THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO รวมเรื่องสั้นอ่านไวๆ ที่ขอใช้เวลาย่อยนานๆ

Highlights

  • THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO คือหนังสือรวม 25 เรื่องสั้นอ่านจบไวๆ ของ ‘เบนซ์–ธนชาติ ศิริภัทราชัย’ นักเขียนที่มีลีลาการเล่าเรื่องกึ่งเศร้ากึ่งขำ เจ้าของผลงานบันทึกการเดินทาง New York 1st Time นิวยอร์กตอนแรกๆ...
  • แม้หนังสือขนาดกะทัดรัดเล่มนี้จะไม่ใช่แนวบันทึกการเดินทางหรือบันทึกชีวิตที่นักอ่านคุ้นเคยจากนักเขียนหนุ่ม แต่ด้วยมุมมอง สำนวน การเล่าเรื่อง และความยียวนของเบนซ์ ก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ ทิ้งรอยจิกกัดเสียดสีแบบตลกๆ ในมวลอักษรของแต่ละเรื่อง
  • สำหรับนักอ่านที่คุ้นชินกับเรื่องสั้นในขนบ รวมเรื่องสั้นเล่มนี้จะให้ความรู้สึกและรสชาติแบบใหม่ด้วยการยิงตรงขายที่พล็อต แม้จะเหวอๆ บ้างในช่วงแรก แต่เมื่อจับจังหวะและคุ้นชินกับการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาแบบนี้แล้ว คุณจะอ่านสนุกจนอยากให้มีต่อไปอีกหลายๆ เรื่องเลยล่ะ

เดือนเพ็ญเป็นคนชอบอ่านหนังสือ

ปกติเธอจะอ่านนวนิยายและรวมเรื่องสั้น

ส่วนใหญ่เรื่องแต่งที่เธออ่านมักมีโครงเรื่องซับซ้อนและสำนวนคมคาย

 

แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้มีโอกาสอ่านหนังสือปกสีชมพูเล่มนี้

เป็นรวมเรื่องสั้นขนาดสั้นที่อ่านไม่นานก็จบ ใช้ภาษาง่ายๆ เน้นพล็อตเป็นหลัก

เอาจริงตอนแรกเธอไม่ได้คาดหวังกับมันมากนักหรอก

แต่รู้ว่าคนเขียนเป็นนักเขียนที่เธอเคยอ่านงานเขียนของเขาในยุคแรกๆ

ช่วงนั้นเขาดังมากเลย

ชื่อของเขาคือ เบนซ์–ธนชาติ ศิริภัทราชัย

ใช่ คนนั้นแหละที่เป็นเจ้าของงานเขียนแนวบันทึกการเดินทางอย่าง New York 1st Time และ The Real Alaska

 

เดือนเพ็ญไปลองค้นดูผลผลงานของเขา

พบว่าเธอเองก็อ่านงานเขาเกือบหมดเหมือนกันนะ

จนมาช่วงหลังนี้เองที่เธอโตขึ้นแล้วหันไปอ่านงานเขียนที่หลากหลายขึ้นตามความสนใจ

เบนซ์เองก็คงโตขึ้นเหมือนกัน

 

เธอรู้มาว่าช่วงหลังเบนซ์เริ่มหันมาเขียนงานแนวเรื่องสั้น

YOU SADLY SMILE IN THE PROFILE PICTURE คือผลงานเล่มแรกที่เขาเขียน

เธอไม่ทันได้ลองอ่าน ก็ข้ามมาอ่านรวมเรื่องสั้นเล่มที่สองของเขาซะแล้ว

THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO เป็นรวมเรื่องสั้นจำนวน 25 เรื่อง

ที่ได้ Art Jeeno มาเป็นนักวาดภาพประกอบให้

ในโปรยปกหลังเขียนไว้ว่า ‘อ่านไวๆ ในหนึ่งเหม่อลอย’

ตอนอ่านครั้งแรก เดือนเพ็ญหลุดยิ้ม

ขนาดเปลี่ยนมาเขียนเรื่องสั้น เบนซ์ก็ยังไม่ทิ้งความยียวน และการใช้ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ไปเลย

 

บรรดาเรื่องสั้นที่ประกอบรวมในเล่มมีจำนวนหน้าตั้งแต่ 2-3 หน้าไปจนถึง 9-10 หน้า

แต่จำนวนหน้าไม่ได้มีผลอะไรต่อความรู้สึก

นอกจากอยากให้มีเรื่องต่อไปเรื่อยๆ

เพราะแค่เปิดเรื่องแรกมาด้วยความสัมพันธ์ของคู่รักคู่หนึ่ง

เดือนเพ็ญก็นั่งนิ่ง ย้อนนึกไปถึงความสัมพันธ์เก่าๆ ที่ผ่านมาของเธอเสียแล้ว

แม้ว่าตอนแรกที่อ่าน เธอจะเหวอกับประโยคเปิดเรื่องที่บอกโต้งๆ

อย่าง ‘นครินทร์และสาธิตาเป็นแฟนกัน’

ไม่คิดจะอารัมภบทหน่อยเหรอ

 

แต่เมื่อปรับความคาดหวัง และปล่อยใจไหลไปตามเรื่องราวที่เบนซ์สร้างขึ้น

เรื่องสั้นสั้นที่ไม่ได้มีวรรณศิลป์อะไรมากนักเล่มนี้

ก็ดึงให้เดือนเพ็ญไล่สายตาอ่านแต่ละบรรทัดอย่างสนใจใคร่รู้

ว่าสุดท้ายแล้วตอนจบมันจะเป็นยังไง

ที่เบนซ์เลือกใช้วิธีการเขียนแบบนั้น

เธอคิดว่าเพราะอิทธิพลจากอีกบทบาทของเขาที่เป็นผู้กำกับโฆษณาและมิวสิกวิดีโอ

จึงไม่น่าแปลกใจที่ขณะอ่านเรื่องสั้น

ถึงรู้สึกเหมือนกำลังอ่านบทหนังสั้นอยู่

 

เรียบง่าย ตรงไปตรงมา ชัดเจน ใคร ทำอะไร ที่ไหน ยังไง

มีจุดที่เล่าความขัดแย้งของตัวละคร

จากนั้นต่อด้วยวิธีการแก้ไข แล้วนำไปสู่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุด

เรียกง่ายๆ ว่าเน้นพล็อตเป็นหลัก

องค์ประกอบเรื่องสั้นของเบนซ์ที่เธอเห็นเป็นแบบนี้

ดูง่ายๆ ใช่ไหม แต่สนุกชะมัดเลย

ความสัมพันธ์ โซเชียลมีเดีย ตัวตน ฐานะ ชนชั้น ปัญหาสิ่งแวดล้อม พฤติกรรมมนุษย์ การเมือง

ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างประเด็นที่เดือนเพ็ญพบในมวลอักษรของ THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO

ไม่ใช่แค่ความหลากหลายของประเด็นเท่านั้น แต่อารมณ์และรสชาติของแต่ละเรื่องสั้น

ก็ให้ความรู้สึกมากมายที่เหมือนแรนด้อมแต่ก็ไม่แรนด้อม

คงคล้ายๆ ชีวิตในวันวันหนึ่งของเราที่เดี๋ยวแวบคิดถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้

 

แต่ก็มีอยู่หลายเรื่องที่เดือนเพ็ญอ่านแล้วต้องใช้เวลาทบทวนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่นาน

เพราะสิ่งที่ตัวละครประสบดันเป็นประสบการณ์ที่เธอเคยเจอมา

ไม่น่าเชื่อว่ามันจะนำเธอกลับไปยังช่วงเวลานั้นหรือช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

เพื่อทำให้เธอมองดูตัวเองในปัจจุบันว่ายังเป็นคนเก่าหรือเปลี่ยนไปแล้ว

หรือกระทั่งว่าเธอก้าวข้ามโมเมนต์ตรงนั้นไปได้หรือยัง

 

จึงไม่น่าแปลกใจถ้าใครจะเห็นเธอเงยหน้าจากหน้ากระดาษแล้วทำหน้าครุ่นคิดอยู่เนืองๆ

เพราะแม้เรื่องราวจะยาวแค่ 5-6 หน้า แต่สารที่ทิ้งไว้มันใหญ่และลึก

ต้องใช้เวลาตกตะกอนใคร่ครวญนานกว่านั้น

A Family Day เรื่องของหญิงสาวกับญาติในวันเชงเม้ง

An Avocado Night ช่วงเวลาความรักอบอวล

A Judgemental Girl หญิงสาวผู้ประสบกับปัญหาการเลือกฝากของไว้กับคนในร้านกาแฟ

A Watch Man กับตอนจบสุดเหวอ

A Long-Term Goal ที่เสียดสีไลฟ์โค้ช

เหล่านี้คือตัวอย่างเรื่องสั้นที่เดือนเพ็ญชื่นชอบจนต้องขออ่านซ้ำรอบสอง

 

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมเธอเซอร์ไพรส์กับงานเขียนเล่มนี้กว่าที่คาดไว้

เหมือนการกินร้านอาหารที่เคยชอบ

แต่พอกินนานๆ ไปก็เบื่อ แล้วดันมีโอกาสกลับไปกินอีกครั้ง

ปรากฏว่าพ่อครัวเปลี่ยนเมนูใหม่แล้วอร่อยถูกจริตเฉยเลย

 

ขณะเดียวกันพ่อครัวก็ยังไม่ทิ้งลวดลายที่ทำให้ลูกค้าคนนี้ติดใจในช่วงแรกไป

ความเสียดสี ขี้แซะ บวกกับความยียวนกวนประสาทกำลังดี

ทำให้รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ไม่เยอะจนเกินไป และไม่น้อยจนเบาโหวง

อีกอย่างที่ต้องชมคือ หลายเรื่องเลือกจังหวะที่ลงล็อกในการเว้นห่างของบรรทัด

เหมือนตัดต่อช่วงเงียบของหนังได้อย่างกลมกล่อม

ทำให้การเล่าเรื่องมีพลังขึ้นมา

 

ถือว่าเป็นรวมเรื่องสั้นรสชาติใหม่ที่ไม่ค่อยเจอในขนบเรื่องสั้นไทย

เดือนเพ็ญคิดว่า THE MORNING FLIGHT TO SAD FRANCISCO เป็นตัวเลือกที่ดี

สำหรับนักอ่านที่อยากลองอ่านอะไรใหม่ๆ หรือนักอยากอ่านที่กำลังหาเรื่องสั้นอ่านง่ายๆ ไม่นานก็จบ

 

เธอพลิกกลับไปดูหน้าปก

พลางคิดในใจว่าเมื่อไหร่พ่อครัวจะทำเมนูใหม่ออกมาอีกนะ

อยากอ่านอีกจัง

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน