The Battleship Island : หนังฟอร์มยักษ์จากเกาหลีใต้ที่ไม่ได้มีดีแค่ซง จุงกิ

Director: Seung-wan
Ryoo

Region: South
Korea

Genre: Action / Drama

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดใจภาพยนตร์รสชาติดราม่า กลมกล่อมด้วยความเข้มข้นทางอารมณ์ใกล้เคียงกับ
Train To Busan ที่ขึ้นแท่นหนังทำเงินแชมป์เก่าของเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้วนั้น
เราขอเชียร์สุดกำลังให้คุณได้ตีตั๋วเข้าไปดู
The Battleship Island ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่จากแดนโสมซึ่งกำลังเป็นกระแสมาแรงขนาดที่ว่า แฟนหนังแห่จองตั๋วล่วงหน้าจำนวนมาก

นี่คือว่าที่แชมป์ใหม่ที่จะทำรายได้พุ่งสู่ตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดของเกาหลีใต้ในปีนี้

เราเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งในสังคมไทยที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ยินคำขอโทษจากผู้อาวุโสกว่า
ในสถานการณ์ที่เราทั้งคู่เพียงสบตากันต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าใครเป็นฝ่ายผิด จะด้วยเหตุผลของอัตตาบ้าใบ้อะไรก็ตามแต่
หลังจากไฟในโรงภาพยนตร์ดับลงไม่นาน และปล่อยให้หนังดำเนินเรื่องไปเพียงไม่กี่นาที
เราก็ได้ยินคำขอโทษที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากตัวละครอาวุโสคนหนึ่งจากเหตุการณ์แสนเศร้า

ฉากการตายอย่างสะเทือนใจของเด็กชายที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างขุดถ่านหินใต้เหมือง
ในพิธีศพ ชายสูงวัยได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อคนรุ่นหลังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคล้ายกำลังรู้สึกผิดที่มีส่วนทำให้คนรุ่นถัดจากเขาต้องมาแบกรับสภาพความเจ็บปวดและชะตากรรมเลวร้ายเกินกว่าที่มนุษย์ผู้ผ่านชีวิตมาไม่กี่ร้อนหนาวจะรับไหว

แต่บางครั้งคำขอโทษ ก็แอบซ่อนอะไรไว้มากมาย…

ลองจินตนาการว่าคุณมีชีวิตที่ถูกปฏิบัติจากมนุษย์อีกกลุ่มราวกับคุณไม่ได้เป็นมนุษย์
พวกเขากดขี่คุณด้วยอาวุธ ข่มเหงคุณด้วยความรุนแรงเยี่ยงทาส อ้างว่าจะจ่ายค่าเหนื่อยให้คุณเป็นเงินในบัญชีที่มีเพียงตัวเลข
แลกกับการมีชีวิตอยู่อย่างรันทดอดสู และเป็นแค่มนุษย์แรงงานในเหมืองถ่านหินกลางทะเลซึ่งเต็มไปด้วยความเสี่ยงบนเกาะฮาชิมะ
(Hachima)

ทางเลือกมีเพียงแค่จะอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี
หรือสู้หาทางหนีเพื่อมีชีวิตรอดและหลุดพ้นจากขุมนรกบนดินแห่งนี้

พล็อตเรื่องของ The Battleship Island เล่าย้อนกลับไปช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกาหลีใต้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น
เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่ญี่ปุ่นจะแพ้สงครามไม่นานนัก
เส้นเรื่องหลักดำเนินเรื่องโดย คังอ๊ก (รับบทโดย ฮวังจองมิน) หัวหน้าวงดนตรีคุณพ่อเหลี่ยมจัดที่มีลูกสาวตัวเล็กขี้งอนชื่อโซฮี (รับบทโดย คิมซูอัน สาวน้อยที่ฝากผลงานการแสดงอันโดดเด่นเอาไว้ใน
Train to Busan นั่นเอง) นักร้องนำมากความสามารถพร้อมกับสมาชิกในวงดนตรีที่ถูกหลอกมาขายแรงงานในเหมืองถ่านหินบนเกาะฮาชิมะร่วมกับเพื่อนร่วมชาติและชาวจีนกว่า
400 ชีวิต

ส่วนหนุ่มหล่อที่สาวๆ หลายคนตั้งใจซื้อตั๋วเข้าไปเพื่อรอคอยจะสบตาเขาผ่านจอภาพยนตร์นั้นก็ถือว่าทำผลงานคิวบู๊ได้อย่างยอดเยี่ยม
ซงจุงกิ รับบทเป็น พัคมูยอง นายทหารสายลับผู้ถูกฝึกฝนจากกองกำลังปลดแอกของเกาหลีใต้ที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการแก้สถานการณ์ทั้งหมด
พร้อมทั้งนักแสดงสมทบเป็นผู้ร่วมชะตากรรมอีกหลายคนที่ช่วยประกอบเป็นเส้นเรื่องที่หลากหลาย
ทำให้หนังเดินเรื่องต่อไปได้อย่างสนุกสนาน

หนังบีบคั้นความรู้สึกคนดูในระดับที่ไม่ตึงเครียดจนเกินไป
ตลอดทั้งเรื่องมีช่วงให้คนดูได้พักหายใจหายคอพอประมาณ แต่ความตื่นเต้นจากฉากแอ็กชั่นก็ดุเดือดและโหดร้ายสมจริง
ผสมกับความดราม่าครบรสทั้งเรื่องความสามัคคีของคนในชาติ ส่วนงานด้านโปรดักชันดีไซน์และภาพก็เข้าใกล้คำว่าอลังการ
คอมพิวเตอร์กราฟิกก็เนียนงามคุ้มค่าตั๋ว ที่เด่นมากๆ คือเพลงประกอบช่วงเปิดเรื่องของหนัง
เราชอบที่เพลงมีความขัดแย้งกับภาพอย่างมีนัย ยอมรับเลยว่าเพลงในเรื่องช่วยสร้างและส่งอารมณ์ได้ดีในหลายๆ
ฉาก ทำหน้าที่เป็นตัวละครที่สะท้อนบทบาทของเพลงในช่วงสงครามที่ถูกใช้เพื่อจุดมุ่งหมายอื่นๆ
ได้ด้วยซ้ำ

The Battleship
Island
จัดว่าเป็นภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องของปีที่เล่าความเป็นมนุษย์
ความเป็นชาติของคนเกาหลีใต้ผ่านความโหดร้ายของสงครามโลกได้อย่างน่าสนใจ แม้เราจะยังไม่สามารถตอบคำถามได้เต็มปากว่าสิ่งที่ชาวเกาหลีใต้ในเรือ่งถูกกระทำเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม

AUTHOR