ตัวการ์ตูนสีขาวหน้าหมีเต้นท่ากวนๆ คือสติกเกอร์ที่เพื่อนส่งตอบรับการนัดเจอกันมาให้เราในแชตล่าสุด
ถ้าพูดกันจริงๆ เจ้า Betakkuma นับว่าเป็นสติกเกอร์ที่เราได้รับจากเพื่อนพี่น้องทางออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะในวันที่มีเรื่องเครียดแล้วได้เห็นเจ้านี่เต้นๆ อยู่หน้าจอ ความซีเรียสก่อนหน้าดูเหมือนจะค่อยๆ ลดระดับลงทันที
คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ทำให้คนชื่นชอบสติกเกอร์ตัวนี้พร้อมกันแน่ๆ ความสงสัยในเบื้องหลังความสำเร็จทำให้เราได้มาเจอกับ CEO ของบริษัท Quan inc. จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อหาคำตอบว่าทำไมท่าเต้นทะเล้นๆ และสติกเกอร์ตลกๆ ถึงครองใจคนได้มากขนาดนี้
เมื่อหาข้อมูลเพิ่มอีกนิด เราก็พบว่านอกจากเจ้าหมี Betakkuma แล้ว Quan inc. ยังเป็นบริษัทผู้สร้างสรรค์สติกเกอร์คาแร็กเตอร์ตลกๆ อย่าง Business Fish ปลานักธุรกิจที่ชอบโอเวอร์แอกต์, Usagyuuun กระดาษที่ขยับตัวด้วยความไวแสง หรือคาแร็กเตอร์น่ารักๆ อย่าง Piyomaru, Sugarcubs, Mimi & Neiko, Elssy สติกเกอร์เหล่านี้โลดแล่นในแอพพลิเคชั่นแชตทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook Messenger, WeChat, WhatsApp ฯลฯ
อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของการสร้างสติกเกอร์ที่มียอดดาวน์โหลดถึง 2.5 พันล้านจากทั่วโลก Kazuhiro Mizuno CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Quan Inc. และ Shinto Okukawa หรือ ชิน Managing Director of Quan International สาขาประเทศไทย มีคำตอบรอเราอยู่
จากเกมมือถือสู่สติกเกอร์ในมือทุกคน
ก่อนจะมีสติกเกอร์ท่าเต้นทะเล้นๆ ให้เรากดส่งไปหาเพื่อน ใครจะรู้ว่าจุดเริ่มต้นของบริษัท Quan Inc. ต้องขอนับย้อนไปกว่าสิบปี
มิซุโนะเริ่มต้นเล่าให้เราฟังว่าก่อนหน้าที่จะเข้าสู่แวดวงคาแร็กเตอร์เต็มตัว เขาเคยประสบความสำเร็จจากการสร้างบริการตกแต่งอีเมลมาแล้ว ก่อนที่เทรนด์โลกจะเปลี่ยน จากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และส่งอีเมล สู่การใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือแทน Quan Inc. จึงเกิดขึ้นในปี 2011 และกระโดดลงสู่สนามแอพพลิเคชั่นเต็มตัว
แรกเริ่ม พวกเขามีเป้าหมายคือการสร้างแอพพลิเคชั่นแชตบนมือถือ แต่เมื่อ LINE เปิดตัวและเติบโตพรวดๆ มิซุโนะจึงเริ่มสนใจแอพร่วมชาติมากขึ้นก่อนเห็นโอกาสที่เขาสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับ LINE ได้
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของสติกเกอร์ตลกๆ ที่เราต่างส่งหากันในวันนี้
“ณ ตอนนั้นเราไม่มั่นใจหรอกว่าการขายสติกเกอร์จะสามารถบริหารบริษัทได้” CEO ของบริษัทยอมรับ แต่เมื่อได้ก้าวเท้าเข้ามาในสนามนี้แล้ว เขาก็ไม่รอช้าที่จะสร้างสรรค์สติกเกอร์ที่มีแนวคิดแตกต่างออกไปท่ามกลางความนิยมในคาแร็กเตอร์ของสติกเกอร์น่ารักๆ
“เรามองว่าบางที เราไม่จำเป็นจะต้องทำสติกเกอร์น่ารักเพื่อให้คนส่งไปสื่อสารกัน บางทีคนเราอาจจะต้องการความเอนเตอร์เทนมากกว่า พอคิดถึงเรื่องนี้ ในระหว่างทางก็มีไอเดียเข้ามาว่าเราน่าจะลองทำคาแร็กเตอร์ตลกๆ ตัวแปลกๆ ที่คนไม่เคยเห็น
“เรามีนักวาดคนหนึ่งที่ชอบทำอะไรแปลกๆ เขามีสไตล์การวาดที่ไม่เหมือนคนอื่นเลย เราก็เลยร่วมกันทำคาแร็กเตอร์ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ทดลองว่าคาแร็กเตอร์แบบนี้ขายดีในตลาดไหม มันชื่อ ‘โมอายคุง’ (Moai-kun) เป็นรูปปั้นหินที่ Easter Island ซึ่งมันดูแปลกมากและไม่น่ารักเลย (หัวเราะ) ตอนนั้น โมอายคุงไม่ได้ทำกำไรขนาดนั้น แต่เราก็พัฒนามาเรื่อยๆ จนมี Betakkuma ซึ่งปรากฏว่าคนชอบ”
หลังจากทดลองสร้างสรรค์สติกเกอร์ในไลน์ที่ญี่ปุ่นได้สำเร็จ พวกเขาไม่หยุดเพียงเท่านี้ มิซุโนะเล็งเห็นว่าเมื่อไลน์กระจายความนิยมไปหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเอง ทีมงาน Quan Inc. จึงพยายามพัฒนาสติกเกอร์ให้ตอบโจทย์ต่างประเทศมากขึ้น และยังขยายให้คาแร็กเตอร์เหล่านี้กระจายไปยังแอพพลิเคชั่นแชตอื่นๆ อีกด้วย
“พวกเรามองว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เขาก็อยากมีสติกเกอร์กัน ทำไมเราจะไม่เอาสติกเกอร์ของเราไปให้เขาด้วย เราก็เข้าไปคุยกับแอพอื่นๆ เขาก็สนใจมากๆ เราอาจจะเป็นบริษัทเอเชียแรกที่สามารถเข้าไปคุยกับแพลตฟอร์มฝั่งตะวันตกได้ อย่าง Facebook เราไปหาทีม Messenger ที่ Headquarter ซานฟรานซิสโก ฝั่งเอเชียเราก็เข้าไปที่ออฟฟิศ WeChat พอเรามีจุดที่เราปล่อยสติกเกอร์ได้หลากหลายประเทศขึ้นมา คาแร็กเตอร์ของเรามันก็เริ่ม”
เบื้องหลังความสำเร็จในท่าเต้นของ Betakkuma
มิซุโนะเล่าว่าเมื่อแต่ละตลาดมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง แน่นอนว่าความนิยมในสติกเกอร์แต่ละตัวก็ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น Business Fish เป็นที่ยอดนิยมของชาวอเมริกัน แต่หากขยับลงใต้ไปอีกนิด แถบเม็กซิโกและบราซิล คาแร็กเตอร์หวานๆ อย่าง Sugarcubs กลับฮิตเป็นพิเศษ ส่วน WeChat ของชาวจีนก็มี Elssy เป็นขวัญใจ
แต่ตัวที่สามารถครองใจคนได้หลายประเทศโดยเฉพาะแถบเอเชีย (หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย) ก็คือเจ้า Betakkuma ที่มียอดดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาสติกเกอร์ทั้งหมดของ Quan Inc. โดยมีจำนวนครั้งดาวน์โหลดอยู่ที่ 100 ล้านครั้งจากผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วโลก
“Betakkuma มีวิธีการทำสติกเกอร์แปลกๆ นิดหนึ่ง” มิซุโนะอธิบายอย่างอารมณ์ดี “ปกติแล้ววิธีการที่ครีเอเตอร์ออกแบบสติกเกอร์จะมีอยู่ 2-3 วิธี อย่างแรกก็คือวาดตัวคาแร็กเตอร์เป็นเฟรมๆ แล้วนำมาทำให้เคลื่อนไหวในโปรแกรม Photoshop บางคนก็อาจจะใช้โปรแกรม After Effect หรือบางคนแหวกแนวหน่อยก็ใช้โปรแกรมสามมิติอย่าง Maya ก็มี
“แต่สำหรับ Betakkuma ทุกท่าที่เห็นคาแร็กเตอร์ทำนั้นมาจากการที่นักวาดเต้นท่าประหลาดๆ เอง อัดวีดีโอตัวเอง แล้วก็วาดภาพลอกเลียนท่าเหล่านั้น ถามว่าไอเดียท่าเต้นมาจากไหน ช่วงแรกๆ ครึ่งนึงก็มาจากเขาเอง แต่หลังจาก Betakkuma พัฒนามาถึงประมาณ 15 ชุด ท่าอีกประมาณครึ่งนึงเลยมาจากคนรอบตัว ทีมงาน หลังๆ เวลามีการตอบรับจากลูกค้า เราก็เอาไอเดียมาผสมกัน”
แค่นึกถึงสติกเกอร์ Betakkuma กับท่าเต้นประหลาดๆ ก็ทำให้เราแอบขำในใจได้แล้ว ถึงอย่างนั้น เราก็ยังมีคำถามว่าพวกเขาตั้งใจให้เราเอาสติกเกอร์ตลกๆ เหล่านี้ไปใช้ในบทสนทนาในชีวิตประจำวันยังไง
คำตอบของเขาคือสติกเกอร์เหล่านี้มีไว้เพื่อเอนเตอร์เทนน่ะสิ
“เวลาทีมของเราออกแบบคาแร็กเตอร์ เราจะคิดก่อนว่าคาแร็กเตอร์ตัวนี้จะเน้นคอนเซปต์หรือเน้นเรื่องความง่ายของการใช้งาน อย่าง Betakkuma กับกระต่าย Usagyuuun นี่เป็นคาแร็กเตอร์เน้นคอนเซปต์ คือออกแบบให้บุคลิกโดดเด่นเพื่อตั้งใจเอนเตอร์เทนคนเป็นหลัก แต่บริษัทเราก็มีสติกเกอร์ที่ใช้ง่ายในชีวิตประจำวันด้วย”
มากกว่าความตลกคือตอบโจทย์คนใช้งาน
นอกจากคาแร็กเตอร์แปลกๆ ที่ทำให้บางคนเห็นแล้วหัวเราะออกมาดังๆ จะเป็นสิ่งที่ทำให้สติกเกอร์บริษัท Quan Inc. แตกต่างจากที่อื่นแล้ว สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญอีกอย่างคือการพยายามทำงานให้ตอบโจทย์กับการใช้งานของคนในต่างตลาด ต่างวัฒนธรรม ซึ่งมีวิธีการแชตที่แตกต่างกัน นั่นทำให้การเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเพื่อนำมาพัฒนาสติกเกอร์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
“ตอนแรกเราก็เดาไม่ออกนะว่าคนประเทศนั้นเขาจะชอบคาแร็กเตอร์แบบไหน เราได้แต่ศึกษาแบบพื้นฐาน เช่น หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตคาแร็กเตอร์ไต้หวันเป็นยังไง คาแร็กเตอร์ของประเทศไทยเป็นยังไง และลองให้ครีเอเตอร์สร้างคาแร็กเตอร์ดู
“พอเรามีคาแร็กเตอร์หลายๆ ตัว เราถึงเริ่มมีข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานของผู้คนที่ดาวน์โหลดสติกเกอร์ไปใช้ เราสามารถเก็บข้อมูลได้ว่าสติกเกอร์ตัวไหนมีคนดาวน์โหลดเยอะ แล้วในสติกเกอร์หนึ่งชุด คนนิยมส่งสติกเกอร์ตัวไหนมากที่สุด ใครเป็นคนส่ง เพศไหน อายุ พอเก็บมาเรื่อยๆ เราก็จะช่วยบอกครีเอเตอร์ว่าสติกเกอร์ของคุณคนประเภทนี้ชอบใช้กัน แล้วเขาชอบใช้สติกเกอร์คำพูดว่าอะไรบ้าง เพื่อให้ข้อมูลเขาไปเขียน ไปวาดต่อ
“ยกตัวอย่างสติกเกอร์ที่ทั้งคนญี่ปุ่นและอเมริกานิยม คือ Business Fish แต่การใช้งานของพวกเขาก็จะแตกต่างกัน คนญี่ปุ่นจะชอบใช้สติกเกอร์ก้มหัวไป ซึ่งสื่อความหมายได้หลายแบบ อาจจะเป็นคำว่าขอโทษหรือเป็นการทักทายก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีการคุยของคนญี่ปุ่น แต่ว่าถ้าเป็นคนฝั่งตะวันตก อย่างคนอเมริกันจะไม่ใช้สติกเกอร์ก้มหัวแต่จะใช้สติกเกอร์ที่สื่อสารความรู้สึกของเขาได้อย่างชัดเจน เช่น สติกเกอร์ที่เขียนว่า I love you”
แล้วของไทยมีวัฒนธรรมเป็นอย่างไรบ้าง? ความสงสัยทำให้เราถามชิน เมเนเจอร์ของทาง Quan Thailand
“วิธีการใช้สติกเกอร์ของคนไทยนั้นก็จะต่างกับญี่ปุ่นเหมือนกัน” ชินอธิบาย “แม้ว่าจะอยู่ในบริเวณเอเชียเหมือนกัน แต่ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เท่าที่ผมสังเกต คนญี่ปุ่นจะใช้สติกเกอร์เพื่อเริ่มบทสนทนา ต่างจากคนไทยส่วนมากที่ใช้สติกเกอร์เพื่อตอบ แต่จะไม่ใช้สติกเกอร์เริ่มบทสนทนา
“หรือถ้าไปดูข้อมูลสติกเกอร์ที่ถูกส่งอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นก็จะเป็นสติกเกอร์ประเภทกำลังแอบมอง เพราะสำหรับคนญี่ปุ่น มันมีความหมายเหมือนกับเฮลโหล ว่างคุยกันไหม เขาก็เลยส่งไปเป็นการเปิดบทสนทนา แต่คนไทยจะชอบใช้สติกเกอร์ที่ตอบรับ รับทราบ หรือ OK ถ้าเห็นชัดๆ ก็พวกรักนะจุ๊บๆ อะไรที่หวานๆ”
ด้วยข้อมูลที่มีและครีเอเตอร์เก่งๆ ในมือ Quan Inc. จึงมี development team โดยเฉพาะเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของแต่ละประเทศ และสำรวจเทรนด์ในแต่ละช่วงเพื่อพัฒนาสติกเกอร์ให้ตอบโจทย์คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ ให้เราได้ใช้กัน
สูตรความสำเร็จของ Quan Inc.
แม้ในตอนแรก มิซุโนะจะเริ่มต้นจากความอยากทำแอพพลิเคชั่นแชต แต่ดูเหมือนว่าการเบนเข็มทิศมาทำสติกเกอร์ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วได้ไม่ยาก อีกทั้งยังได้ร่วมงานกับแอพพลิเคชั่นแชตหลากหลายสัญชาติด้วย อะไรคือสิ่งที่ทำให้ทีมงานสร้างสรรค์จนประสบความสำเร็จได้ด้วยระยะเวลาอันสั้นนี้
มิซุโนะนิ่งคิดก่อนให้คำตอบ
“เรื่องนี้ ผมแบ่งออกได้เป็นสองอย่างครับ อย่างแรกคือทีมครีเอเตอร์ของเราซึ่งผ่านการคัดเลือกอย่างละเอียดมาก คนที่จะเป็นครีเอเตอร์ต้องวาดภาพเก่งมากๆ และสำคัญที่สุดคือครีเอเตอร์ต้องวาดภาพได้หลากหลายแนว เพราะสติกเกอร์ของเรามีหลากหลายแนว เพื่อตอบโจทย์คนหลากหลายเชื้อชาติ
“อย่างที่สองที่ทำให้เราประสบความสำเร็จคือการนำที่มีคุณภาพของเรามาเผยแพร่ตามแพลตฟอร์มแชตต่างๆ ทั่วโลก เมื่อแพลตฟอร์มเหล่านั้นโต คาแร็กเตอร์ของเราก็เติบโตไปพร้อมๆ กัน”
การเติบโตที่ว่ายืนยันได้ด้วยผลงานของ Quan Inc. ในวันนี้
จากสติกเกอร์ในแอพพลิเคชั่นแชตเพียงไม่กี่แชต พวกเขากลายเป็นสติกเกอร์ที่ขาดไม่ได้ในแอพพลิเคชั่นแชตยอดฮิต และยังมีแอพพลิเคชั่นแชตใหม่ๆ ติดต่อมาอยู่เรื่อยๆ คาแร็กเตอร์ต่างๆ กลายเป็นสินค้าอย่างตุ๊กตาน่ากอด พวงกุญแจ แฟ้มใส่เอกสาร ฯลฯ แถมพวกเขายังเริ่มผลิตคอนเทนต์ Betakkuma ผ่านช่องทางแอพ Tik Tok รวมถึงกำลังอยู่ในกระบวนการทดลองนำเทคโนโลยี VR และ AR เข้ามาจับกับคาแร็กเตอร์ที่มีด้วย
และไม่แน่ว่าในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะสามารถสวมแว่น VR แล้วกระโดดเข้าไปเต้นท่าประหลาดๆ กับ Betakkuma ก็ได้