“การได้รักและถูกรักมันโคตรสำคัญ” Pink Sweat$ ศิลปินที่ทำเพลงรักติดท็อปชาร์ตตั้งแต่อัลบั้มแรก

Pink Sweat

ก่อนหน้านี้เราคงจินตนาการไม่ออกว่าคนที่เกิดในครอบครัวเคร่งศาสนาในเมืองฟิลาเดลเฟีย เติบโตมากับเสียงดนตรีในโบสถ์ และพ่อแม่ไม่อนุญาตให้เมโลดี้ใดๆ ในเพลงร่วมสมัยเล็ดลอดเข้ามาในบ้าน จะทำเพลงอาร์แอนด์บีโด่งดังระดับทะยานขึ้นท็อป 10 บนชาร์ตอเมริกาตั้งแต่เดบิวต์อัลบั้มแรกได้ยังไง

Pink Sweat

แต่เมื่อได้ฟัง Honesty ซิงเกิลจาก​ Volume 1 EP EP แรกของ Pink Sweat$ ที่ปล่อยออกมาในปี 2018 เราก็พอเดาเหตุผลออก

เสียงร้องนุ่มๆ คลอเคล้าไปกับเสียงกีตาร์ รายละเอียดเพลงแบบมินิมอลแต่เฉียบขาดตั้งแต่ฟังครั้งแรก ทำให้หลายคนชื่นชอบจนขึ้นไปติดชาร์ตเพลงหลายแห่งในอเมริกาทันที จนถึงตอนนี้ยอดสตรีมมิงใน Spotify ของ Honesty พุ่งสูงถึง 206 ล้านครั้ง ทำให้โปรดิวเซอร์ชื่อ David Bowden กลายเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค ในนาม Pink Sweat$ ชื่อที่มีที่มาจากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งซึ่งจำชื่อจริงเขาไม่ได้ จำได้แค่ว่าเขาใส่กางเกงสีชมพูเลยเรียกแบบนั้น

หลังจากประสบความสำเร็จใน EP แรก เขาก็ปล่อย EP สองอย่าง Volume 2 EP ตามมาในปี 2019 และไม่ถึงปีหลังจากนั้น Pink Sweat$ ก็ประกาศว่าจะปล่อย The Prelude พรีอัลบั้มเรียกน้ำย่อยก่อนอัลบั้มจริง โดยบรรจุเพลงรักสบายหูอย่าง 17 และ At My Worst ที่ฮิตติดชาร์ตสตรีมมิงมิวสิกอย่าง Apple Music, Spotify และ Billboard Hot R&B Songs ทันทีหลังปล่อยเพลง 

Pink Sweat$

เขายังมีโอกาสได้ร่วมทำเพลงกับศิลปินหลายคน ที่พิเศษเลยคือการบินข้ามทวีปมาคอลแล็บกับ Joshua และ DK จากวง SEVENTEEN ในเพลง 17 และชวนศิลปินอาร์แอนด์บีชื่อดังจากเกาหลีอย่าง Crush มาร่วมทำซิงเกิลพิเศษอย่าง I Wanna Be Yours 

ไม่ใช่แค่เสียงแนวอาร์แอนด์บีและดนตรีอะคูสติกที่ทำให้ Pink Sweat$ มีแฟนเพลงติดตามผลงานทั่วโลก แต่เนื้อหาเพลงสะท้อนมุมมองความรักของเขาก็ถูกอกถูกใจนักรักไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเพลง 17 ที่แฟนๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากเอาไปเปิดในงานแต่งงานตัวเอง หรือเพลง At My Worst ที่หลายคนออกปากชมว่าศิลปินวัย 29 คนนี้แต่งเนื้อเพลงได้ลึกซึ้งจนฟังแล้วกลับมาเชื่อในรักแท้อีกครั้ง

Pink Sweat$

พูดแค่นี้ก็การันตีถึงคุณภาพผลงานของเขาได้ไม่ยาก และราวกับว่า Pink Sweat$ ไม่เคยเบื่อการเซอร์ไพรส์แฟนๆ เพราะในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศิลปินผู้เกิดในวันแห่งความรักคนนี้ก็ปล่อย PINK PLANET อัลบั้มเต็มซึ่งเขาอธิบายให้เราฟังในวันที่คุยกันผ่านโปรแกรม Zoom ว่ามันคือการสร้างโลกสีชมพูที่ส่งต่อความรักให้กับทุกคน 

แม้จะยังยืนยันไม่ได้ว่ารักแท้มีจริงหรือไม่ แต่เราเชื่อว่าไม่มากก็น้อยโลกนี้ยังต้องการความรักอยู่ และ Pink Sweat$ ก็อยากจะส่งต่อสิ่งเหล่านั้นให้กับทุกคนในเวลานี้

Pink Sweat$

จากเด็กที่โตมากับเพลงคริสเตียนสู่ศิลปินอาร์แอนด์บีเจ้าของเพลงท็อปชาร์ต

หลายครั้งที่ Pink Sweat$ ออกสื่อ เขามักเล่าถึงการเติบโตในครอบครัวเคร่งศาสนาในเมืองฟิลาเดลเฟีย เขาเป็นมือกลองในโบสถ์แบบพ่อตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ชีวิตจึงโอบล้อมด้วยเสียงเพลงจากโบสถ์ ไม่เคยได้ฟังเพลงป๊อปหรือเพลงร่วมสมัยเลย หลายคนเลยสงสัยว่าแล้วเขาสามารถทำเพลงเพราะๆ ครองใจคนได้ยังไง

“มันไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร ผมเขียนสิ่งที่ผมรู้สึกลงไป แบบ ‘I need somebody who can love me at my worst.’ หรือในเพลง Honesty ก็ ‘Cause I want you.’” เขาหยิบเพลงฮิตของตัวเองมาร้องให้ฟังเพื่อเป็นการยกตัวอย่างหลังจากเราถามถึงกลเม็ดเคล็ดลับการทำเพลงของเขา

อาจจะฟังดูง่ายกับการที่ศิลปินบอกว่าคิดอะไรก็ใส่เข้าไปในเพลง แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำแบบนั้นได้ ยิ่งคนที่ไม่ได้เรียนหรือศึกษาการทำเพลงมาโดยตรงก็น่าจะเป็นเรื่องยากไม่น้อย เขาเคยเล่าไว้ในพ็อดแคสต์รายการ K-Pop Daebak ด้วยว่าช่วงแรกๆ แทบไม่รู้จักโครงสร้างของเพลงเลย ไม่รู้ว่าฮุกคืออะไร เวิร์สต่อไปควรเป็นยังไง จนโปรดิวเซอร์บอกว่าเขาเป็นศิลปินที่ไม่รู้จักเทคนิคเพลงอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาก็ยอมรับอย่างนั้น แต่ในใจลึกๆ ก็เชื่อว่าความรู้สึกข้างในมันสำคัญกว่าเรื่องเทคนิคเสมอ 

นิตยสารและสื่อดนตรีหลายสำนักวิเคราะห์ว่าเพลงของศิลปินจากฟิลาเดลเฟียคนนี้แทบไม่เหมือนกับเพลงฮิตอื่นๆ ของชาร์ตอาร์แอนด์บีในตลาดอเมริกาเท่าไหร่ นับตั้งแต่ปี 2016-2017 ที่เพลง Long Song Away ของ Kevin Ross, Before I Do ของ Sevyn Streeter และ Best Part ของ Daniel Caesar ถูกปล่อยออกมา ก็แทบจะไม่มีเพลงไหนที่ใช้ดนตรีน้อยๆ แล้วปล่อยให้เสียงร้องได้มีบทบาทเด่นอีกเลย จนกระทั่ง Pink Sweat$ เข้ามาในวงการเพลงอาร์แอนด์บีก็มีความหลากหลายขึ้นทันที บางสำนักนิยามว่าเพลงของเขาเป็นดนตรีแบบร่วมสมัยแต่วิธีการร้องและเสียงของเขาเป็นสไตล์อาร์แอนด์บียุคเก่า หากรวมกันแล้วลงตัวเป็นที่สุด

อันที่จริงเจ้าตัวเองเคยบอกกับนิตยสาร Rolling Stone ไว้ว่า ‘ผมไม่ได้พยายามจะแตกต่าง แต่ผมน่ะแตกต่าง’ เพราะ Pink Sweat$ ไม่ใช่ศิลปินแนวที่จะพูดเรื่องเพศอย่างโจ่งแจ้ง ไม่ดูถูกผู้หญิง ไม่คิดจะตัดทรงผมแฟนซีๆ แต่เขาเลือกใส่ชุดสีชมพูซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราจะเห็นได้บ่อยในวงการเพลงอาร์แอนด์บีของอเมริกาสักเท่าไหร่

Pink Sweat$

Pink Sweat$ กับโลกสีชมพูที่สร้างไว้ในอัลบั้ม PINK PLANET

หลังจากที่ Pink Sweat$ แอบปล่อยบางเพลงเป็นน้ำจิ้มในพรีอัลบั้ม The Prelude มาแล้ว ในที่สุดแฟนๆ ก็ได้ฟังอัลบั้มแรกในชีวิตของเขาซึ่งปล่อยก่อนวันเกิดเขาแค่ 2 วัน 

“อัลบั้ม PINK PLANET เกี่ยวกับการจินตนาการถึงโลกอันสวยงามที่เป็นพื้นที่ให้คุณได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เพลงที่อยู่ในอัลบั้มนี้มอบความรู้สึกสดชื่นเหมือนการหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป” เขาตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้นหลังจากที่เราถามถึงคอนเซปต์ของอัลบั้มนี้

“ผมอยากแชร์ความรู้สึกในใจ มุมมอง ความกล้าหาญในการทำเพลง และพลังของผมให้กับทุกคน” เขาเสริมจุดมุ่งหมายของตัวเองในการทำอัลบั้มนี้

Pink Sweat$

อัลบั้ม PINK PLANET ประกอบไปด้วย 18 แทร็ก รวมเพลงที่เขาเคยปล่อยไปก่อนหน้านี้แล้ว 7 เพลงคือ Give It To Me, Icy, Not Alright, At My Worst, 17Lows และ Honesty เนื้อหาส่วนใหญ่ว่าด้วยเรื่องความรัก แต่ไม่ใช่แค่โลกของหนุ่มสาวเท่านั้น เพราะมันประกอบไปด้วยเรื่องราวของเขา คนรัก ประเด็นสังคมอย่าง Black Lives Matter และครอบครัว

“ยกตัวอย่างเพลง PINK FAMILY ที่ผมเอาทั้งครอบครัวมาร้องเพลงนี้ด้วยกัน และชวนเพื่อนสนิทมาแรปแบบเจ๋งๆ” เขาพูดถึงเพลงที่ว่าด้วยครอบครัว ซึ่งอาจทำให้หลายคนแปลกใจไม่น้อยว่าทำไมเขาถึงชวนทั้งครอบครัวที่ไม่อนุญาตให้เขาฟังเพลงอื่นนอกจากเพลงในโบสถ์มาร้องเพลงอาร์แอนด์บีร่วมสมัยด้วยกัน แต่เขาเคยบอกกับ Eric Nam ในรายการ K-Pop Daebak ว่าหลังจากประสบความสำเร็จ ครอบครัวก็เข้าใจในสิ่งที่เขาทำมากขึ้น 

Pink Sweat$

“คุณรู้ใช่ไหมว่าเวลาคนที่ประสบความสำเร็จเขามักจะแยกตัวออกจากครอบครัวไปทำนู่นทำนี่ ผมอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าไม่มีคำว่าใหญ่เกินไปสำหรับครอบครัว และผมอยากแสดงให้เห็นความรักใคร่กลมเกลียวภายในครอบครัว เพราะผมว่าสุดท้ายแล้วนี่คือสิ่งที่ทุกคนเหลืออยู่ ครอบครัวคือสิ่งสำคัญของผม ผมเลยอยากมอบเพลงนี้ให้พวกเขา” เขาบอกกับเราด้วยรอยยิ้ม อันที่จริงถ้าลองกดฟัง PINK FAMILY คุณอาจรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายแบบเพลงในโบสถ์จากการร้องประสานเสียงซึ่งผสมกับโฟลวแรปที่สอดคล้องไปกับดนตรีร่วมสมัยอย่างชัดเจน

อีกเพลงที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Not Alright ที่เขาตั้งใจใส่ประสบการณ์การเป็นคนผิวดำในสังคมอเมริกาลงไป เขาเคยบอกไว้ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่าตั้งใจจะเก็บเพลงนี้ไว้ปล่อยพร้อมอัลบั้มเต็ม แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ Black Lives Matter ในปีที่ผ่านมาเขาเลยใส่เข้ามาใน The Prelude ด้วยความหวังว่าเขาจะสามารถใช้แพลตฟอร์มของตัวเองสื่อสารในสิ่งที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความกลมเกลียว และสิ่งที่เขาเชื่อ เพื่อบอกว่าแม้เวลานี้จะมีความรู้สึกที่ไม่โอเค แต่ทุกคนไม่ได้สู้อย่างโดดเดี่ยว และเขาก็อยากมอบความรักให้กับทุกคน

Pink Sweat$

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาเกิดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์และชอบใส่ชุดสีชมพูจนเป็นที่มาของชื่อ Pink Sweat$ หรือเปล่า ถึงทำให้เขาเลือกที่จะแสดงออกในทุกเรื่องด้วยความรักผ่านเพลงรักในทุกๆ ความสัมพันธ์ โดยเฉพาะความรักของคู่รัก

“คนเราต้องการความรัก มันเป็นความต้องการของมนุษย์ที่จะถูกรัก และการที่เรารักใครสักคนมันก็ทำให้รู้สึกดีเช่นกัน ผมว่ามันโคตรสำคัญ เพราะถ้าเราไม่รู้จักรัก เราจะเป็นคนประเภทไหนล่ะ” เขาตอบทันทีหลังจากที่เราถามว่าการส่งต่อความรักสำคัญยังไงในช่วงเวลานี้

“อัลบั้มนี้ต้องการสื่อสารถึงความรักนี่แหละ ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าความรักคือความเข้าใจ ความอดทน และความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ความรักนั้นเพอร์เฟกต์ แต่บางทีคนจะชอบคิดแค่ว่ามันคือการพูดง่ายๆ ว่าฉันรักคุณนะ แต่ความจริงทุกคนต้องผ่านบททดสอบและความยากลำบากทุกวันเวลาที่รักใครสักคน”

Pink Sweat$

ขณะฟังเรื่องราวที่เขาพูดทำให้เรานึกถึงหลายเพลงที่เขาแต่งทันที โดยเฉพาะเพลงที่พูดถึงศรัทธาในความรักซึ่งทำให้แฟนๆ บางคนกลับไปเชื่อในรักแท้อีกครั้ง เราจึงขอหยิบเรื่องนี้ไปถามศิลปินวัย 29 ปีบ้างว่าเขาเชื่อในรักแท้ไหม

“ผมเชื่อในรักแท้ ยิ่งโตก็ยิ่งเชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง และผมอยากมีความสัมพันธ์แบบนั้น” เขาตอบอย่างเรียบง่าย 

Pink Sweat$

 ก่อนจะบอกลากันผ่าน Zoom เราแอบทิ้งท้ายถามเขาเล่นๆ ด้วยว่า ถ้าวันนั้นเขาไม่ได้ใส่กางเกงสีชมพูและเพื่อนร่วมงานจำชื่อเขาไม่ได้จนต้องเรียกว่า Pink Sweat$ เขาจะใช้ชื่อตัวเองในวงการดนตรีนี้ว่าอะไร

“คุณคิดว่าจะเป็นอะไรดี?” เขาถามไอเดียจากเราก่อนจะนิ่งคิดนาน

“น่าจะเป็นคิวปิดมั้ง” เขาหัวเราะให้กับคำตอบ และเราคิดว่ามันเป็นชื่อที่เข้ากับเขาไม่น้อย เพราะ Pink Sweat$ อาจจะได้รับมอบหมายจากใครสักคนให้เป็นคนมอบความรักให้โลกใบนี้ผ่านเสียงดนตรีก็ได้

ถ้าไม่เชื่อ คุณลองเข้าไปสัมผัสใน PINK PLANET ของเขาดูสิ 

AUTHOR