ละลายความเป็นไทยเข้ากับศิลปะตะวันตกผ่านงานคอลลาจของ นักรบ มูลมานัส

ภาพวาดลายเส้นมินิมอล เล่นกับกราฟิกร่วมสมัยเริ่มไม่แปลกใหม่ในยุคนี้ พอเราได้เจองานคอลลาจรายละเอียดสุดยิบย่อยของ นักรบ มูลมานัส นักทำภาพประกอบหนุ่มหน้าใหม่เลยอดตื่นเต้นไม่ได้ นักรบหยิบภาพคนไทยสมัยวันวาน ตัวละครในวรรณคดี มาจัดวางกับภาพสไตล์ตะวันตกอย่างเทพตำนานกรีกหรือสถาปัตยกรรมยุโรป กลายเป็นศิลปะเซอร์เรียลสุดยูนีคที่ดูเผินๆ เหมือนจะไม่เข้ากัน แต่กลับลงตัวและให้นิยามความเป็นไทยแบบใหม่กับเรา

จุดเริ่มต้นในเส้นทางสายนักทำภาพประกอบของบัณฑิตเอกภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนนี้เริ่มจากนิสัยชอบตัดภาพสวยๆ แปลกๆ ในนิตยสาร หนังสือเก่า เก็บใส่ในแฟ้มส่วนตัว เลือกชิ้นที่ดูเข้ากันบ้าง ขัดกันบ้างมาตัดแปะเป็นงานคอลลาจที่เขาบอกว่าไม่ต่างจากการสร้างโลกใบใหม่ จะหยิบเอาสิ่งคอนทราสต์กันแค่ไหนมาปะติดปะต่อกันก็ได้

ความสนใจเรื่องศิลปวัฒนธรรม วรรณคดี และพระราชพิธีในรั้ววังทำให้นักรบมีสายตามองหาองค์ประกอบภาพไทยๆ เยอะเป็นพิเศษ เขาโชว์โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ภาพเหล่านี้แยกประเภทไว้อย่างเป็นระเบียบ อย่างโฟลเดอร์เครื่องหัวที่มีรูปชฎาหลายสิบแบบ ตัวละครในวรรณคดีไทย หรือองค์ประกอบแฟนตาซีอย่างสัตว์ในเทพนิยายปรัมปรา การทำงานของเขาเริ่มจากวางภาพที่ชอบมากให้เป็นรูปหลัก แล้วค่อยต่อเติมเรื่องราวผ่านองค์ประกอบอื่นๆ ที่น่าจะเข้ากับภาพนั้นได้ ไม่ได้วางแผนหรือร่างในหัวก่อนว่าต้องใส่สัตว์ตัวไหน
วัตถุอะไรเป๊ะๆ แต่ใช้ความรู้สึกตอนจัดวางว่าจุดไหนของภาพยังขาดอยู่

ถึงจะดูติสท์ แต่งานของนักรบก็ไม่ใช่แนวแอ็บสแตร็กที่ดูไม่เข้าใจ หากมีเนื้อหาที่ตั้งใจจะเล่าไม่ทิ้งลา บัณฑิตอักษรศาสตร์ นักรบบอกว่า ทั้งที่วัฒนธรรมไทยนั้นหยิบมาเล่นได้หลากมิติ แต่น่าเสียดายที่มันถูกเล่าแค่ในขนบเก่าเชยหรือวางไว้บนหิ้งไม่ให้แตะต้อง งานคอลลาจของเขาเลยเป็นงานที่จับไทยชนฝรั่ง บ้างก็ปะทะกับอวกาศ เป็นศิลปะไทยร่วมสมัยซึ่งมองเห็นที่มาที่ไป แถมใครๆ ก็จับต้องและวิจารณ์ได้

“สำหรับเราไม่มีอะไรเป็นไทยแท้ จีนแท้ แบบนั้นหรอก คนแต่ละรุ่นแค่เลือกรับปรับใช้สิ่งที่ชอบ สิ่งที่เข้ากับรสนิยมของตัวเองมาอยู่ในชีวิต เราก็อยากถ่ายทอดสิ่งนี้ในงานว่าวัฒนธรรมไม่มีเส้นแบ่งอะไร มันคือการเอาสิ่งที่ชอบมาใส่แล้วบอกว่านี่คือเราแค่นั้นเอง” นักรบย้ำแล้วบอกว่าตอนนี้กำลังเริ่มหาวิธีดึงงานคอลลาจให้ไม่หยุดแค่ในกระดาษหรือไฟล์คอมพิวเตอร์ ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นงานอินสตอลเลชันอาร์ตที่มีชฎา ผ้าไทย และต้นสนคริสต์มาส อยู่ในพื้นที่เดียวกันเร็วๆ นี้ก็ได้