“การร้องไห้ที่ถูกคือการร้องไห้ให้ตัวเอง” วันที่ ‘แม็กซ์ เจนมานะ’ ยอมรับว่าตัวเองร้องไห้เก่ง

Highlights

  • คุยกับ แม็กซ์ เจนมานะ เรื่องที่มาที่ไปของเพลง Crybaby ซิงเกิลล่าสุดของเจ้าตัวที่บอกเล่าพัฒนาการของความรู้สึก การเติบโตทั้งในแง่ทัศนคติและทักษะดนตรีของศิลปินหนุ่ม
  • เจอกันคราวนี้ แม็กซ์บอกเราว่า เวลานี้เขาได้เปลี่ยนจากคนหนุ่มที่ยอมทนอยู่กับความเศร้าและความไม่เข้าใจตัวเอง กลายเป็นหนุ่มขี้แย ร้องไห้เก่งไปแล้วเรียบร้อย
  • แม็กซ์ยังคงทำเพลงบนความตั้งใจที่ว่า 'อยากให้เพลงเป็นเพื่อนกับคนฟัง' แถมยังหมายมั่นให้เพลงในอัลบั้มใหม่ของเขา พาคนฟังไปยังที่แปลกใหม่ ได้เปิดหูเปิดตาและพบเจอความสุขมากขึ้น

เราเจอศิลปินหนุ่ม แม็กซ์–ณัฐวุฒิ เจนมานะ ครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน 

ตอนนั้น เจ้าตัวเพิ่งปล่อย ปีศาจ เพลงที่ดาร์กที่สุดในอีพีอัลบั้ม Let There Be Light หลายคนคงจำได้ดีว่า แม็กซ์เขียนเพลงทั้งหมดในอีพีนี้ขึ้นมาเพื่อบำบัดตัวเองจากอาการซึมเศร้า สิ่งที่เราเรียนรู้จากบทสนทนาวันนั้นคือ แม็กซ์ไม่ได้ทำเพลงเพื่อตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น เพลงของเขาถูกบรรจุฟังก์ชั่นของการเป็นเพื่อนที่โอบกอดความรู้สึกของคนที่ตั้งใจฟังมันอยู่ด้วย 

เมื่อความตั้งใจที่อยากสร้างเพลงที่มอบแสงสว่างให้กับคนฟังสำเร็จผล คนที่เคยนั่งอยู่เบื้องหน้าเราเวลานั้น เติบโตกลายเป็นศิลปินหนุ่มหาตัวจับยาก มีทัวร์คอนเสิร์ตทุกวันชนิดที่ว่าทำเอาหมดแรงในการสร้างเพลงใหม่ๆ ไปพักใหญ่ กระทั่งสองสัปดาห์ก่อนแม็กซ์แวะเวียนเข้ามาทักทายอีกครั้งพร้อมกับข้อความว่า เขามีเพลงใหม่ที่อยากให้เราได้ฟัง

Crybaby คือเพลงใหม่ที่ว่า

แม็กซ์ไม่ได้ทิ้งลายเซ็นความดิ่งและความดาร์กในเพลงของตัวเอง แถมยังเสริมอารมณ์ที่ว่าให้หนักแน่นขึ้นด้วยซาวนด์กีตาร์ไฟฟ้า ต่างจากซาวนด์กีตาร์โฟล์กแบบที่เราเคยได้ยินในผลงานก่อนๆ การเจอกันครั้งนี้ เขาเล่าความเปลี่ยนแปลงในชีวิตตัวเองเพียงสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวนี้ ผมร้องไห้เก่งขึ้นนะ”

ชายตรงหน้าเราร้องไห้เก่งขึ้นจริงไหม เราไม่แน่ใจนัก แต่สิ่งที่เราแน่ใจอย่างที่สุดคือ แววตาของแม็กซ์ที่เราเห็นตอนนี้ สะกดสายตาเรายิ่งกว่าตอนนั้นเสียอีก

ครั้งก่อนเราคุยถึงอาการซึมเศร้าของคุณเสียเยอะเลย ตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง

ผมค่อนข้างห่างมันมาเยอะแล้ว ผมว่าตอนนี้ผมโตขึ้นจากตอนที่ทำอัลบั้มก่อน มายด์เซตบางอย่างของผมเปลี่ยนไปเยอะ อย่างอัลบั้มที่แล้วมันเกิดขึ้นจากความคิดของผู้ชายอายุ 25-26 ซึ่งมันไม่ผิดนะ ช่วงนั้นเราแค่คิดอีกแบบจากวันนี้ 

ช่วงนั้นเราหนี เราไม่เข้าใจว่าตัวเองคิดอะไร หรือต้องรับมือกับปัญหาที่เข้ามายังไง อย่างเพลง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า คือการเดินหนี ไวน์ คือการยอมแพ้ ส่วน ปีศาจ คือความไม่เข้าใจตัวเอง สารหลักของทุกอย่างคือ ‘ยอมตายไม่ก็ว่ายน้ำหนี’ คือเราไม่รู้ว่าเราจะกระโดดขึ้นไปโต้คลื่นน้ำยังไง แต่วันนี้ เราเริ่มรู้แล้วว่าเราควรจะชิลล์กับคลื่นต่างๆ ที่เข้ามาเหล่านั้นยังไง

คุณเคยบอกว่าเพลงคือการพูดแทนตัวคุณ ฟังก์ชั่นของ Crybaby คือการพูดแทนแม็กซ์ เจนมานะในเวอร์ชั่นปัจจุบันด้วยใช่ไหม

ใช่ Crybaby เป็นเพลงที่พูดถึงการยอมรับว่าตัวเองรู้สึกอะไรอยู่ คือผมไม่หนี ผมชนกับมันแบบชนแม่งเลย ไม่ต้องรู้ด้วยว่าตัวเองเป็นใคร ไม่สนใจแล้ว ผมสนใจแค่ว่าถ้าตอนนี้ผมเจ็บ ผมจะบอกตรงๆ ว่าผมเจ็บ ถ้ามันเจ็บจนอยากร้องไห้ผมก็จะร้องออกมาเลย ตอนนี้ผมกำลังจะ 30 แล้วนะครับ ผมคิดว่าผมสู้มาพอแล้ว ผมควรจะชิลล์กับเรื่องต่างๆ ให้มากขึ้น

crybaby มันแปลว่า คนขี้งอแง, ผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมโต ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยถูกสอนมาว่า การร้องไห้คือความอ่อนแอนะเว้ย แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ สำหรับผม crybaby มันคือคนที่ยอมรับว่าตัวเองรู้สึกอะไร โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดอะไร ไม่ต้องการกำแพง อยากจะร้องก็ร้อง เสียใจก็ร้อง ดีใจก็ร้อง ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องแอ๊บ แล้วก็ไม่ต้องสนด้วยว่าใครจะคิดยังไง เขาจะว่าเราอ่อนแอก็เรื่องของเขา ถ้าร้องไห้แล้วมันดีกับจิตใจเราก็ทำไปเถอะครับ

อะไรทำให้คุณเลือกที่จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองขนาดนี้

ก่อนหน้านี้ผมร้องไห้ไม่ออกเลย ทั้งๆ ที่ข้างในเราไม่ไหวแล้ว แต่ทำยังไงก็ร้องไม่ออก จนมีช่วงหลังๆ ที่ทำอัลบั้ม หมอให้ผมกินยา เหมือนสารเคมีมันส่งผลกับสมอง อยู่ๆ ผมก็ร้องไห้ได้ จำได้ว่ามันเป็นการร้องไห้ให้แฟนผมเห็นครั้งแรก ผมร้องไห้จริงจังมาก ซึ่งมันรู้สึกเหมือนได้ระบายออก สบายใจมาก (ลากเสียงยาว) มันทำให้ผมเรียนรู้ว่าจริงๆ การร้องไห้มันดีกับสุขภาพจิตนะ

คนชอบพูดว่าเพราะโซเชียลมีเดียนี่แหละที่ทำให้คนซึมเศร้ากันมากขึ้น คุณคิดยังไงกับคำพูดนี้

ผมว่าเกี่ยวนะ โซเชียลมีเดียทำให้เราสนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรา พูดแล้วมันย้อนแย้งมาก คนแบบผมจะชอบคิดวนๆ กับเรื่องเดิมๆ เช่น อันนี้เราอยากให้คนอื่นรู้ แต่เราก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เราอยากให้คนอื่นสนใจเราบ้าง แต่เราก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นสนใจเรามากขนาดนั้น บางทีก็แคร์มาก บางทีก็ไม่แคร์เลย นึกออกไหม 

พอมันยิงไปยิงมาแบบนี้มันทำให้เรางงตัวเองเว้ย ผมเคยเป็นจนผมเบื่อ ผมไม่อยากจะไปต่อกับมันแล้วเลยปิดเฟซบุ๊กตัวเอง เลิกเล่นไปเลย แล้วผลลัพธ์มันดีมากเลยนะครับ ผมเจอแต่กับพ่อแม่ น้อง แฟน แมว เจอคนที่เขาแคร์เรา แล้วเราก็ไม่ต้องไปแคร์คนที่ไม่ได้จำเป็นกับชีวิตเราจริงๆ ผมรับมือกับตัวเองได้ดีขึ้นด้วย รู้สึกกับคนที่ปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตจริงนี่แหละ ดีและชัดเจนที่สุดแล้ว

ดูเหมือนที่ผ่านมาคุณได้ใจคนฟังที่มีอาการซึมเศร้าเยอะเหมือนกันนะ

ผมอยากตะล่อมพาพวกเขาไปที่อื่นต่อ อยากพาไปที่ที่แฮปปี้บ้าง คือตอนนี้ผมรู้ว่าแฟนคลับผมเป็นคนยังไง ผมอยากจะช่วยทุกคน ผมมีของที่อยากจะให้ทุกคนอยู่ ถ้าผมอยากจะดีขึ้น ไปด้วยกันนะ เรารู้ว่านายเป็นยังไง เราจะไม่ทิ้งนายหรอก

ตั้งแต่เป็นศิลปินมา มีเหตุการณ์ไหนบ้างที่ยืนยันว่าการทำเพลงให้เป็นเพื่อนกับคนฟังคือทางที่ถูกต้องของแม็กซ์ เจนมานะแล้ว

มีเยอะเลยครับ หลายครั้งที่เขามาหาผม ‘พี่ เพลงพี่ช่วยชีวิตผมไว้เลยนะ’ หรือแบบ ‘พี่ เพลงพี่ทำให้ผมนึกถึงแฟนเก่าผมอะ’ ตอนได้ยินผมก็กึ่งๆ จะไม่เชื่อนะ เอาจริงๆ ศิลปินแต่ละคนจะไม่รู้เลยว่าเพลงของตัวเองมีความหมายกับคนอื่นขนาดไหน จนกระทั่งมีคนเดินเข้ามาบอก เสียงเหล่านี้แหละที่มันคอนเฟิร์มกับผมว่าสิ่งที่ผมทำมันถูกทางแล้ว ซึ่งแค่นี้สำหรับผมมันพอแล้วนะ

ความสำเร็จของ Let There Be Light ส่งผลกับอัลบั้มใหม่ที่จะวางไหม

ส่งจนเลิกส่งแล้วครับ ผมคิดเยอะจนเกือบจะกลับมาดีเพรสเลย กูสู้มันไม่ได้ว่ะ กูจะทำยังไงกูถึงจะสู้รอบที่แล้วได้ (หัวเราะ) คิดจนเครียดไปเลย แต่สุดท้ายก็ต้องคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วมันก็ดีแล้วไง ซึ่งผมจะยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้ทุกอัลบั้มไม่ได้ ไม่งั้นเราจะคิดเยอะจนรู้สึกไม่มีความสุขละ ฉะนั้นผมก็เลยเลือกที่จะวาง ยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นตอนนี้อะ 

จริงๆ Crybaby มันเป็นเพลงระบายอารมณ์นะถ้าลองฟังดีๆ โซโล่กีตาร์นี่มันคือการปล่อยทุกอย่างออกไป เป็นร็อกแบบระบายอารมณ์อะไรทำนองนี้

ซาวนด์กีตาร์เท่มาก ดนตรีในเพลงนี้ถือเป็นการเติบโตอีกอย่างหนึ่งของคุณหรือเปล่า

โอ้ ก่อนอื่นต้องขอบคุณครับ คือจริงๆ ผมก็ยังมั่วๆ กับมันประมาณหนึ่ง (หัวเราะ) พาร์ตดนตรีอัลบั้มนี้ผมยืมมือศิลปินที่ผมอยากชวนเขามามีส่วนร่วม อย่างอัลบั้มก่อนจะมีความกีตาร์โปร่ง เป็นศิลปินเดี่ยวอะไรงี้ใช่ไหมครับ อัลบั้มนี้จะมีความเป็นวงดนตรีมากขึ้น อย่างเพลง Crybaby ผมชวนพี่มาตร Groove Riders (มาตรชัย มะกรูดทอง) มาคิดกลองให้ อย่างเพลงที่สองที่สามจะมีกิมมิกอื่นๆ ที่โผล่ขึ้นมา ชนกับดนตรีแนวอื่นๆ มากขึ้นด้วย

แล้ววิธีการร้องไห้ที่ถูกต้องในความคิดคุณมันควรเป็นยังไง

การร้องไห้ที่ถูกคือการร้องไห้ให้ตัวเอง ถ้าเกิดคุณร้องไห้ได้โดยที่ไม่ต้องแคร์อะไรก็ร้องออกมาเลยครับ ร้องแบบไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้วผมว่ามันจะดีกับตัวคุณเอง แต่ถ้าคุณยังแคร์อยู่ว่าใครจะคิดยังไงกับเรา เรื่องมันจะไม่จบ เรื่องมันจะไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าถ้าเรายอมรับว่าตัวเองรู้สึกยังไง ไม่ต้องรอใครมานั่งเป็นเพื่อนหรอก อยากร้องก็ร้องออกมาเลยมันน่าจะดีนะ แต่ความเป็นจริงมันยากมากครับ เพราะบางครั้งผมก็ทำไม่ได้ เพลงนี้มันเลยมีฟังก์ชั่นบอกตัวเองและก็บอกคนอื่นด้วย ว่าถ้ารู้สึกแบบไหนอยู่ก็รู้สึกไปเลย 

ผมเคยอ่านงานวิจัยชิ้นหนึ่ง เขาบอกว่าการร้องไห้คือกระบวนการธรรมชาติของมนุษย์ มันคือการบาลานซ์ความรู้สึก บาลานซ์สารเคมี บาลานซ์ทุกอย่าง การร้องไห้เลยดีกับสุขภาพ เพราะฉะนั้นอย่ากั๊ก อย่าแอ๊บครับ อยากร้องก็ร้องเลย อย่าไปกลัวมัน 

ผมยอมรับนะว่าตอนนี้ผมเป็นคนขี้แย ดูหนังเรื่องอะไรก็ร้องไห้ได้ กลายเป็นว่าผมสามารถร้องไห้ได้ง่ายมากเลยอะ ช่วงนี้นะ

ไหนลองซิ นึง ส่อง ซั่ม 

ไม่ได้สิ (หัวเราะ) 

ขอบคุณสถานที่ Black Cabin

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์

ชีวิตต้องมีสีสัน