Director: บุญส่ง นาคภู่
Region: Thailand
Genre: Realistic
‘ละเมียด’
ผู้ที่รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างบอกเล่าเป็นเสียงเดียวกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
จนเรารู้สึกว่าต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองให้ได้ ถึงแม้ว่ากระแสของหนังจะไม่แรงมาก (อาจเพราะฉายจำกัดโรง)
แต่
ธุดงควัตร ภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ของบุญส่ง นาคภู่
นักทำหนังผู้เก็บประสบการณ์มากมายจาก
คนจนผู้ยิ่งใหญ่ (2553), สถานี 4 ภาค (2555) และ วังพิกุล
(2557)
ก็เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ได้เสียงชื่นชมไปไม่น้อยจากผู้ชม
สำหรับเรา
ธุดงควัตร ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หมดสิ้น
ทั้งร่างกาย ความคิด และจิตใจ ถูกปลดปล่อยพันธนาการจากความหนักอึ้งไปสู่ความเบาสบาย
ด้วยบรรยากาศของหนังที่มีโลเคชันอยู่ที่ภาคใต้ ซึ่งค่อนข้างมีกลิ่นอายและเสน่ห์เฉพาะตัว
แถมยังเต็มไปด้วยธรรมชาติที่เราโหยหาอยู่ตลอดเวลา
ทุกองค์ประกอบใน
ธุดงควัตร นั้นธรรมดาสามัญมากๆ
แต่ความธรรมดาจำนวนมากกลับพิเศษขึ้นมาเมื่อถูกบรรจงเรียงร้อยต่อกันเป็นเรื่องราว การถ่ายภาพแบบ
Long Take ซึ่งแต่ละเฟรมผ่านสายตาอุรุพงษ์ รักษาสัตย์ ผู้กำกับหนังสารคดีมากฝีมือที่เสริมให้ภาพยนตร์ทั้งเรื่องดูไม่ต่างจากการบันทึกเหตุการณ์จริงของพระภิกษุและชายสูงวัยชาวอีสานผู้ติดหล่มจมลึกอยู่กับห้วงแห่งความทุกข์ในอดีต บวกกับปัญหาชีวิตที่เขาต้องเผชิญในทุกๆ
วัน เมื่อชีวิตดำดิ่งลงสู่จุดต่ำสุด ร่มกาสาวพัสตร์ก็ได้ถูกเลือกเป็นทางเดินใหม่ของชีวิต
หนังเล่าเรื่องเนิบช้าแต่ทว่ามีความหมาย
แถมยังจงใจเปิดพื้นที่การเล่าเรื่องด้วยวิธีการด้นสดอยู่บ้างผ่านการใช้พระภิกษุนิกายธรรมยุติมาแสดงจริง
ข้อนี้ทำให้หนังลงตัวขึ้น แถมคนดูอย่างเรายังมองเห็นประเด็นสำคัญที่หนังต้องการจะสื่อได้ชัดขึ้นอีกว่า
‘ธรรมะคือธรรมชาติ’
– แก่นแท้ของพุทธศาสนาอย่างตรงไปตรงมาผ่านวิถีปฏิบัติประจำวัน
ไม่จำเป็นต้องคมคาย แต่กลับสัมผัสได้ลึกซึ้งผ่านประสบการณ์ที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้
ตัวหนังสะท้อนด้านดีงามแต่เรียบง่ายของศาสนาที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงในสื่อกระแสหลัก
เลยเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้เห็นหนังเล่าเรื่องศาสนาพุทธแบบที่ไม่ต้องมีตัวละครฝ่ายร้ายฝ่ายดี
แต่เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่หันเหเข้าสู่เส้นทางสายนี้เพื่อปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังทิ้งคำถามจำนวนหนึ่งให้เรากลับมาขบคิดกับตัวเองและแลกเปลี่ยนกับคนที่ได้ดูมาเหมือนกัน
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องคุ้มค่า และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็ถือว่าน่าพอใจ
ธุดงควัตร มีกำหนดฉายในกรุงเทพฯ
ที่โรงภาพยนตร์ House RCA วันที่ 7 – 20 ก.ค. 59, เชียงใหม่
ฉายที่โรงภาพยนตร์วิสต้า กาดสวนแก้ว วันที่ 14 – 20
ก.ค. 59, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ฉายที่โรงภาพยนตร์ MVP บุรีรัมย์
เลย กาฬสินธุ์และศรีสะเกษ วันที่ 21 – 27 ก.ค. 59
และฉายที่โรงหนังกันตนา 9 แห่ง วันที่ 11 – 24 ส.ค. 59