วิกฤตวัยกลางคืนกับขวบวัยรู้ตื่นของอพาร์ตเมนต์คุณป้า

การจะเอ่ยปากแนะนำตัวกับใครสักคนว่าประกอบอาชีพ ‘นักดนตรี’ ดูจะเป็นคำที่มีเรื่องราวก่อนหน้ามากมายเหลือเกิน เริ่มตั้งแต่ใจรัก ลงมือทำ และฝึกฝนแรมปีจนถึงวันที่มีเพลงเป็นของตัวเอง กาลเวลาเหล่านั้นแลกมาด้วยอะไรมากมายพอให้คนๆ หนึ่งกล้าพูดออกมาว่าเขาประกอบอาชีพ ‘นักดนตรี’ ได้ และคงยิ่งยากมากขึ้นไปอีก ถ้ามีคนกลุ่มหนึ่งสามารถพูดประโยคนี้ได้เต็มปากมากว่า 16 ปีแล้ว

พวกเขาทั้ง 5 มีนามว่า ‘อพาร์ตเมนต์คุณป้า’ และพวกเขาแนะนำตัวกับเราว่าเป็นนักดนตรี

อพาร์ตเมนต์คุณป้าโลดแล่นในวงการเพลงมานาน หลายคนน่าจะเคยฟังการผจญภัยของพวกเขามาบ้าง ตั้งแต่การเป็นศิลปินอิสระ การถูกนิยามว่าเป็นวงอินดี้ ไปจนถึงการเดินเข้าสู่ค่ายเพลง Sanamluang Music เมื่อไม่กี่ปีก่อน หลายหมวกถูกเอามาสวมใส่ให้พวกเขา แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา สิ่งที่พวกเขานิยามตัวเองมาตลอดกลับเป็นแค่คำเดียว นั่นคือนักดนตรีร็อกแอนด์โรล


อพาร์ตเมนต์คุณป้า
กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มชุดที่ 5 ในชื่ออัลบั้มชื่อเดียวกับชื่อวง หลายคนน่าจะได้ชม MV หยุดค่ำคืนไว้ตรงหน้าเธอจะดีไหม ไปแล้ว ในวาระนี้เราจึงเชิญ ตุล ไวฑูรเกียรติ (ร้องนำ), ปั๊ม-ปิย์นาท โชติกเสถียร (กีตาร์), บอล-กันต์ รุจิณรงค์ (กีตาร์), จ้า-ทรรศน์ฤกษ์ ลิ่มศิลา (กลอง) และ ใหม่-ภู่กัน สันสุริยะ (เบส) มาคุยกันอีกครั้ง แน่นอนว่าการทำงานที่ผ่านมาทำให้เราเคยเจอกันมาก่อน แต่ครั้งนี้สิ่งที่เราสนใจคือขวบวัยที่มากขึ้นของพวกเขาและคำโปรยในช่วงโปรโมตอัลบั้มที่บอกว่า อัลบั้มนี้คือ coming of age ของพวกเขาอย่างแท้จริง

ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยบอกว่า อพาร์ตเมนต์คุณป้าคือผลิตภัณฑ์ที่รับประกันหนึ่งร้อยปี

แล้วในปัจจุบันกับวัยสิบหกปี ผลิตภัณฑ์นี้กำลังเป็นแบบไหนและยังคงรับประกันอยู่หรือเปล่า

เดินขึ้นอพาร์ตเมนต์มาเลย เหล่าคุณป๋าทั้ง 5 รอตอบคำถามพวกเราอยู่

หมอกฝันและควันเมือง

อัลบั้มใหม่ชุดที่ 5 ของอพาร์ตเมนต์คุณป้าแบ่งเป็น 2 พาร์ท พาร์ทละ 5 เพลง และบวกอีก 2 เพลงพิเศษ

5 เพลงแรกอยู่ในพาร์ทที่เรียกว่า ‘หมอกฝัน’ เนื้อเพลงทั้งห้าเกิดจากปลายปากกาของตุลที่เขียนไว้ในวันที่เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอปายช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต บรรยากาศที่นั่นสรรค์สร้างเนื้อเพลงหลากตัวอักษรออกจากความคิด ก่อนจะมาทำดนตรีที่กรุงเทพฯ หลังจากกลับมา

อีก 5 เพลงต่อมาคือพาร์ทที่เรียกว่า ‘ควันเมือง’ พาร์ทนี้เกิดจากคนในวงทำดนตรีก่อนแล้วตามมาด้วยเนื้อร้องที่ตุลแต่งทีหลังตอนที่กลับมากรุงเทพฯ บวกกับอีก 2 เพลงพิเศษสุดท้ายที่พวกเขาเคยทำร่วมกับศิลปิน Yellow Fang กลายเป็น 12 เพลงที่ประกอบเป็นอัลบั้มที่ 5 ของพวกเขา

แต่ทำไมต้องเป็น ‘หมอกฝัน’ และ ‘ควันเมือง’ ล่ะ

“ผมไม่เคยแต่งเพลงที่ต่างจังหวัด งานที่ผ่านมาของอพาร์ตเมนต์คุณป้าทั้งหมดเกิดขึ้นและพูดถึงกรุงเทพฯ เป็นเรื่องของเมืองมากกว่าป่าเขาลำเนาไพร แต่พอไปอยู่ที่ปาย ทุกอย่างพาไป เหมือนเป็นมวลความเศร้าที่อยู่รอบๆ บรรยากาศที่สวยงามมาก เป็นจังหวะที่พอดีจนได้เนื้อเพลงที่ต่างจากเดิม พอกลับมาเจอกับคนในวงแล้วกางเนื้อเพลงออกมาดูทั้งหมด เราก็รู้เลยว่าต้องมี 2 พาร์ทเพราะมู้ดเพลงที่มาจากปาย เราคิดว่ามันอิ่มและพอแล้ว ส่วนที่เหลือต้องเป็นมู้ดอื่นบ้าง เราจึงแบ่งเป็น 2 พาร์ทให้อยู่ในอัลบั้มเดียวกันได้โดยยังมีความต่อเนื่องของอารมณ์อยู่” ตุลอธิบายเหตุผล

ในพาร์ท ‘หมอกฝัน’ อพาร์ตเมนต์คุณป้าเลือกที่จะเล่าเรื่องนี้ด้วยดนตรีออกแนวคันทรีร็อกนิดๆ ซึ่งเป็นรสชาติใหม่สำหรับพวกเขา ส่วนพาร์ท ‘ควันเมือง’ จะมีความเป็นร็อกแอนด์โรลโอลด์สคูลอยู่สูงตามฉบับอพาร์ตเมนต์คุณป้าในอดีต แต่ก็แทรกองค์ประกอบใหม่ๆ เข้ามาจนทำให้เรารู้สึกเห็นถึงความแตกต่าง

ความแตกต่างในวัย 16 ขวบ

ใหม่ในเก่า เก่าในใหม่ ไม่มีอะไรไม่เก่า ไม่มีอะไรไม่ใหม่

“บางทีเราทำมานาน เราก็ต้องหา inspiration” บอลเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่เราคุยกันถึงเรื่องความสดใหม่ในวัย 16 ขวบของอพาร์ตเมนต์คุณป้า พร้อมอธิบายต่อว่า “ผมคิดว่าดนตรีเรายุ่งเหยิงน้อยลง มันก็ยังยุ่งเหยิงตามแบบของเราอยู่ แต่มันถูกจัดวางมากขึ้นด้วยส่วนผสมที่เหมือนเดิม”

สิ่งที่บอลหมายถึงและใครหลายคนน่าจะจับได้เมื่อได้ฟังเพลงใหม่ของพวกเขาคือรายละเอียดในดนตรีที่ต่างไป ถ้าจะพูดให้ชัดเจนขึ้นคือภาพรวมของทั้ง 10 เพลงยังคงเป็นอพาร์ตเมนต์คุณป้าอยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการเสริมซาวนด์ดนตรีที่ไม่เคยได้ยินจากพวกเขา รวมถึงท่วงทำนองแบบเดิมแต่มีการวางตำแหน่งใหม่

ความสดใหม่ที่พุ่งออกมานี้ ปั๊มมีคำตอบมาให้เราถึงสาเหตุของมัน

“ดนตรีเป็นเรื่องของจังหวะจะโคนที่เราอยากให้เกิดขึ้น มันออกมาตามธรรมชาติ พอเราเริ่มทำอัลบั้มนี้ ความรู้สึกที่อยากลองอะไรใหม่ๆ มันก็มาของมันเองนะ ทั้งเครื่องสาย เมลโลตรอน เครื่องเขย่า หรือพวกฮาร์โมนีซึ่งเราไม่เคยมีมาก่อนเลย ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นเรื่องที่ว่าเราอยากเล่าเรื่องยังไง ด้วยเครื่องมือไหนถึงจะเหมาะสมกับคำนี้ ประโยคนี้ ความรู้สึกนี้

“ถ้าเกิดฟังชุดแรกๆ บางครั้งในวินาทีเดียวเรามีดนตรีครบทุกชิ้นเลย ทุกคนซัดไปพร้อมกัน แต่ในวันนี้ ในวินาทีหนึ่งคนหนึ่งอาจจะหยุดเล่นเพื่อให้อีกคนหนึ่งเล่น เหมือนกีฬาฟุตบอล ถ้าทุกคนแย่งกันไปยิงประตูก็คงไม่ได้ มันอาจต้องมีคนอยู่ข้างหลังด้วย”

ฟังจากคำพูดและบทเพลง เราคิดว่าพวกเขารู้จักจัดวางตำแหน่งที่เหมาะสมในแต่ละจังหวะได้ดีทีเดียว คำถามที่ว่าอะไรควรเก่าและอะไรควรใหม่ เหมือนจะถูกตอบด้วยประสบการณ์ของพวกเขาทั้งห้าอย่างสมบูรณ์ในช่วงวัยนี้ แต่มีอีกหนึ่งสิ่งใหม่ในอัลบั้มนี้ที่อพาร์ตเมนต์คุณป้าไม่เคยทำมาก่อนและได้ลองทำเป็นครั้งแรก นั่นคือการส่งเพลงทั้งหมดไปมิกซ์เสียงที่ต่างประเทศ การเดินทางของเพลงทั้ง 10 นี้เองคืออีกหนึ่งประสบการณ์ที่พวกเขานิยามว่าได้ผลเกินคาด

“อยากลองครับ สักครั้งหนึ่งในชีวิต” ตุลบอกกับเราด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ก่อนจะเล่าให้เราฟังถึงเรื่องราวครั้งนั้นและความไม่สมบูรณ์แบบของร็อกแอนด์โรล

It’s OK to FUCK UP

เกือบทั้งหมดของเพลงในอัลบั้มใหม่ของอพาร์ตเมนต์คุณป้ามิกซ์เสียงที่นิวยอร์ก และคนที่พาเพลงทั้งหมดไปหาโปรดิวเซอร์เหล่านั้นก็คือตุล

ถึงแม้จะมีการนัดหมายคร่าวๆ กับโปรดิวเซอร์ทั้ง 3 คน แต่การเดินทางไปนิวยอร์กในวันนั้นของตุลไม่ได้มีอะไรการันตีเลยว่าเพลงของพวกเขาจะถูกพัฒนา ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเพลงของอพาร์ตเมนต์คุณป้าจะถูกใจโปรดิวเซอร์หรือเปล่า ซึ่งการเดินทางของตุลจบลงด้วยดีเพราะเพลงทั้งหมดถูกใจโปรดิวเซอร์อย่างที่พวกเขาหวังไว้

“เชื่อไหมว่า ก่อนเดินทางไปนิวยอร์ก ผมยังตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงกับเพลงเรา เราแปลเนื้อเพลงให้เขาฟังทุกเพลงเลย แอบเครียดเบาๆ กลัวเขาไม่ชอบหรือเอาเพลงเราไปตีความอีกแบบ” ตุลเล่าให้เราฟังถึงความกังวลก่อนไป และเล่าต่อถึงความดีใจจากการตอบรับที่ได้พบ “ผลที่ออกมาเกินคาดมากๆ สำหรับเราทุกอย่างเพอร์เฟกต์ กลายเป็นว่าเรากังวลมากเกินจนโปรดิวเซอร์คนหนึ่งถึงกับทักเราเลยนะว่า ยูอยากทำเพลงโอลด์สคูลแต่ยูเนี้ยบเกินไป ‘Rock & Roll is the music that tell you life never perfect, so it’s OK to fuck up’ เขายังพูดติดตลกอีกว่า อเมริกาเขาไม่ทำเพลงแบบนี้กันแล้ว ยูกับไอเป็นไดโนเสาร์เหมือนกัน ดังนั้นเขาเลยทำงานนี้ให้”

นี่เป็นประสบการณ์ส่งเพลงมิกซ์ต่างประเทศครั้งแรกที่ดีเกินคาดอย่างที่พวกเขาว่าไว้จริงๆ ดนตรีบางช่วงในอัลบั้มทำเรานึกถึงซาวนด์ดนตรีต่างชาติ รสชาติใหม่ๆ นี้ทำให้เราสนุกตลอดการฟังเรื่องราวจากพวกเขาผ่านบทเพลง แต่อย่างหนึ่งที่ติดในใจเราคือคำพูดของโปรดิวเซอร์คนนั้นที่ว่าพวกเขาคือไดโนเสาร์ แล้วยังคำโปรยในอัลบั้มที่พูดถึงการ coming of age อีก

ตอนนี้พวกเขากลายเป็นนักดนตรีไดโนเสาร์ไปแล้วจริงๆ หรือกำลังเป็นนักดนตรีผู้ก้าวผ่านช่วงวัย coming of age ไปแล้วกันแน่

วัยเปลี่ยนผ่านและกาลเวลาต่อไป

“ไม่รู้ว่าอิ่มตัวหรือแก่กันแน่นะ” ตุลตอบคำถามเราที่สงสัยว่าอะไรใหม่ๆ ในอัลบั้มนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไง ก่อนจะอธิบายต่อ

“แต่งเพลงมาทั้งชีวิตเป็นร้อยเพลง มันก็เป็นไปได้ที่เราจะไม่รู้ว่าจะเล่าอะไรต่อ ตอนเด็กหรือวัยรุ่นเรื่องมันเยอะ แต่ตอนนี้เหมือนเป็นวิกฤตวัยกลางคน เรารู้สึกด้านชา พอคนเราอายุมากขึ้น ภูมิต้านทานมันเยอะ เรื่องที่เป็นปัญหาก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่จี๊ด อย่างความรัก สมมติว่าชอบใครแล้วเขาไม่ชอบเรานะ มันเป็นเรื่องธรรมดามาก มันไม่เหมือนตอนเราวัยรุ่น ดังนั้นเราเลยอยากลองบรรยากาศใหม่ๆ การลองของเราเหมือนการเปลี่ยนสีเสื้อผ้าข้างนอก แต่ถ้าลองฟังแก่นของดนตรีจริงๆ เรายังไม่ไปไหนหรอก เราเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย แต่สุดท้ายตัวตนเราก็เป็นแบบนี้”

เมื่อลองฟังเนื้อเพลงทั้งหมด เรารู้สึกอย่างที่ตุลบอกไว้เช่นกัน เราเห็นการมองโลกในสายตาของอพาร์ตเมนต์คุณป้าที่โตขึ้นพร้อมกับอายุของวง การแต่งเพลงที่ต่างจังหวัดครั้งแรกถือเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ พาร์ทดนตรีก็เหมือนเสื้อผ้าหลากสีสันที่ชวนมอง (ฟัง) ดูเหมือนช่วงวัยไม่อาจพรากตัวตนของพวกเขาไปได้ พวกเขาปรับตัวและอยู่กับมันผ่านผลงานที่เติบโตไปพร้อมกับตนเอง ผลงานที่เราได้ยินกับตัวเลข 16 ขวบของอพาร์ตเมนต์คุณป้า กลายเป็นสิ่งที่เดินหน้าไปด้วยกันอย่างไม่ขัดแย้ง

ด้วยเหตุนี้ เราจึงคิดว่าพวกเขาจะเดินหน้าต่อไปอีกหลายปี

“พวกเราคงทำดนตรีไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ต่างไปคืออายุขนาดนี้เราไม่ได้คาดหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้ว เรามักน้อย เราทำมานานขนาดนี้และทำต่อไปได้เพราะเราไม่ลุ้นแล้วว่าเพลงจะฮิตหรือไม่ฮิต ก่อนหน้านี้เราอาจคาดหวังนะ แต่ตอนนี้คงไม่ เพราะเราคิดว่าเพลงจะฮิตหรือไม่ฮิต คุณค่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น สำหรับเรามันอยู่ที่ความสุข แฟนเพลงเราฟังแล้วมีความสุข เราก็แฮปปี้ เราคิดว่าเราทำดนตรีที่สนุก เราชอบกัน มีความสุขประมาณนี้ มีที่ให้เล่นบ้างแล้วแต่โอกาส มีคนฟังก็พอใจแล้ว” ตุลสรุปถึงตัวตนของพวกเขาในปัจจุบันก่อนจากกัน

เราเดินลงมาจากอพาร์ตเมนต์ของป๋าทั้ง 5 พร้อมซีดีเพลงและลายเซ็นบนแผ่น สำหรับเรา นี่ไม่ใช่ซีดีพร้อมลายเซ็นชุดแรกจากพวกเขา แต่อย่างหนึ่งที่ต่างไปคงเป็นเนื้อในของซีดีแผ่นนี้ สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 นี้บรรจุการเปลี่ยนผ่านของพวกเขาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ราวกับมันเป็นบทบันทึกการเดินทางชั้นดีตลอด 16 ปี

อนาคตอาจไม่มีอะไรการันตีแน่นอนว่าอัลบั้มชุดหน้าของพวกเขาจะมาเมื่อไหร่ แต่การมาเจอพวกเขาในวันนี้ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าบันทึกการเดินทางในรูปแบบของบทเพลงจะยังคงเป็นลายเซ็นของอพาร์ตเมนต์คุณป้าไปอีกนาน

อย่างน้อยเราขอสักหนึ่งร้อยปีอย่างที่พวกเขาเคยรับประกันไว้ก็แล้วกัน

ภาพ ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์

ช่างภาพนิตยสาร a day ผู้ชอบกินอาหารที่ถ่าย