แบงค์-เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ การพลิกโฉมเวทีราชดำเนินสู่ยุคใหม่ของมวยไทยให้ไปไกลระดับโลก

มวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมาช้านาน แต่การนำเสนอของวงการมวยไทยในบ้านเราอาจจะยังดูเข้าถึงยากสำหรับคนทั่วไป ต่างจาก Sports Entertainment อื่นๆ ของต่างประเทศที่ดูมีความป๊อปมากกว่า ไม่ว่าเป็นมวย UFC, บาสเกตบอล NBA หรือ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

เรื่องนี้อยู่ในสายตาของ แบงค์-เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ มาตั้งแต่เด็ก จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เขารู้สึกว่า ทำไมนักกีฬาในประเทศไทยถึงไม่ดูเท่และโปรเฟสชั่นแนลเหมือนนักกีฬาต่างประเทศ จนไปสู่การลงลึกในเรื่องของธุรกิจและสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งเมื่อเขาโตขึ้น

แบงค์เป็นทายาทของค่ายมวยนครหลวงโปรโมชั่น เขาโตมาในค่ายมวย คลุกคลีตีโมงกับวงการนี้มาตั้งแต่เกิด จึงย่อมรู้อินไซด์เป็นอย่างดี และด้วยมีเป้าหมายที่อยากจะพัฒนาวงการกีฬา วงการมวย แบงค์จึงลุยหาประสบการณ์ให้ตัวเองทั้งจากการเรียนและการทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แบงค์จึงจับมือกับพาร์ตเนอร์ตั้งบริษัทชื่อ โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ GSV ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Plan B ผู้นำด้านสื่อนอกบ้านและผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจกีฬา

ปัจจุบันบริษัท GSV ได้เข้ามาถือหุ้นและได้สิทธิ์ในการบริหารเวทีราชดำเนิน และเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในหลายๆ ด้าน เพื่อยกระดับวงการมวยไทยให้เป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลก และพลิกโฉมเวทีราชดำเนินยุคใหม่ให้เป็น Destination ของมวยไทยโลก ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมถึงคนไทยทุกคน

ทั้งหมดที่ว่ามานำทีมโดยซีอีโอหนุ่มที่มีกีฬามวยอยู่ในสายเลือดคนนี้

เด็กที่โตมาในค่ายมวยอย่างคุณได้สัมผัสกับประสบการณ์แบบไหนมาบ้าง

คุณพ่อผมทำค่ายมวยนครหลวงโปรโมชั่นมาประมาณ 40 ปีแล้ว ฉะนั้นก็แทบจะเรียกว่าผมเกิดโตมาในค่ายมวยเลย ที่บ้านแต่ก่อนเปิดห้องนอนมาก็จะเห็นเวทีมวย เห็นกระสอบทราย มีนักมวยซ้อมกันอยู่ ตัวผมเองคุณพ่อก็จะจับซ้อมตลอด เสาร์-อาทิตย์ หรือตอนปิดเทอม ซึ่งผมก็ชอบมาก แต่จริงๆ แล้วผมมีพี่ชายคนโต ชื่อคุณป๊อป-โชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ สมัยหนุ่มๆ เขาเป็นนักมวยทีมชาติระดับท็อปๆ ของประเทศ รุ่นเดียวกับพี่สมรักษ์ คำสิงห์ แล้วตอนนี้ก็เป็นเฮดโค้ชของค่ายนครหลวงโปรโมชั่นด้วย คือสมัยพี่ชายคนโต เขาก็เน้นไปทางซ้อมเป็นนักมวยเลย แต่ว่าพอสมัยผมซึ่งเด็กกว่าเยอะ คุณพ่อก็เริ่มเปลี่ยนใจ ให้ซ้อมมวยเพื่อป้องกันตัว เพื่อออกกำลังกายมากกว่า ไม่ได้ให้ซ้อมมวยเพื่อเป็นนักมวยแล้ว ก็จะมุ่งเน้นให้เรียนมากกว่า แต่เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ผมก็เป็นนักแบดมินตันเดินสายแข่งด้วย

ที่บอกว่าชอบมวยมันเป็นเพราะว่าคุณเห็นมัน อยู่กับมันอยู่แล้ว หรือว่าจริงๆ แล้วรู้สึกยังไง

ผมว่าหลายๆ อย่างคงปนกัน มันชอบในหลายแง่มุม ชอบในแง่ซ้อมแล้วสนุก ชอบในแง่ดูเป็นกีฬาแล้วสนุก แต่ที่แน่ๆ พอเราโตมาในค่ายมวยแล้วรู้จักนักมวย มันก็ทำให้เราอินมาก โดยเฉพาะค่ายมวยนครหลวงโปรโมชั่น เป็นค่ายที่เน้นเรื่องมวยสากล พอต่อยขึ้นมาอยู่ระดับท็อปแล้ว ก็จะมีการไปต่อยชิงแชมป์โลกที่ต่างประเทศ แล้วเวลาเรารู้จักนักมวย เป็นเพื่อน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง สนิทกับเขา แล้วเราได้อยู่ในประสบการณ์ร่วมเป็นทีมเดียวกัน เวลาเขาไปต่อยชิงแชมป์โลกในต่างประเทศ มันเป็นไฟต์ที่กำหนดชะตาชีวิตของคนคนหนึ่ง และครอบครัวเขาได้จริงๆ ซึ่งเราอยู่กับเขามาตั้งแต่ก้าวแรกๆ ที่เขาเป็นมวยดาวรุ่งขึ้นมา รู้ว่าเขาเคยมีชีวิตลำบากยังไง แล้ววันหนึ่งที่ความฝันของทุกคนมาอยู่ตรงหน้า มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างอยู่ในความทรงจำและอินมาก 

อย่างเช่นสมัยพี่วีระพล นครหลวงโปรโมชั่น ไปต่อยที่ญี่ปุ่นหลายครั้ง ต่อยสนามใหญ่ๆ อย่างโอซาก้าโดม มีคนดู 3-4 หมื่นคน บรรยากาศยิ่งใหญ่ แล้วชนะในไฟต์ระดับโลกขึ้นมา หรือพี่แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ไปชนะได้แชมป์โลกที่เมดิสันสแควร์การ์เด้นที่อเมริกา มันเป็นโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีประสบการณ์ไหนเหมือนหรือเทียบเท่าได้สำหรับผม 

ตอนเด็กๆ คุณเติบโตมาโดยถูกคาดหวังว่าจะต้องมารับช่วงต่อธุรกิจมั้ย

คงไม่ถึงกับคาดหวังว่าต้องสืบต่อธุรกิจ แต่ว่าก็มีอย่างหนึ่งที่เหมือนเป็นหน้าที่ตั้งแต่เด็ก คือคุณพ่อก็ทำค่ายมวยนครหลวงโปรโมชั่นเป็นเบอร์ต้นๆ ของประเทศ หรือของเอเชียก็ว่าได้ สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อขาดไปก็คือพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง เขาก็เลยส่งผมและพี่ชายที่อายุเท่าๆ กันอีกคนไปเรียนโปรแกรมอินเตอร์ ด้วยความตั้งใจเลยว่า สองคนนี้ต้องพูดภาษาอังกฤษได้ เพื่อให้ช่วยเขาในการประสานกับทั้งโปรโมชั่นมวย โปรโมเตอร์ต่างๆ ในต่างประเทศ ประสานกับสภามวยโลก ประสานกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผมก็เลยมีโอกาสได้ทำสิ่งนี้มาตั้งแต่ ม.ต้น ด้วยซำ้ ตามไปทุกที่ ไปญี่ปุ่น ไปยุโรป ไปแปลไปคุยประสานงานต่างๆ ให้กับทางค่ายนครหลวงโปรโมชั่น 

แล้วจริงๆ คุณมีความฝันหรือเป้าหมายส่วนตัวที่อยากไปให้ถึงมั้ย

ตั้งแต่สมัยอนุบาล เวลาทำการบ้านผมก็จะวาดรูปนักมวยไทยชูเข็มขัดแชมป์โลกที่อเมริกา สนามอย่างเมดิสันสแควร์การ์เด้น หรือ MGM ลาสเวกัส ก็เป็นหนึ่งในความฝัน ซึ่งภาพนั้นก็เป็นจริงขึ้นมากับพี่แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น

ในอีกแง่หนึ่ง ด้วยความที่เป็นนักกีฬาด้วยตัวเอง แต่ก่อนเป็นนักแบด และอยู่ในวงการมวยมาด้วย ความฝันที่มีก็คือ อยากจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาไทย ยิ่งถ้าสมัยผมเด็กๆ 20 กว่าปีที่แล้ว ก็จะมีความคิดว่าทำไมนักกีฬาไทย คนไม่ได้มองว่าเท่เหมือนนักกีฬาต่างประเทศนะ ต่างประเทศนี่ใครเป็นนักกีฬา เท่ตั้งแต่เป็นนักกีฬาโรงเรียน ยันถ้าเป็นซูเปอร์สตาร์แบบฟุตบอลพรีเมียร์ลีก หรือ NBA ก็ยิ่งเท่ระดับโลกไปเลย ตอนเด็กๆ ก็จะคิดแค่นั้น แล้วก็คิดว่าทำไมวงการกีฬาไทย การจัดกีฬาไทย มันดูไม่ได้เท่เหมือนที่ต่างประเทศ อันนั้นก็เป็นความฝันที่คิดว่า วันหนึ่งจะทำยังไงดีให้วงการกีฬามัน professionalized ขึ้นมา มีความเป็น industry หรือวงการที่แข็งแกร่ง

พอโตขึ้นมา สิ่งนี้ก็ติดอยู่ในหัวผมเรื่อยๆ ในหลายๆ แง่มุม ตอนเด็กๆ อาจจะดูแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ว่าโตขึ้นมาก็ศึกษาลึกซึ้งขึ้นไปว่า บิสสิเนสโมเดลเขาเป็นยังไง ทำไมมีสปอนเซอร์มาเยอะ วิธีการจัดการของทั้งวงการของต่างประเทศเป็นยังไง เทียบกับของเราเป็นยังไง ทำไมเราทำไม่ได้เหมือนเขา จะทำอย่างไรดี ก็ค่อนข้างเป็น obbession นิดหนึ่ง ตั้งแต่เด็กเป็นต้นมาว่าจะทำยังไงดีให้วงการกีฬา วงการมวยมันพัฒนาไปเหมือนเมืองนอกได้

คุณมองว่ายังไงชีวิตก็มาทางด้านกีฬาแน่ๆ 

คิดว่าสักวันหนึ่งมาแน่ๆ อย่างที่บอก ตั้งแต่มัธยมผมก็ช่วยที่ค่ายไปขาหนึ่ง อีกขาหนึ่ง ผมก็ตั้งใจเรียนของผมไป อยากยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง แล้ว ณ วันนั้น ตั้งแต่วันที่เราเรียนจบมหาวิทยาลัยมา (คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) วงการกีฬาไทยยังไม่ได้แข็งแกร่ง ถึงแม้ ณ วันนี้ผมก็ยังคิดว่าไม่ได้แข็งแกร่งนะ มันก็ไม่ได้มีโอกาสอะไรที่จะทำให้เราเข้าไปทำงานในวงการกีฬา แล้วมีอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง เป็นเรื่องเป็นราวได้ อันนี้หนึ่ง แล้วก็สอง จริงๆ เราอยากทำมวยนะ สักวันหนึ่งเราก็มีความฝันว่าจะทำให้มันดี แต่ตอนที่เรียนจบมหาวิทยาลัยมาก็ยังมองไม่เห็นว่า เราจะไปทำอะไรยังไง ประสบการณ์ก็ไม่มี ความรู้ก็ไม่ได้มีมากพอ ถ้าเรียนจบเป็นเด็กจบใหม่ปุ๊บ กระโดดเข้าวงการมวยเลย ก็คงหนีไม่พ้นแบบเดิมๆ ที่เขาทำกันมา นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมยังไม่กระโดดเข้าไปทำมวยเต็มตัวตั้งแต่ตอนนั้น วงการมวยมันก็มีทั้งเสน่ห์และความยากอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นวงการที่อยู่มานาน 50-60 ปีแล้ว แต่อยู่กันเอง เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่คนภายนอกเข้าไม่ถึง

เพราะฉะนั้น ขาหนึ่งเราก็ช่วยนครหลวงโปรโมชั่นมาโดยตลอด แต่อีกขาหนึ่งก็ไปทำอาชีพของตัวเองด้วย เน้นไปทางสายธุรกิจ โดยงานแรกที่ทำหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย มีโอกาสได้ไปทำบริษัทแมเนจเมนต์แอนด์คอนซัลติ้ง เป็นที่ปรึกษาธุรกิจอันดับต้นๆ ของโลก ชื่อ McKinsey & Company ก็เป็นสายงานที่ได้ทำในแง่ของกลยุทธ์ธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรม และก็ได้ไปทำหลายๆ ฟังก์ชั่นในหลายๆ ประเทศ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะเอาความรู้และสิ่งที่ไป explore มาพัฒนาวงการกีฬาได้ 

หลังจากนั้นผมก็ได้ไปเรียน MBA ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่อเมริกา ซึ่งเป็น MBA โปรแกรมท็อปของโลกและเข้ายากที่สุด ก็ถือว่าเป็นโชคดีของผม ปีหนึ่งมีคนไทยไปน้อยมาก บางปีก็ไม่มีคนไทยเข้าได้เลย แต่ที่ผมบอกกับทางมหาวิทยาลัย ณ ตอนนั้น ผ่านการเขียน essay และการสัมภาษณ์ ว่าทำไมเขาถึงต้องรับเรา คือ ผมบอกว่าผมอยากจะไปเอาความรู้มาพัฒนาวงการกีฬาไทยให้ได้ เพราะผมเชื่อว่าหากเราสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมหรือธุรกิจกีฬาในไทยได้ เราจะสามารถสร้างโอกาสให้คนได้อีกเยอะมาก 

ตอนนั้นทำไมคุณตัดสินใจไปเรียนต่อ 

หนึ่งก็คือเป็นเวลาที่เหมาะที่จะไป สองก็คืออยากไปหาโอกาสที่จะทำงานสายกีฬา ตอนนั้นก็คิดว่าอาจจะเป็นที่ต่างประเทศ เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่งก็จะกลับมาเมืองไทย ซึ่ง MBA ของสแตนฟอร์ดจะมีคลาสกีฬาที่ดังอยู่ ชื่อว่าสปอร์ตแมเนจเมนต์ เป็นคลาสที่นำผู้บริหารต่างๆ ในทีมกีฬาใหญ่ๆ ทั่วโลกมาเป็นเกสต์สปีกเกอร์และมาสอน อย่างเช่น เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, โจ เลคอป ที่เป็นศิษย์เก่าและตอนนี้เป็นเจ้าของทีมบาสเกตบอล Golden State Warriors ทีมแชมป์ NBA ปีล่าสุด ก็มีคนประมาณนี้มาสอน ว่าเขาทำยังไง มุมมองของการพัฒนาธุรกิจด้านกีฬาเป็นยังไง เป็นคลาสที่ตั้งใจว่าอยากไปเรียนให้ได้ ซึ่งดีและชอบมากๆ 

ขอเล่าโยงไปเลยว่า เป็นโชคดีที่พระเจ้าประทานมาว่า ในคลาสสปอร์ตแมเนจเมนต์ หนึ่งในคลาสมีวิทยากรคนหนึ่ง ที่ ​ณ วันนั้นเขาเป็นเฮ้ดของ HBO Sport ชื่อคุณปีเตอร์ เนลสัน ซึ่ง HBO เอง ถือว่าเป็นผู้ถ่ายทอดและเป็นผู้เล่นในวงการมวยสากลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ่ายทอดมวยสากลมาทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่มูฮัมหมัด อาลี, ไมก์ ไทสัน, ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์, แมนนี ปาเกียว แล้ว ณ วันนั้น HBO กำลังจะสร้างซูเปอร์สตาร์คนใหม่ของวงการมวยสากล ชื่อว่า โรมัน กอนซาเลซ เป็นชาวนิการากัว ณ วันนั้นมีสถิติต่อย 40 ครั้งไม่เคยแพ้ใคร 

จังหวะโชคดีพอดีที่ตอนนั้นค่ายเราก็มีนักมวยที่อยู่อันดับต้นๆ ของโลกในรุ่นเดียวกับโรมัน กอนซาเลซ เหมือนกัน ก็คือพี่แหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ซึ่งแต่ก่อนคนจะบอกว่า นักมวยไทยไปต่อยอเมริกาไม่ได้ ต่อย HBO ไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้จัก ใครจะมาดู ศรีสะเกษจะไปต่อยกับโรมัน กอนซาเลส เรื่องแพ้ชนะยังไม่ต้องพูดถึง แค่จะได้ไปต่อยก็ไม่ต้องคิดแล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นผมมีโอกาสได้คุยกับคุณปีเตอร์ เนลสัน ก็เลยไปขายให้เขาฟัง ว่าเรามีนักมวยคนหนึ่ง ต่อยสนุกมากๆ เลย ชื่อศรีสะเกษ การันตีได้เลยว่าคนนี้ต่อยกันกับโรมันมันแน่ๆ เราก็ทำไฮไลต์ ส่งเรื่องไป 

เราตื๊อเขาอยู่ประมาณ 1 ปีหลังจากวันนั้น จนสุดท้ายโชคชะตาเข้าข้าง โดยทั้งทางสภามวยโลกก็สนับสนุน โปรโมเตอร์ของโรมัน กอนซาเลสก็ยอม HBO ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ที่จะให้โรมันต่อยกับศรีสะเกษได้ ในที่สุดเดือนมีนาคม ปี 2017 ศรีสะเกษก็ได้โอกาสไปต่อยชิงแชมป์โลกกับโรมัน กอนซาเลส ที่เมดิสันสแควร์การ์เดน นิวยอร์ก ซึ่งถือว่าเป็นเมกะของมวยโลก เป็นคนไทยคนแรกที่ได้ไปชิงแชมป์โลกถ่ายทอดผ่าน HBO Pay-Per-View แล้ววันนั้นพี่แหลมก็พลิกโลกสร้างประวัติศาสตร์ได้เป็นแชมป์โลก 

ผมยังจำภาพและความรู้สึกทุกอย่างในวันนั้นได้หมดเลย ตอนที่เดินพาพี่แหลมขึ้นไปบนเวทีที่เมดิสันสแควร์การ์เดน แสงสีเสียง บรรยากาศ พูดตอนนี้ยังขนลุก เป็นประสบการณ์ที่เซอร์เรียล เหมือนอยู่ในหนัง มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ณ วันนั้นจนถึงวันนี้ก็เลยคิดว่า เราก็อยากสร้างบรรยากาศแบบนี้ อยากจะสร้างสถานที่ที่มันเป็นเวิลด์คลาส สถานที่ที่ทุกคนสามารถมีโฟกัสใจจดใจจ่อกับเกมการแข่งขัน อยู่ในที่ที่เดียวคือบนเวทีได้เหมือนกันในประเทศไทย 

จากจุดนั้นมาถึง GSV ได้ยังไง

ตอนนั้นเรียนจบปุ๊บ กระแสพี่แหลม ศรีสะเกษ ก็ยิ่งใหญ่มากในวงการกีฬา เหมือนเป็นความฝันที่ทั้งที่ค่าย ทั้งที่บ้าน ทุกคนในวงการมวย มีมาตลอด และไม่เคยมีนักมวยแบบนั้น ตอนแรกผมก็ชั่งใจว่าจะกลับมาเมืองไทยหรือว่าจะทำงานที่ต่างประเทศไปเลย แต่ว่าพอมีพี่แหลม ก็คิดว่าชีวิตหนึ่งคงมีสักครั้ง เลยกลับมาเพื่อช่วยที่ค่ายและช่วยพี่แหลม มาอยู่ในวงการและทำมวยสากลเต็มตัว เป็นกึ่งๆ ผู้จัดการต่างประเทศให้พี่แหลม ศรีสะเกษ แล้วก็มาทำรายการมวยสากลในไทยด้วย ชื่อ WP Boxing ทำร่วมกับเวิร์คพอยท์ เริ่มทำตอนปี 2019 เป็นรายการมวยสากลที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการจัดครั้งแรกในประเทศไทย มีการจัดสตูดิโอแสงสีเสียงแบบอินเตอร์ การประกบคู่มวยก็สูสี สนุกสนาน จนได้รับรางวัล Program of the Year จากสภามวยโลก WBC 

จริงๆ กับทางผู้บริหาร Plan B เราก็รู้จักและช่วยเหลือกันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ในแง่ของการโปรโมตนักกีฬาต่างๆ Plan B ถ้าคนในวงการธุรกิจก็คงจะทราบดีว่าเป็นผู้นำในแง่ของสื่อนอกบ้านในประเทศไทยและในทวีปเอเชีย แต่ว่าอีกอย่างหนึ่งที่ Plan B มีธุรกิจที่แข็งอยู่ก็คือ การทำสปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง หรือว่าการทำธุรกิจในแง่กีฬา เช่น Plan B ได้เป็นผู้ถือสิทธิ์ร่วมกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีส่วนร่วมในการหาสปอนเซอร์และพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยมา 4-5 ปี ทั้งฟุตบอลทีมชาติและฟุตบอลลีกทุกระดับ หรืออย่างปีที่แล้วก็เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิกที่โตเกียว

ผมกับ Plan B มีความเชื่อและเป้าหมายเดียวกัน คือการพัฒนาในแง่ของสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งและธุรกิจกีฬาโดยองค์รวมทั้งหมด เราก็ได้คุยกันและเห็นตรงกันว่า ส่ิงที่เป็นมรดกอันล้ำค่าของคนไทย เป็นกีฬาที่มีความสำคัญกับคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และมีศักยภาพที่ยังไปได้อีกไกลมากๆ ก็คือกีฬามวยไทย จึงเป็นที่มาของการตั้ง บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด หรือ GSV มาเป็นบริษัทย่อยในเครือของทาง Plan B โดยมิสชั่นของเราก็คือ เราอยากจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬามวยไทยให้ไปสู่ระดับโลกให้ได้ 

ตอนตั้งบริษัท GSV ได้เข้ามาทำเวทีราชดำเนินหรือยัง

มาพร้อมๆ กันครับ เป็นการคุยร่วมกันหลายฝ่าย ท่านผู้บริหารของเวทีราชดำเนินเองก็มีความคิดคล้ายๆ กับเรา คือ อยากจะยกระดับวงการมวยไทยให้ไปสู่ระดับโลก อยากจะให้เวทีราชดำเนินเป็นจุดหมุดหมายของวงการมวยไทย ของนักท่องเที่ยว และของทุกคน อยากจะให้เวทีราชดำเนินเป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นเตอร์หลักของประเทศไทย เรามีจุดมุ่งหมายดียวกัน ก็เลยเป็นการได้มาร่วมงานกันกับทุกฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาหลายทศวรรษ เวทีราชดำเนินได้รับการบริหารโดย บริษัท เวทีราชดำเนิน จำกัด ซึ่งปัจจุบันบริษัท GSV ก็ได้เข้ามาลงทุนถือหุ้นและได้รับสิทธิ์ในการบริหารเวทีราชดำเนิน และทำงานร่วมกัน 

คุณเข้ามาเพื่อที่จะมาเปลี่ยนแปลง กับองค์กรที่อยู่มานาน กับผู้คนที่อยู่ตรงนั้นมาก่อน คุณต้องเจอกับอะไรบ้าง

ผมว่าการเปลี่ยนแปลงยากเสมอสำหรับทุกๆ คน ทุกๆ องค์กร แต่ถ้าให้พูดวันนี้ ผมถือว่าบริษัท GSV และทีมงานของเราทุกคนโชคดีมากที่พาร์ตเนอร์ทุกคน โดยเฉพาะคนในราชดำเนินมีจุดมุ่งหมายและมีความฝันที่อยากจะทำในสิ่งเดียวกัน นั่นคือยกระดับกีฬามวยไทยให้ไปสู่ระดับโลกให้ได้ และอยากจะทำให้เวทีราชดำเนินเป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ระดับโลกให้ได้ อันนี้เรามีตรงกัน แล้วเราก็เข้ามาทำงานร่วมกันจนถือว่ากลมกลืนเป็นทีมเดียวกัน ซึ่งผมอยากจะเรียกว่าเป็นทีมอเวนเจอร์ในการมาร่วมพัฒนากีฬามวย ในส่วนทีมของ GSV เอง เราสร้างทีมที่มีทั้งคนมีประสบการณ์ในวงการมวยมา ไฟแรง และบางคนอาจจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในวงการมวยมาก่อน แต่มีแพสชั่นในการพัฒนาวงการกีฬาหรือวงการมวยเหมือนกัน ระหว่างทางมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ อย่าง แต่ผมถือว่าเราโชคดีมากที่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายดีจริงๆ

ตั้งแต่เข้ามาบริหารเวทีราชดำเนิน คุณทำอะไรไปแล้วบ้าง

เราเข้ามาร่วมบริหารเวทีราชดำเนินตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ สิ่งแรกเลยที่เราทำได้ก็คือ เราได้รวบรวมโปรโมเตอร์และสายมวยหลักของประเทศไทยมาอยู่ที่ราชดำเนิน แต่ก่อนโดยเฉพาะสัก 10-20 ปีที่ผ่านมา โปรโมเตอร์สายต่างๆ อาจจะทำงานร่วมกันไม่มากนัก โปรโมเตอร์แต่ละสายก็จะอยู่ต่างเวทีกัน แต่ว่า ณ วันนี้เรามีโปรโมเตอร์สายหลักมาอยู่ร่วมกันที่เวทีราชดำเนินแล้ว อย่างเช่น เพชรยินดี, เกียรติเพชร, ส.สมหมาย ทำให้ตอนนี้เราน่าจะมีแอคเซสของนักมวยไทยครอบคลุม 80-90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศ อันนี้คือการสร้างให้ราชดำเนินเป็นเป็นฮับหลักจริงๆ ของมวยไทย อันนี้อันที่หนึ่ง

สอง เรามีการรีโนเวตสถานที่ในเวทีราชดำเนิน ทั้งในแง่รูปลักษณ์ภายนอก และแสงสีเสียงแบบเวิลด์คลาสภายใน ภายนอกเรารีโนเวตให้รูปลักษณ์มีความโมเดิร์นแต่คลาสสิก โดยอินสไปเรชั่นเราเอามาจากโรงละครบรอดเวย์ในนิวยอร์ก โดยมีเป้าหมายจะให้ราชดำเนินเป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์หลักของประเทศไทย เราอยากจะให้คนทุกเพศทุกวัยเข้ามาที่สนามมวยได้ เหมือนกับที่ถ้าเราไปอเมริกา คนก็จะอยากไปสนาม NBA ไปดูบาส หรือสนาม NFL เพื่อไปดูกีฬาและในแง่ของเอนเตอร์เทนเมนต์ด้วย หรือว่าที่อังกฤษ คนก็จะไปดูฟุตบอล คนไทยทั่วไปถ้าไม่ใช่เซียนมวย เข้าสนามมวยน้อย และก็ยังไม่ค่อยกล้าเข้า อันนี้เราอยากจะทำจริงๆ ให้มันเป็นหนึ่งในเดสติเนชั่นที่คนอยากจะมาสำหรับทุกเพศทุกวัย และเราอยากจะทำให้ราชดำเนินเป็นหนึ่งในท็อปเดสติเนชั่นของนักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทย

สาม เราได้เริ่มทำรายการราชดำเนินเวิลด์ซีรีส์ ในชื่อ RWS ขึ้นมา โดยเป้าหมายของเรา เราอยากจะให้รายการนี้เป็นรายการมวยระดับโลก เทียบเท่า UFC ของมวยไทย จะเป็นรายการที่จะหานักมวยไทยที่เก่งที่สุดในโลกจริงๆ ในแต่ละรุ่นการแข่งขัน และจะเป็นรายการที่ทำให้คนที่ทั้งเป็นแฟนฮาร์ดคอร์และเป็นแฟนทั่วไป หรือคนที่ไม่เคยดูมวยสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ง่าย เป็นรายการที่เน้นการออกอาวุธ เน้นความสนุกสนาน เอานักมวยตัวท็อปของทั้งโลกมาเจอกัน เราได้มีการเปลี่ยนกฎกติกาหลายๆ อย่าง ที่จะทำให้มวยไทยดูง่ายขึ้นและสนุกขึ้น อย่างเช่น เราได้เปลี่ยนกติกาการให้คะแนน ซึ่งเป็นรายการมวยไทยอาชีพแรกของโลก ที่การให้คะแนนจะเป็น open scoring หรือเปิดคะแนนทุกยก 

ความหมายคือต่อยยกแรกปุ๊บ ใครคะแนนนำ พักยกรู้เลย ต่อยยกสองจบปุ๊บ รู้เลย ยกสามขึ้นมา ถ้าฝ่ายไหนรู้ตัวว่าตัวเองแพ้อยู่ เช่น 2 ต่อ 0 ยก ก็ต้องเร่งแล้ว เหมือนฟุตบอล จะหมดเวลาเหลืออีก 5 นาที ตาม 2-0 ก็ต้องพับสนามบุกแล้ว ซึ่งอันนี้ทำให้เข้าใจง่ายและตรงไปตรงมาสำหรับทุกฝ่าย เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการมวย ผมเชื่อว่ากฎกติกานี้ทำให้การแข่งขันและดูมวยไทยสนุกขึ้นมาก เป็นการพลิกวงการเลย เราเป็นเจ้าแรกที่ทำ และได้ไปเปิดตัวรายการ RWS ที่ไทม์สแควร์นิวยอร์ก

นอกจากนี้เรายังมีการจัดรายการใหญ่ พี่บัวขาว บัญชาเมฆ กลับมาต่อยที่เวทีราชดำเนินเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยต่อยกับคู่ชกชาวญี่ปุ่นที่เป็นดาวรุ่งร้อนแรงมากๆ คือ โคตะ มิอุระ เราอยากจะใช้รายการนี้เป็นตัวเชื้อเชิญให้คนรุ่นใหม่ก้าวขาข้างแรกเข้ามาในเวทีราชดำเนิน แล้วมาเห็นสิ่งที่เราพยายามจะทำ มาเห็นมวยไทยยุคใหม่ และราชดำเนินยุคใหม่ และอย่างสุดท้ายที่เราทำตั้งแต่เข้ามาก็คือ วันที่ 5 สิงหาคม เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเวทีมวยราชดำเนินที่มีการแข่งขันมวยหญิง 

ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำทีม คุณมีวิธีทำอย่างไรให้ทุกๆ คนยอมรับในตัวคุณ 

อาจจะเป็นคำตอบที่แปลกนิดหนึ่ง แต่จริงๆ ตื่นมาทำงานทุกวัน เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิดในแต่ละวันเลย มันไม่ได้เป็นโจทย์ที่ผมโฟกัส สิ่งที่เราโฟกัสก็คือ จะทำยังไงให้แผนการที่เรามีมันลุล่วงไปได้ จะทำยังไงให้ได้รับความร่วมมือจากทุกๆ ภาคส่วนในการยกระดับวงการมวยไทยขึ้นมาให้ได้ 

อย่างหนึ่งที่เราเชื่อมั่นกันจริงๆ ก็คือมวยไทยเป็นทรัพย์สมบัติของชาติไทยราชดำเนินเป็นองค์กรที่อยู่คู่กับมวยไทยมานาน และเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ผมและทุกคนอยากจะทำมันยิ่งใหญ่กว่าปัจเจกบุคคล ยิ่งใหญ่กว่าตัวผมเอง ผมเป็นตัวแทนหลายๆ คนในการมาเล่าสิ่งนี้ แต่ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เกี่ยวกับผม ไม่ได้เกี่ยวกับ GSV มันคือเรื่องของราชดำเนิน มันคือเรื่องของมวยไทย เพราะฉะนั้นทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือ และพร้อมที่จะผลักดันวงการมวยไทยไปด้วยกัน

พอมันเป็นสิ่งใหม่ เราก็ต้องเรียนรู้อะไรไประหว่างทางค่อนข้างเยอะ หลักๆ เลยคือ ไม่ว่าใครจะเก่งแค่ไหน ถ้าสิ่งที่อยากทำและความฝันมันใหญ่มาก มันไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว การที่มีพาร์ตเนอร์ มีกลุ่มคนที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน และพร้อมที่จะเสียสละ พร้อมที่จะสู้ไปในเป้าหมายเดียวกัน ผมว่าอันนี้เป็นเรื่องสำคัญ 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

พิชญุตม์ คชารักษ์

ชีวิตหลักๆ นอกจากถ่ายภาพ ชอบชกมวยเป็นชีวิตจิตใจ ฟังเพลงที่ดนตรีฉูดฉาดกับเบียร์เย็นๆ