาตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงช่วงมหาวิทยาลัย กระทั่งในปี 2007 หลังจบการศึกษาด้วยปริญญาทางด้านฟิสิกส์ อิงแรมตัดสินใจเข้าเลือกคัดตัวกับ NBA แต่เขาก็ต้องพบความจริงที่ว่าถึงแม้ฝีมือของเขาจะฉายแววเพียงใด แต่นั่นก็ไม่เพียงพอให้เขาเป็น 1 ใน 60 คนที่ถูกเลือก
ในเวลานั้น อิงแรมเหลือเพียงแรงขับจากความรักในบาสเกตบอลที่ทำให้เขายังคงเลือกก้าวเดินในทางเดิม เขาเลือกที่จะเข้าสู่ระบบของ NBA G-League ลีกซึ่งเป็นลีกรองของ NBA ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2001 ลีกการเล่นนี้เป็นเหมือนพื้นที่ให้นักบาสโนเนมได้โชว์ฝีมือการเล่นให้ทีมใน NBA เห็น เพราะทุกทีมใน G-League ต่างมาจากการเป็น ‘ทีมลูก’ ของทีมหลักจาก NBA กล่าวคือเป็นทีมสำรองขนาดย่อมที่เหมือนสนามฝึกการเล่นที่มีการแข่งเป็นลีกจริงจัง ดังนั้นทีมใหญ่ใน NBA จึงมักใช้ G-League เป็นที่สำหรับเหล่าดาวรุ่งหรือผู้เล่นต่างชาติที่ต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่ NBA อีกที
ฟังดูเหมือน G-League จะเป็นพื้นที่แห่งโอกาสเพื่อความฝัน แต่ในความเป็นจริงมันกลับไม่ได้สวยงามขนาดนั้น
ข้อดีของ G-League อาจจะเป็นลีกที่ใกล้กับความเป็น NBA มากที่สุด แมวมองจากหลายทีมสามารถเห็นพวกเหล่าในลีกรองนี้ได้มากกว่าที่อื่น แต่ถึงแม้จะใกล้กันขนาดนั้น ผู้เล่นหลายร้อยคนที่ผ่านเข้ามาใน NBA G-League กลับมีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ที่สามารถทะลุขึ้นไปเล่น NBA ได้ แถมผู้เล่นเหล่านั้น เราสามารถนับหัวได้เลยว่ามีกี่คนที่ประสบความสำเร็จ ความต่างของระดับที่มากเกินไป ทำให้ผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้ดีมากๆ ใน G-League กลับไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาจะเล่นใน NBA ได้ดี ซ้ำร้ายเงินตอบแทนใน G-League กลับน้อยกว่าการเล่นอาชีพใน NBA เป็น 10 เท่า นักบาสหลายคนจึงไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ด้วยการเล่นบาสเกตบอลเพียงอย่างเดียว
เหตุเหล่านี้เองที่พอเวลาผ่านไป นักบาสใน NBA G-League หลายคนต่างก็ตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่ให้ตัวเอง บางคนเลือกที่จะไปเล่นในลีกต่างประเทศเพื่อเม็ดเงินที่ดีกว่า บางคนเลือกที่จะทำงานพิเศษเพิ่มหรือบางคนท้อแท้ถึงขนาดเลิกความฝันการเป็นนักบาสเกตบอลไปเลย
ในปี 2007 หลังจากอิงแรมในวัย 22 ปี ตัดสินใจเข้าสู่ G-League เขาได้เข้าทีม Utah Flash ซึ่งเป็นทีมลูกของ Utah Jazz ใน NBA ในฐานะดาวรุ่งเ ขาโชว์ฟอร์มค่อนข้างดีทีเดียวแถมยังรักษามาตรฐานไว้ได้เรื่อยมา การเป็นดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มดีใน G-League ทำให้ตอนนั้นเขาฝันถึงโอกาสไต่เต้าขึ้นสู่ NBA เขาอดทนรอเพื่อให้วันหนึ่งมีสายโทรศัพท์เรียกเขาขึ้นเพื่อขึ้นไปสู่ทีมใหญ่
สายโทรศัพท์ที่เขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่
เวลาผ่านไปจากวัน เป็นเดือน เป็นปี และหลายปี จาก Utah Flash อิงแรมได้ย้ายทีมไปอยู่กับ Los Angeles D-Fenders (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น South Bay Lakers) ซึ่งเป็นทีมลูกของ Los Angeles Lakers ทีมดังของ NBA เวลาหลายปีกับการเล่นที่นี่ทำให้เขากลายเป็นขาประจำของ G-League สวนทางกับผู้เล่นหลายคนที่เริ่มเปลี่ยนทางเดินและหายไปมากขึ้นเรื่อยๆ เขายังคงก้มหน้าก้มตารอโอกาสพร้อมกับเล่นบาสเกตบอลที่เขารักที่ G-League ต่อไปควบคู่กับการเป็นติวเตอร์สอนคณิตศาสตร์เป็นงานพิเศษ
จากวันที่เริ่มต้นเมื่อปี 2007 จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านมา 10 ปีแล้ว ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า อิงแรมยังคงอยู่ใน G-League พร้อมโอกาสในการเล่นใน NBA ที่กำลังจะเดินทางสู่เลขศูนย์
จากผมบนหัวสีดกดำ ปัจจุบันเขาเริ่มมีผมขาวแซม จากสภาวะการเป็นดาวรุ่ง ปัจจุบันเขากลายเป็นรุ่นใหญ่ในทีมกับอายุ 32 ปีที่โอกาสกำลังจะหมดลงแล้ว ถึงแม้จุดเด่นของเขาอย่างการยิงสามคะแนนจะทำให้เขาสร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่ยิงสามคะแนนมากที่สุดตลอดกาลของ G-League แต่นั่นก็ไม่เคยเพียงพอให้เขาถูกเรียกตัวจากทีมไหนเลย แถมการเป็นนักกีฬาในวัยที่แตะเลขสามในวงการกีฬาไหนก็ตาม พวกเราต่างรู้ว่ามันคือช่วงขาลงของนักกีฬาอย่างแท้จริง ความฝันของเขาเหมือนจะจบลงพร้อมกับความพยายามที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย
จนเมื่อต้นเดือนเมษายน ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป
โทรศัพท์สายหนึ่งจาก Los Angeles Lakers ทีมใหญ่ของ South Bay Lakers ที่เขาสังกัดอยู่โทรนัดให้เขาเข้ามาพบปะที่ออฟฟิศ ทีมงาน Lakers อ้างว่าอยากคุยกับเขากันถึงการเล่นใน G-League ตลอดปีที่ผ่านมา อิงแรมเข้ามาในออฟฟิศโดยไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะถูกเซอร์ไพรส์โดยกล้องหลายตัว ทีมงาน Lakers เฉลยเรื่องสำคัญกับเขาว่าที่เขามาอยู่ที่นี่วันนี้ เพราะ Los Angeles Lakers กำลังมอบโอกาสให้เขาได้เล่นใน NBA กับทีม Lakers ใน 2 เกมสุดท้ายของฤดูกาล 2017-2018
“สิ่งนี้มีความหมายกับผมมาก” อิงแรมกล่าวหลังจากเซ็นสัญญากับทีม ภาพความประทับใจนี้ถูกส่งต่อไปทั่วในโซเชียลมีเดีย หลายคนยินดีกับเขา แต่หลายคนก็พูดว่านี่อาจเป็นการตลาดของทีม Lakers เองที่อยากสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้มีคนๆ หนึ่งที่ฝันของเขากำลังจะเป็นจริง
วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา การแข่งขันนัดรองสุดท้ายระหว่าง Los Angeles Lakers และ Houston Rockets ในช่วงก่อนหมดควอเตอร์แรก แฟนๆ ทั้งสนามต่างลุกขึ้นปรบมือให้กับการเดบิวท์เล่นเกมแรกใน NBA ของ Andre Ingram ชายวัย 32 ปีผู้อดทนรอโอกาสมากว่า 10 ปี ก่อนที่เขาจะก้าวลงสนาม Chris Paul นักบาสชื่อดังของทีมตรงข้ามถึงขนาดเดินมาหาอิงแรมพร้อมบอกว่าเขานับถืออิงแรมมากพร้อมอวยพรให้เกมนี้เป็นเกมที่ดี อิงแรมก้าวลงสนามที่เขาเฝ้ารอมาหลายปีพร้อมเสียงปรบมือกึกก้อง ซึ่งถ้าเรื่องราวนี้มหัศจรรย์แล้ว อีก 19 นาทีบนสนามของเขาต่างหากที่มหัศจรรย์กว่า
ถึงแม้จะอายุ 32 ปีแล้ว แต่การประเดิมสนามใน NBA ครั้งแรกของชีวิตสำหรับอิงแรมก็เป็นไปด้วยความตื่นเต้น สิ่งเดียวที่เขามั่นใจคงเป็นมือทั้งสองข้างของเขาที่พาความฝันและตัวเขามาไกลขนาดนี้ และสองมือนั้นเองก็รอไม่กี่นาทีเลยที่จะตอบแทนเขาถึงความพยายามที่ผ่านมา
อิงแรมรับลูกจ่ายมาทางซ้ายของหัวกะโหลก เขายืนอยู่หลังเส้นสามคะแนนที่เขาถนัด จับลูกบาสอย่างใจเย็นโดยไร้ตัวประกบ เขาค่อยๆ ชู๊ตลูกจากตรงนั้น ถึงแม้ตลอดชีวิตเขาจะเคยชู๊ตลูกสามคะแนนมาเป็นพันลูก แต่ไม่มีลูกไหนที่เขาจะรู้สึกสวยงามเท่าลูกนี้อีกแล้ว
บอลค่อยๆ ลอยข้ามผู้เล่นทุกคน แหวกอากาศ และลงไปในห่วงอย่างสวยงาม
แฟนบาสหลายคนต่างโห่ร้องไม่ว่าจะเป็นแฟนของทีมใด นี่เป็น 3 แต้มแรกใน NBA คะแนนที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต หลังจากนั้นเขายังเพิ่มแต้มให้ตัวเองจากทั้งลูกสามแต้มและสองแต้ม เมื่อจบเกม 19 แต้มคือตัวเลขทั้งหมดที่เขาทำได้ในชีวิตการเล่น NBA เกมแรก เขากลายเป็นผู้เล่นวัยเกินสามสิบที่เปิดตัวใน NBA ด้วยคะแนนสูงสุด เรื่องราวของเขากลายเป็นที่พูดถึงภายในข้ามคืน
“ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามันเป็นไปได้ด้วยความสนุกเสมอ ตลอดเวลาที่ผมเล่นใน G-League มันเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดี คุณอาจจะเคยได้ยินคำที่หลายคนพูดนะว่า ‘ถ้าคุณทำงานหนัก แล้วมันจะมีวันที่เป็นของคุณ’ แต่ใน G-League คุณจะพบว่าทุกคนก็ทำงานหนัก มันแปลว่าในความเป็นจริงก็ใช่ว่าทุกคนจะได้โอกาส ดังนั้นวันนี้ผมมีความสุขมาก มันมีความหมายต่อผมจริงๆ ความฝันของผมเป็นจริงแล้ว” อิงแรมกล่าวหลังเกมที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ในเกมต่อมา อิงแรมใส่สกอร์ให้กับตัวเองได้อีก 5 คะแนนพร้อมฟอร์มการเล่นตามมาตรฐาน ปิดฉากฤดูกาลนี้ให้ Lakers ด้วยชัยชนะเหนือ Los Angeles Clippers คู่แข่งร่วมเมือง สัญญาของเขาหมดลงพร้อมกับฤดูกาลที่จบไป ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ไม่ถึงอาทิตย์ แต่เรื่องราวของเขาภายในระยะเวลาสั้นๆ นี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักบาสเกตบอลทั่วโลก
ถึงแม้สุดท้ายจะไม่มีใครรู้ว่า Lakers เลือกเซ็นสัญญากับอิงแรมด้วยเหตุใดกันแน่ แต่ตอนนี้สปอตไลท์ได้ส่องมาที่ตัวเขาแล้ว หลังจากนี้เขาจะก้าวเดินไปทางใด ไม่มีใครอาจรู้ได้เลย อิงแรมอาจจะกลับไปเล่นใน G-league ก็ได้ หรือฟอร์มการเล่นที่ดีใน 2 เกมนี้อาจทำให้เขาได้เล่น NBA ต่อ ไม่มีใครรู้ความจริงข้อนี้ แต่สิ่งที่เป็นความจริงคือความฝันของเขาชายวัย 32 ปีที่ชื่อ Andre Ingram นั้นสำเร็จแล้ว
“ตลอด 2 เกมนี้ เหมือนผมอยู่ในความฝัน มันเป็น 2 คืนที่พิเศษ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ผมทำได้เฉพาะแค่ที่ผมทำได้ นั่นคือการฝึกซ้อมและเตรียมตัวให้พร้อม ผมจะมีความสุขกับมัน” อิงแรมกล่าวกับผู้สื่อขาวหลังจากช่วงเวลาแสนมหัศจรรย์ของเขาจบลง ก่อนจะกล่าวประโยคทิ้งทายที่นิยามตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจนตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
“และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะเล่นบาสเกตบอลต่อไป”
ภาพ SI.com, clutchpoints.com, vtn.co, steelersblitz.com, bleacherreport.com, www.silverscreenandroll.com,www.yardbarker.com,ftw.usatoday.com